The Best Examples Of Visual Communication ที่แบรนด์ควรรู้
อัปเดต The Best Examples Of Visual Communication ที่แบรนด์ควรรู้
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Adges.net ระบุว่ามหาวิทยาลัย St. Gallen ได้มีการทำการทดลอง การใช้ภาพ (Visualisation) มาเป็นกลยุทธ์การสื่อสารในธุรกิจ จากหลายรูปแบบเลย ผลสรุปว่าการนำเสนอด้วย Graphic Presentation สามารถเรียกความสนใจจากผู้เข้าร่วมทำการทดลองได้มากที่สุด และไม่แค่เรียกความสนใจแต่ยังจดจำ รายละเอียดของข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้ฟังและดูไปได้ดีเมื่อเทียบกับแบบอื่น ๆ ค่ะ
ถ้านักการตลาดมองกลับมาว่าความเป็นยุคแห่ง Data มี Big Data มากมายที่เราควรหยิบมา วิเคราะห์และลอง Visual ก่อนนำมาเป็นสื่อกลางในการ Communication ไปยังผู้รับสารหมวดต่าง ๆ ทั้งลูกค้า พนักงาน ผู้บริหาร หรือบุคคลทั่วไป เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาให้แบรนด์ดูมีภาพลักษณ์ที่ทันเทรนดืมากขึ้นลองเปลี่ยนหรือเอาคอนเทนต์เดิมมาเช็กอีกทีว่าตรงกับ The Best Examples ข้อไหนไหม นอกจาก Graphic แล้วยังมีแบบไหนที่ยังไม่เคยเราทำบ้างนะ
#1 Illustrations
การใช้ illustrations ประกอบเป็นวิธีที่เหมาะมากถ้านักการตลาดมีข้อมูลที่เยอะมาก ๆ แล้วต้องการจะสรุปให้อยู่ใน 1 หน้า อย่างพวกข้อมูลมีลักษณะที่เชื่อมโยงกันเยอะ ๆ ข้อดีคือสามารถออกแบบได้ตามข้อมูลของเรา กำหนดองค์ประกอบได้ตามต้องการ ยิ่งถ้าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมากแบบในตัวอย่าง ที่อธิบายถึง Facebook กินพื้นที่เบียด ๆ ร่วมกับ WhatsApp จากจีน ซึ่งตอนนี้ Facebook คือ Meta ที่กำลังพัฒนาการเชื่อมต่อทางดิจิทัลใน metaverse ซึ่งกราฟิกนี้อ้างอิงจาก Visual Capitalist ช่วยให้เข้าใจได้ใน 1 ภาพเลยใช่ไหมคะ
นักการตลาดก็ลองนำไปปรับใช้กับคอนเทนต์หรือข้อมูลเทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ หรือทำเป็น Report เพื่ออัปเกรด Visual Communication กับผู้บริหารหรือทีมได้ดียิ่งขึ้นก็ได้ค่ะ
#2 Images
มุขเก่าแต่ก็สื่อสารรูปลักษณ์ได้ดีอย่างปฏิเสธไม่ได้ รูปดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ทั้งการโปรโมตสินค้า การโพสต์เพื่อรีวิวให้ทุกคนรู้ว่าหน้าตา สี และลักษณ์เป็นอย่างไร ถ้าใครทำเว็ปด้วยก็คงจะพอนึกออกว่าการใส่ภาพช่วยอธิบายให้เห็นภาพได้ดีแค่ไหน ในบทความที่ทุกคนกำลังอ่านอยู่เช่นกัน นุ่นเชื่อว่าต้องเลื่อนดูภาพประกอบบทความหรือภาพปกเว็บก่อนกดเข้ามาอ่านแน่นอนเลย
อยากเน้นย้ำว่าการแทรกรูปภาพสามารถทำให้มีประโยชน์ต่อ SEO ได้นะคะ โดยการตั้งชื่อให้มี Keyword เดียวกับบล็อกหรือบทความเรา เพื่อให้คนที่เสิร์ชเจอคอนเทนต์เราบน Google ได้ง่ายขึ้นด้วย
#3 GIFs
GIFs ถูกใช้สื่อสารได้ในหลายระดับเลย ตั้งแต่คอนเทนต์ที่ต้องการเน้นโปรโมชั่นฮอต เกม พรีวิวสินค้า มีมตลก ๆ และทำได้ไม่ยากด้วย จะผ่านโปรแกรมเฉพาะหรือเว็บฟรีก็มีค่ะ การที่มันขยับได้ในการเคลื่อนไหวสั้น ๆ ก็เหมาะกับโซเชียลยุคนี้อยู่เหมือนกันนะคะ มันไม่ได้ยาวเท่าวิดีโอ ไม่ได้นิ่งเหมือนกราฟิกหรือรูปภาพ แต่สามารถสื่อสารได้มากกว่า 1 มิติถ้านักการตลาดต้องการ
ใช้บอกความรู้สึกแทนสติกเกอร์ยังได้เลยค่ะ ลองคอมเมนต์ความรู้สึกหลังอ่านบทความนี้จบมาคนละ 1 GIFs ใต้โพสต์การตลาดวันละตอนนี้ได้ไหมคะ ^^?
