สรุป 11 FAQ YouTube สำหรับ Creator อ่านจบแล้วเข้าใจยูทูปขึ้นเป็นกอง

สวัสดีค่ะ Marketer ทุกท่าน สำหรับบทความนี้ตั้งใจเขียนมาเพื่อ แชร์ 11 คำถามพบบ่อยสำหรับ Creator ที่อยากเพิ่มยอดวิวให้ช่อง Youtube มาฝากกันค่ะ ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อสงสัยที่ มักเจอปัญหา แล้วนำไปปรับปรุงเพื่อเพิ่มยอดวิวให้กับช่องของตัวเองกันค่ะ

ในปัจจุบัน Youtube มีการแบ่งประเภทของวิดิโอ เป็น 3 แบบ คือ

• วิดีโอรูปแบบ “Shorts” วิดีโอสั้นที่มีความยาวไม่เกิน 60 วินาที 
• มีวิดีโอทั่วไปที่มีความยาว 60 วินาที 
• การสตรีมสด  

ซึ่งการทำยูทูปนี้ก็เป็นอาชีพขายคอนเทนต์ที่สร้างรายได้อย่างงามให้กับเหล่า Youtuber อีกทั้งยังสร้างรายได้จากโปรแกรมพาร์ทเนอร์ของ YouTube ได้อีกด้วย 

ไขข้อสงสัยกับ 11 คำถามพบบ่อยจาก Youtube สำหรับ Creator

สำหรับคำถามที่มักพบบ่อยจากยูทูปนี้ ได้สรุปมาเป็น Q&A เพื่อให้ได้อ่าน และเข้าใจง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ

1. Q : จริงหรือไม่ ที่วิดิโอ และวิดิโอ Shorts ที่ไม่สร้างรายได้นั้นจะไม่แสดง หรือแนะนำวิดีโอนั้นให้คนดูได้เห็น

A : ไม่จริงค่ะ เพราะระบบการค้นหา (Search) และการแนะนำ(Recommendation) ของ YouTube ไม่สามารถมองเห็นสถานะการสร้างรายได้ของแต่ละวิดิโอได้ แต่จะเน้นที่ Content ที่คนดูต้องการชมมากกว่าค่ะ หมายความว่า ถ้าหากเราผลิต Content ที่คนดูสนใจ และSearch หา ถึงแม่ว่าจะยังไม่สร้างรายได้ ก็จะขึ้นแน่นอนค่ะ

2. Q : จริงหรือไม่ ถ้าหากวิดีโอ Shorts ที่ทำมีคนดูน้อยก็จะส่งผลให้คนดูวิดีโอแบบยาวน้อยตามไปด้วย?

A : ไม่จริงค่ะ  เพราะไม่ว่าผลของการทำวิดิโอ Shorts จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ไม่มีผล อะไรกับการแนะนำวิดีโอแบบยาวเลย และในทางกลับกัน Shorts ที่มีคนดูไม่มากนัก ก็อาจจะกลายเป็นช่องทางเลือกให้ผู้ชมใหม่ๆ ค้นพบช่องคุณ รวมทั้งวิดีโอแบบยาวที่โชว์อยู่บนช่องคุณอยู่แล้วก็ได้

3. Q :  วิดีโอ Shorts ที่ไม่มีปก (Thumbnail) จะทำให้คนดูไม่กดเข้าไปชม และจะทำให้อัตราการคลิกต่อการมองเห็น (CTR: Click through rate) น้อยตามไปด้วย?

A : ไม่จริงค่ะ  เพราะยอดวิวส่วนใหญ่ของ Shorts มาจาก Shorts Feed ที่คลิปเล่นไหลไปเรื่อยๆ ซึ่งปกติ Thumbnail และอัตราการคลิกต่อการมองเห็น (CTR: Click through rate) นั้นไม่ได้ส่งผลเกี่ยวข้องเลย

