LinkedIn Strategy จาก RivalIQ Report โพสต์แบบไหนดี เพื่อปรับใช้ปี 2024
แพลตฟอร์มที่เป็นสากลและถูกใช้โดยองค์กรใหญ่ ทุกคนน่าจะรู้จักกันในรูปแบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ ถูกใช้เพื่อมุ่งเน้นไปที่การสร้าง Relationship ระหว่างบุคคลทางวิชาชีพและยังได้ผลดีในการทำการตลาดแบบ B2B (Business-to-Business) LinkedIn Strategy คือกลยุทธ์การใช้งานหลักคือการสร้างโปรไฟล์และคอนเนคกันในแพลตฟอร์มค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป นายจ้าง, และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ซึ่ง user มักจะแชร์ประสบการณ์และ Achievement ของตัวเองเอาไว้ หากใครนึกภาพไม่ออกง่าย ๆ ให้นึกถึง CV แบบออนไลน์บนแพลตฟอร์มนั่นเอง สามารถโพสต์และตอบกาหางาน และใช้เข้าถึงข้อมูลและข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมที่เราสนใจอีกด้วยค่ะ ส่วนตัวไม่ได้ใช้บ่อยนัก แต่ที่น่าสนใจคือ LinkedIn ยังมีฟีเจอร์สำหรับโฆษณา, การสร้างคอนเทนต์, และเครื่องมือการวิเคราะห์ที่ช่วยให้บริษัทสามารถประเมินและเพิ่มประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของพวกเขาบนแพลตฟอร์ม เพื่อให้เกิดผลดีต่อ B2B Marketing ค่ะ
ซึ่งในบทความนี้จะมาสรุปรีพอร์ตที่น่าแชร์ เป็นฉบับแรกของทาง RivalIQ นั่นก็คือ LinkedIn Benchmark ประจําปี 2023 เป็นการศึกษาโพสต์บน LinkedIn จำนวนมหาศาลจาก Engagement หลักล้าน ทั้งนี้จะช่วยสรุปพาร์ทที่น่าสนใจให้นักการตลาดไทยได้อัปเดตกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
- สถิติสําคัญเกี่ยวกับความถี่ที่แบรนด์โพสต์บน LinkedIn
- อัตราการมีส่วนร่วม
- วิดีโอส่งผลต่อเอนเกจบน LinkedIn หรือไม่
เพื่อให้สามารถนำไปช่วยวาง LinkedIn Strategy ที่เหมาะกับตัวเองในปี 2024 ต่อไปค่ะ ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย
แบรนด์โพสต์บน LinkedIn เฉลี่ย 3-4 /สัปดาห์
ในระดับ Global แบรนด์มีการโพสต์ไม่ถี่เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถือว่าเงียบเกิน เฉลี่ยที่ 3-4 โพสต์ต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 13 โพสต์ต่อเดือน เดี่ยวเราจะมาดูกันต่อว่าโพสต์แบบไหน และได้เอนเกจเมนต์ที่น่าพอใจจะต้องทำอย่างไรกันต่อค่ะ
สถิติการโพสต์ LinkedIn ต่อสัปดาห์ ตามขนาดแอคเคาท์
- แอคเคาท์ที่มีผู้ติดตาม 2K-5K ถือเป็นขนาดเล็ก เฉลี่ยประมาณ 2 โพสต์ต่อสัปดาห์
- แอคเคาท์ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 100,000 คนโพสต์บ่อยเป็นสองเท่าประมาณ 5 ครั้งต่อสัปดาห์เลย
คอนเทนต์ที่ถูกโพสต์มากที่สุดคือ Photo
เรามาดู TOP3 เรียงจากจำนวนการโพสต์กันว่าเป็นคอนเทนต์ประเภทใดมากน้อยที่สุดบน LinkedIn
- โพสต์แบบรูปภาพ 42%
- บทความ 23%
- วิดีโอ 17%
ตัวอย่างการใส่ Professional Story
แต่คอนทนต์แบบ Document ได้รับ Engagement Rate by Impression ดีที่สุด!?