#4 Animations
ภาพประกอบที่เคลื่อนไหว มีความโดดเด่นด้วยอิสระในการสร้างสรรค์เช่นกัน สามารถใช้เพื่อให้ความรู้ นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ How to สั่งสินค้าเป็นต้น ตัวอย่าง Animation ด้านบนเป็นไกด์สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่น NFT Games เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าต้องใช้เวลาอธิบายยาววววว พอสมควร ใช้ Animation ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ
ใครที่กำลังศึกษาเทรนด์นี้อยู่นุ่นแนะนำดูคลิปนี้แล้วจะเข้าใจ NFT Games ได้ประมาณนึงเลย
3 ทริกใช้ Visual Communication ให้ได้ผลดี
กลยุทธ์การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจะแตกต่างกันไปตามลักษณะเฉพาะของแบรนด์ และจุดประสงค์ของคอนเทนต์นั้น ๆ อย่างไรก็ตาม มี 3 ทริกแนะนำมาปิดท้ายบทความนี้ ถ้าทำได้รับรองว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จในการทำ Visual Communication สูงแน่นอนค่ะ
- ต้องรู้จัก Audience : เหมือนกับการทำการตลอด หรือการทำงานหลาย ๆ ประเภทคือเราต้องรู้จักคนที่เป็น Audience เราให้ดีที่สุดเป็นข้อสำคัญ ถึงจะสามารถปรับรูปแบบประเภทคอนเทนต์ได้อย่างถูกต้อง ถ้าไม่รู้จักคนรับสารของเราให้ดีแล้วทำตามที่ใจคิดว่าถูก แบบนี้ไม่ต่างกับซื้อหวยแล้วภาวนาให้มันถูกเลยนะคะ
- สอดคล้อง Identity ของแบรนด์หรือองค์กร : การที่แบรนด์สามารถปล่อยคอนเทนต์แล้วคนจำได้ว่าของแบรนด์ไหนก่อนจะเห็นโลโก้นั่นจะถือว่าประสบความสำเร็จในข้อนี้ ตัวอย่างเช่น Coca Cola ใช้สีแดง Pepsi ใช้สีฟ้า สีดำ และไม่ใช่แค่สีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบภาพทั้งหมดที่รวมอยู่ในคอนเทนต์หรือเอกสาร เหมือน Apple ที่ใช้รูปแอปเปิ้นโดนกัดรูปเดียว เพราะฉะนั้นก่อนจะ appove งานเสร็จต้องเช็ก Identityให้สอดคล้องกันด้วยนะคะ
- มี Value Quality : คุณภาพก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำ visual communications หลังจากกำหนด Audience และ Identity ได้แล้ว ให้นักการตลาดเริ่มหาวิธีเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องและคนที่ professionals พอจะ work ต่อได้ จะช่วยให้ครบสูตรมากขึ้นค่ะ ถ้าใครมีวิธีไหนอีก มาแชร์กันในคอมเมนต์ได้เลยนะคะ นุ่นรออ่านไอเดียจากทุกคนอยู่เหมือนกันค่ะ
ครบแล้วค่ะกับ 4 รูปแบบของการทำ Visual Communication ที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ อยากให้นักการตลาดลองศึกษาแต่ละแบบและเลือกใช้ให้เหมาะกับจุดประสงค์กับคอนเทนต์ของตัวเองนะคะ พร้อมเสริม 3 ทริกใช้ Visual Communication ให้ได้ผลดีมาปิดท้ายบทความเพิ่มด้วย คัดเฉพาะมาให้อ่านได้แบบเน้น ๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ และถ้านักการตลาดอยากติดตามบทความอื่น ๆ เพิ่มเติม ยังสามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนค่ะ=