ที่มา : YouTube

4. Q: ต้องอัปโหลดวิดีโอกี่ครั้งต่อสัปดาห์ ถึงจะประสบความสำเร็จ

A : ความสำเร็จ หรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกำหนดจำนวนครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ แต่ควรให้ความสำคัญกับความสม่ำเสมอ  ด้วยการลองทำตารางการผลิต และอัปโหลดวิดีโอที่เหมาะสมกับตัวเอง และสิ่งหนึ่งที่ควรระวังคือการอัปโหลดวิดีโอที่มากเกินไปอาจกระทบต่อคุณภาพของผลงาน ที่อาจจะส่งผลเสียต่อช่องมากกว่าที่จะช่วยช่องให้เติบโตได้นะคะ เพราะการที่โหลดวิดีโอที่มีคุณภาพได้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คนดูและแฟนๆ รู้สึกผูกพันและจะคอยติดตามผลงานและมีปฏิสัมพันธ์กับวิดีโอของคุณ 

5. Q : จริงหรือไม่? ในกรณีที่คนดูแจ้งว่าไม่เห็นมีการแจ้งเตือนหลังจากที่มีการอัปโหลดวิดีโอใหม่ เป็นเพราะว่า YouTube มีการแก้ไขในระบบหลังบ้าน 

A : ไม่จริงค่ะ เพราะ ในระบบของ YouTube มีวิธีการตั้งค่าการแจ้งเตือนอยู่ 3 แบบ ได้แก่ แบบที่ปรับตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้น แบบไม่เตือนเลย และแบบเตือนทั้งหมด

6. Q : จริงหรือไม่? ที่ YouTube มีการลบผู้ติดตามออกจากช่องของเราได้เอง 

A : ไม่จริงค่ะ  เพราะระบบหลังบ้านของ YouTube ไม่สามารถไปกดลบยอดผู้ติดตามออกจากช่องต่างๆ ได้ค่ะ แต่ในกรณีของช่องที่ถูกสร้างมาเพื่อสแปม ใช้ปั้มยอดวิว ปั้มยอดผู้ติดตาม รวมทั้งช่องต่างๆ ที่ทำผิดกฎของ YouTube หรือ Google แล้ว หากถูกปิดตัวลงจะไม่รวมเข้ามาในยอดวิวหรือยอดผู้ติดตามช่อง

หมายถึงหากช่องของคุณเลือกวิธีการตั้งค่าแบบแรก คนดูจะได้รับการแจ้งเตือนสำหรับการอัปโหลดวิดีโอยาว Shorts และการสตรีมแบบสด บางรายการจากช่องคุณ โดยอิงจากพฤติกรรมที่ผ่านมาของคนดูที่ประกอบไปด้วยประวัติและความถี่การเข้าชมวิดีโอจากช่องคุณ  

7. Q : Creator ช่องใหญ่ๆ และช่องที่มีผู้ติดตาม YouTube เป็นจำนวนมากมักจะประสบความสำเร็จในการหารายได้ จากช่องทางอื่นๆ เช่น Fan Funding จริงหรือไม่?

 A :ไม่จริงค่ะ  เพราะช่องที่ประสบความสำเร็จ ไม่จำเป็นว่าจะต้องมียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมากเสมอไป เพราะแต่ละช่องสามารถสร้างรายได้จาก Super Chat และ Super Stickers ได้ จะเห็นได้จากช่องจำนวนมากที่ทำคอนเทนต์แล้วให้คนดูมีส่วนร่วมกับวิดีโอของพวกเขาตอนทำสตรีมแบบสด ซึ่งได้ยอด Supers เป็นจำนวนมากถึงเป็นหลักแสนจนถึงหลักล้านบาทเลยที่เดียว 

Tips : นอกจากนี้ การที่ช่องมียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมากก็จะช่วยให้ยอด Supers มากขึ้นตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปแล้ว เพราะสิ่งสำคัญคือการสร้างคอนเทนต์ที่สามารถให้คนดูมีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดีซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จแล้ว

8. Q : จริงหรือไม่? เราสามารถนำเพลงที่ต้องการ มาใช้เพลงประกอบในวิดิโอได้ หากเป็นเพลงที่มีความยาวไม่เกิน 7 วินาที อย่างเช่นท่อนฮุค และสามารถใช้เพลงอะไรในวิดีโอได้บ้าง?

