กลยุทธ์ Hero Product ช่วยสาว ๆ GEN Z แก้ปัญหาวันแดงเดือด
กลยุทธ์ Hero Product ช่วยสาว ๆ GEN Z แก้ปัญหาวันแดงเดือด ของชุดชั้นใน Modibodi
สวัสดีค่ะในครั้งนี้ผู้เขียนขอนำไอเดียจากแคมเปญหนึ่งที่มีความน่าสนใจมากโดยใช้กลยุทธ์ Hero Product มาใช้ในการทำการตลาดกันค่ะ
Hero Product เป็นวิธีการทำการตลาดโดยหา Pain point ของกลุ่มลูกค้าที่มักจะเจอกับปัญหานี้ โดยที่แบรนด์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ ออกมาในรูปแบบของการแก้ไขปัญหา หรือเป็นตัวช่วยส่งเสริมเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของลูกค้าของแบรนด์ดีขึ้นกว่าเพิม
ครั้งนี้ได้คัดเลือกแคมเปญดี ๆ ที่เข้าใจคุณผู้หญิงโดยเฉพาะและได้ใช้กลยุทธ์นี้มาฝากกันค่ะ แต่คุณผู้ชายก็สามารถอ่านได้นะคะเพราะเป็นเคส Study ที่มีประโยชน์สำหรับธุรกิจ หรือแบรนด์สินค้าที่มีความสนใจอยากนำอินไซท์ของลูกค้ามาวิเคราะห์ เพื่อหาจุดขายในการตอบโจทย์ แก้ปัญหาให้กับลูกค้า และนำไปวิเคราะห์สื่อเพื่อทำการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
สำหรับผู้หญิงทุกคนปัญหาของการมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องพบเจออยู่ทุกเดือน ไม่ว่าใคร นั่นก็คือความไม่มั่นใจช่วงมีประจำเดือน แม้กระทั่งผู้เขียนก็เจอกับปัญหานี้เหมือนกันค่ะ
Modibodi แบรนด์ชุดชั้นใน ที่มี New Product ที่ออกมาเพื่อตอบโจย์สำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือน และคนที่มีปัญหาการอั้นปัสสะวะและในครั้งนี้ ทางแบรนด์เลือกที่จะ Focus กลุ่มลูกค้า Gen Z ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน แต่ด้วยความที่สินค้านี้เป็น New Product และ แบรนด์ไม่เคยทำการตลาดกับลูกค้ากลุ่มนี้มาก่อน จึงทำให้แบรนด์ ต้องมาวิเคราะห์ Insight เพื่อหาวิธีการทำการตลาดและการสื่อสารสำหรับคนกลุ่มนี้
วิเคราะห์ กลยุทธ์ Insight Target GEN Z หาเหตุผล ที่ผู้หญิงต้องการเวลามีประจำเดือน
1.ความสะดวกสบาย ความมั่นใจว่าจะไม่เกิดการไม่รั่วไหล พวกเขาต้องเชื่อมั่นจริงๆ ว่ามันจะได้ผล เพราะช่วงเวลาที่มีประจำเดือนมันทำลายความมั่นใจมากเลยค่ะ ผู้หญิงต้องระมัดระวังว่าจะเลอะประจำเดือนหรือไม่
2.ความรู้สึกที่มีอะไรแตกต่างไปจากชุดชั้นในทั่วไป สวมใส่สบาย ไม่มีรอยจากการใส่ผ้าอนามัย นี่ก็เป็นตัวบั่นทอนความมั่นใจช่วงที่มีประจำเดือนของผู้หญิงเลยค่ะ
จากการวิเคราะห์ Insight แล้ว ยังมีจุดขายของสินค้าที่แบรนด์อยากนำเสนอเพื่อเป็นจุดขายอีก หนี่งอย่างนั่นก็คือชุดชั้นในที่ผลิตจากเนื้อผ้าที่เหมาะสมและได้รับการออกแบบมาให้มีอายุการใช้งานยาวนานมาก
เมื่อได้ Insight แล้ว ทางแบรนด์ก็มาวิเคราะห์สื่อต่อ ด้วยกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่ม GEN Z จึงปักหมุดเลยว่าต้องเป็นสื่อ Tiktok และด้วยความที่เป็นสินค้าใหม่การตัดสินใจซื้อเลยหลังจากที่โฆษณาไปก็อาจไม่ได้ผล แบรนด์ก็เลยขยายสาขาตามห้างสรรพสินค้าและสาขาต่าง ๆ เพื่อรองรับ omni-channel
หลังจากได้ทั้ง Insight และ ช่องทางการสื่อสารแล้วทางแบรนด์จึงนำมาทำแคมเปญ I’m Dying Inside ที่ Focus การสื่อสารไปที่ กลุ่มผู้ชม Gen Z (อายุ 18 ถึง 25 ปี) และใช้Tiktok เป็นช่องทางการสื่อสาร และออกมาเป็นซีรีย์ที่เกี่ยวกับปัญหาของผู้หญิงตอนมีประจำเดือน เช่นที่นอนเลอะ ความไม่มั่นในตอนใส่ชุดชั้นในตอนเป็นประจำเดือน และทำการโปรโมทลงใน Tiktok