การใช้ LinkedIn เป็นการอ่านคอนเทนต์ที่ต้องอ่านดีเทลมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ จริงอยู่ที่มีการโพสต์แบบภาพเยอะ แต่ยอด impression แสดงให้เราเห็นว่าต้องมีประเภท Document เพราะเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์เอกสารที่มีรูปแบบหลากหลายบนโปรไฟล์ของตัวเองได้ค่ะ เช่น PDF, PowerPoint, Word หรือไฟล์ข้อความอื่นๆ วิธีการทำคือ:
- ไปที่ ‘Start a post’ ที่ด้านบนของฟีดหน้าแรก
- คลิกที่ไอคอน ‘Add a document’ ที่ด้านล่างของหน้าต่างโพสต์
- เลือกเอกสารที่คุณต้องการแชร์
- เพิ่มคำอธิบายหรือแฮชแท็กเพื่อให้คนอื่นเข้าใจเนื้อหาของเอกสารซักหน่อย
- คลิกโพสต์เพื่อแชร์เอกสารได้เลย
LinkedIn Case Studies
มาดูตัวอย่างการใช้แพลตฟอร์มเพื่อธุรกิจจาก Texas Christian University ที่มีโพสต์มากกว่า 4 เท่าในช่วงที่มีกิจกรรมในมหาวิทยาลัยไปจนถึงความสําเร็จของศิษย์เก่า TCU สิ่งนี้ก็เป็น Achievement ที่ควรนำมาโชว์เยอะ ๆ ทําให้ผู้ติดตามมีส่วนร่วมและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับมหาวิทยาลัยอย่างดีเลยค่ะ
แนะนำสำหรับนักการตลาด LinkedIn สามารถใช้ทำการตลาดได้หลายวิธี
- Profile Optimization: ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและแสดงว่าเราเนี่ยแหลมีความเชี่ยวชาญ ด้วยแสดงความสามารถและผลงานให้เห็น
- Content Publishing: แชร์บทความ หรือบล็อกโพสต์เพื่อแสดงความเชี่ยวชาญและเพิ่มการมีส่วนร่วม
- Groups Participation: เข้าร่วมหรือสร้างกลุ่มเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเดียวกัน
- ใช้ LinkedIn Ads: ทำการโฆษณาแบบเลือกเจาะเซ็กเมนต์ที่หลากหลาย
- Networking: เชื่อมต่อกับผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
- Direct Messaging: ใช้ InMail เพื่อติดต่อได้โดยตรง
- LinkedIn Insights Analytics: ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อติดตามประสิทธิภาพของคอนเทนต์และแคมเปญ
LinkedIn สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการตลาดและการสร้างแบรนด์ในโลกทางธุรกิจ
สรุปประเด็นสําคัญของ LinkedIn Data Benchmark Report
ในระดับสากลอัตราการมีส่วนร่วมของ LinkedIn นั้นเกือบเทียบเท่ากับช่องทางอื่น ๆ คนไทยส่วนใหญ่อาจไม่คุ้นหรือไม่เคยใช้แพลตฟอร์มนี้ แต่เป็นที่รู้กันดีในหมู่คนทำงานและองค์กรว่าเป็นช่องทางที่เมินไม่ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นการทำ LinkedIn Strategy จึงเป็นสิ่งจำเป็นนะคะ
นอกจากนี้บน LinkedIn คอนเทนต์ประเภทวิดีโอก็สําคัญ และปัจจุบันแบรนด์ต่าง ๆ มีการใช้งาน LinkedIn เป็นสองเท่าของ TikTok ในระดับ Global เกี่ยวกับการสร้างโปรไฟล์ คอนเนคชั่น ทำการตลาด เพราะจากสถิติที่แบรนด์ได้โพสต์เฉลี่ยอยู่ที่ 3.3 ครั้งต่อสัปดาห์บน LinkedIn ซึ่งมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับความถี่ในการโพสต์จากรายงาน TikTok ของ RivalIQ ในปีนี้
ประเด็นที่สำคัญปิดท้ายคือแอคเคาท์ไม่จำเป็นต้องมีผู้ติดตามเยอะจากสถิติบัญชีที่มีผู้ติดตามน้อยสามารถมีส่วนร่วมและมีประสิทธิภาพเหนือกว่าแอคเคาท์ที่ใหญ่กว่าบน LinkedIn ได้ค่ะ สุดท้ายหากใครอยากแชร์ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ LinkedIn ก็อย่าลืมคอมเมนต์เข้ามานะคะ รออ่านเลย~