A : ไม่จริงค่ะ  เพราะหากไม่มีการขอสิทธิ์จากเจ้าของลิขสิทธิ์ของเพลงนั้นๆ ช่องไม่สามารถใช้เพลงนั้นได้ โดยทางเจ้าของลิขสิทธิ์จะสามารถยื่นฟ้องทางกฎหมายกับ YouTuber ไม่ว่าจะใช้เพลงนั้นที่ความยาวเท่าไหร่ เพื่อนำวิดีโอนั้นลงจากแพลตฟอร์ม และถ้าช่องคุณโดนเแจ้งเกิน 3 ครั้ง ใน 90 วัน ช่องอาจจะถูกปิดตัวลงได้เลย  รวมทั้งหากคุณไปถ่ายทำวิดีโอตามสถานที่ต่างๆ แล้วบังเอิญสถานที่นั้นได้เปิดเพลง หรือแม้กระทั่งมี Sound Effect บางอย่างของเพลงนั้นเข้ามาอยู่ในวิดีโอของคุณก็ถือว่าไม่ได้

ส่วนเพลงที่สามารถนำมาใช้ได้ก็คือเพลงที่อยู่ใน Library ของ YouTube เท่านั้น เพราะมีการอนุญาตด้านลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น คุณต้องมั่นใจว่าคุณมีสิทธิ์ทั้งหมดในตัววิดีโอของคุณก่อนที่จะอัปโหลดทุกครั้ง

9. Q : จะทำอย่างไรเพื่อให้คนเห็นวิดีโอของคุณเพิ่มขึ้น 

A : อัลกอริทึมของ YouTube ติดตามคนดู หากคนดูคอนเทนต์ในประเทศไทยมีจำนวนมาก ก็จะส่งผลให้วิดีโอนั้นถูกแนะนำให้คนดูในประเทศไทยเข้ามาชมมากขึ้น

สถานที่ตั้งของช่องไม่ได้ถูกใช้งานในอัลกอริทึมของ YouTube ดังนั้น หากต้องการให้คนดูประเทศไหนดูวิดีโอของคุณเพิ่มขึ้น ก็ต้องให้คนที่อยู่ในประเทศนั้นดูมากขึ้นเช่นกัน

10. Q : ต้องทำอย่างไร หาก YouTube มีคำแนะนำให้ Creator สามารถเรทวิดีโอตัวเอง (Self-certification) เพื่อช่วยในการตัดสินใจของระบบ

และหาก Creator เรทวิดีโอไหนเป็นที่เป็น limited ads หรือมีไอคอนสีเหลือง ระบบจะไม่แสดงวิดีโอนั้นใน search & discovery ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ Creator ไม่อยากทำ เพราะต้องการให้คนดูเห็นวิดีโอเยอะๆ 

ที่มา : freedom.support.tm

A : Self-certification คือการรับรอง หรือเรทตัววิดีโอว่าควรที่จะได้ไอคอนการสร้างรายได้สีอะไร เพื่อกำหนดว่าวิดิโอของเราเหมาะกับโฆษณาทุกประเภท หรือแค่บางประเภทเท่านั้น  

โดย YouTube จะใช้ระบบแมชชีนเลินนิ่ง และเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบวิดีโอว่าเหมาะกับไอคอนสีอะไร ถ้าCreator เรทวิดีโอได้ถูกต้องเป็นประจำ ระบบจะเชื่อข้อมูลที่ครีเอเตอร์กรอกมากกว่าการตัดสินใจของระบบ เช่น ถ้าช่องเรทวิดีโอเป็นไอคอนเขียว ระบบเรทเหลือง วิดีโอจะได้รับไอคอนเขียว เคล็ดลับคือให้เรทแบบไม่เข้าข้างตัวเองจะดีที่สุด

Tips : ถ้าคุณเรทวิดีโอว่าเป็น Limited Ads หรือไอคอนสีเหลือง ระบบจะทำให้วิดีโอคุณแสดงให้คนดูน้อยลงหรือไม่ คำตอบคือไม่ค่ะ  เพราะว่าไม่เกี่ยวกัน ไม่ว่าจะสีเขียวหรือเหลืองก็แสดงให้เห็นเท่ากันค่ะ 