สิ่งที่แบรนด์ได้กลับมาจากแคมเปญ นี้
- การสร้างปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค จากเดิมผู้หญิงทุกคนจะใช้ผ้าอนามัยกันอยู่แล้ว การนำเสนอสิ่งที่ดีกว่าของแบรนด์ ช่วยทำให้ลูกค้าสนใจและเข้าไปดูสินค้าจริงที่สาขา แล้วทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อ
- การสื่อสารที่ชัดเจนและเลือกใช้สื่อที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และนำปัญหาจริงมาสื่อสารให้ลูกค้าเห็นถึงปัญหาและความเป็นฮีโร่ของสินค้าเรา ทำให้ลูกค้ามองเห็นภาพได้มากขึ้นและกระตุ้นทำให้เกิดการอยากทดลองใช้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับเคส Study ในครั้งนี้ ที่ทางผู้เขียนได้นำมาแชร์เป็นไอเดียในการทำการตลาด สำหรับสินค้าเฉพาะกลุ่มสิ่งที่ได้บทเรียนจากในครั้งนี้คือ
ไอเดียในการทำการตลาด GEN Z ที่ได้จากแคมเปญนี้
- การสร้างสินค้าของเราให้มาเป็นผู้ช่วยเพื่อแก้ปัญหาให้กลุ่มลูกค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น คือการกระตุ้นความน่าสนใจให้กับสินค้า
- การจำลองสถานการณ์จริงเพื่อให้ลูกค้ามองเห็นปัญหาได้ชัดเจนขึ้นว่านี่คือสิ่งที่ลูกค้ากำลังเจออยู่และหากลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้าของเราจะได้รับประโยชน์ที่ดีกลับไปอย่างไร
- การเลือกใช้สื่อที่ตรงกลุ่มกับลูกค้าลองคิดดูนะคะ ว่าถ้าหากเราต้องการจะจับกลุ่ม GEN Z แต่เราเลือกจะใช้สื่อที่เป็นโฆษณาทางทีวีจะเกิดอะไรขึ้น อาจจะทำให้สินค้าที่เราขายไม่ประสบความสำเร็จเลย เพราะในยุคนี้กลุ่ม GEN Z นิยมเล่นโซเชียลมีเดียและ TikTok ก็คือคำตอบที่ของ กลยุทธ์ GEN Z ที่นิยมเล่นนั่นเอง
ฉะนั้นแล้วความสำเร็จจะเกิดกับธุรกิจได้ นั้นจะต้องมาจากการวิเคราะห์ที่ตัวกลุ่มลูกค้าเป็นหลักไม่ใช่การวิเคราะห์ที่สินค้า เมื่อเราได้ความต้องการของลูกค้าแล้ว จึงหาวิธีที่จะนำเสนอสินค้าของเราไปเป็นตัวช่วยเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้นห้กับลูกค้า หรือทำให้ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้านั่นเอง
เพราะเทรนด์การตลาดตอนนี้ หมดยุคของการโฆษณาว่าสินค้าของเราดีอย่างไร สวยอย่างไร ไปแล้ว แต่เป็นยุคของการแข่งกันพัฒนาสินค้า เพื่อให้เป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์ ความสะดวกสบาย ทำให้ชีวิตลูกค้าแฮปปี้มากขึ้น นั่นต่างหากจึงจะเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้สินค้าของเราสามารถครองใจ ลูกค้า และนำมาซึ่งการซื้อซ้ำ และบอกต่อของลูกค้านั่นเองค่ะ
สำหรับบทความนี้ผู้เขียนขอตัวลาไปก่อนและสัญญาว่าในบทความถัดไปจะนำแคมเปญดีๆ มานำเสนออีกนะคะ~
อ่านข้อมูลการทำการตลาดอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิกที่นี่ได้เลยค่ะ
อัพเดทข่าวสาร เพื่อติดปีกให้คุณเป็นนักการตลาดที่ไม่ OUT !!! อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ เพจการตลาดวันละตอน เว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนค่ะ