แต่จะมีเฉพาะบางวิดีโอที่ได้รับ Age-restricted เพราะว่ามีคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ และได้รับไอคอนสีเหลือง แบบนี้จะทำให้คนดูเห็นน้อยลง เพราะคนดูอายุต่ำกว่า 18 จะไม่สามารถเห็นได้

11. Q : หากช่องได้รับการเตือนว่าทำผิดกฎ Copyright Strike หรือ Community Guideline การกดลบวิดีโอนั้นทิ้งไปจะช่วยให้ช่องนั้นพ้นความผิดหรือไม่

A : การลบวิดิโอนั้นไม่ได้ช่วยให้พ้นความผิดนะคะ ทางแก้ คือเมื่อคุณได้รับคำเตือนเรื่องการละเมิดหลักเกณฑ์ของชุมชน Creator จะมีตัวเลือกในการเข้าร่วมหลักสูตรการฝึกอบรมที่ให้ความรู้ต่างๆ แหล่งข้อมูลเหล่านี้เป็นวิธีใหม่ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจวิธีหลีกเลี่ยงการอัปโหลดเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายในอนาคต เมื่อ Creator ผ่านหลักสูตร Youtube จะนำคำเตือนออกจากช่องหากครีเอเตอร์ไม่ละเมิดนโยบายเพิ่ม แบบเดียวกันในระยะเวลา 90 วันค่ะ

สำหรับใครที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้วมีคำถามเพิ่มเติม ที่อยากสอบถามกับ YouTube  โดยตรง สามารถติดต่อผ่านที่ลิงก์นี้ได้เลยค่ะ  https://support.google.com/youtube 

ขอส่งท้ายกับสิ่งที่อยากฝาก Creator นิดนึงค่ะ 🙂

สิ่งสำคัญที่สุดของการเพิ่มยอดวิวให้กับช่องของตัวเอง ที่อยากฝากไว้เลยคือ Content ที่ตอบโจทย์กับกลุ่ม Target ของช่องค่ะ การเรียนรู้ทริคต่าง ๆ เพื่อให้การเเสดงผลในเชิงเทคนิค คือส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าของคุณ แต่ถ้าหากแก่นของสิ่งที่คุณขาย มันไม่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า ไม่มีประโยชน์ที่ผู้บริโภคต้องการแล้ว ถึงแม้คุณจะสร้างโอกาสให้คนเจอคลิปของคุณ สุดท้ายเค้าก็จะเลื่อนผ่านอยู่ดี

ฉะนั้นแล้วอย่าลืมให้ความสำคัญกับ Target และ Content ที่คุณทำด้วยนะคะ กลยุทธ์ 4 ข้อที่อยากฝาก คือ

1.Content นั้นเป็นสิ่งที่คุณชอบหรือไม่ ถ้าคุณไม่ชอบ คนอื่นก็ไม่ชอบ

2.แก่นของสารที่คุณจะสื่อออกไปให้กับผู้รับคืออะไร หากไม่ชัดเจนผู้รับสารก็ไม่เข้าใจสุดท้ายเค้าก็จะเลื่อนผ่านอยู่ดี

3.Content ที่คุณทำมันมีประโยชน์จริง ๆ ใช่ไหม

4.หาก Content นั้นมันมีประโยชน์ คุณจะแชร์ประโยชน์ของสิ่งที่คุณทำให้ผู้รับสารได้อย่างไร

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักครีเอเตอร์ ทุกคนกันนะคะ เพื่อเอาไปปรับปรุงช่องของทุกคนให้สร้าง Engagement และเพิ่มยอดวิวให้กับช่องกันได้มากขึ้นค่ะ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

อัพเดทข่าวสาร เพื่อติดปีกให้คุณเป็นนักการตลาดที่ไม่ OUT !!!  อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ เพจการตลาดวันละตอนเว็บไซต์TwitterInstagramYouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนค่ะ

Source : YouTube , ฟีเจอร์ประเมินตนเองของ YouTube