กลยุทธ์ The Pizza Company คิดเมนูจาก Insight พร้อมแคมเปญส่งท้ายปี
สวัสดีนักการตลาดและผู้อ่านทุกคนค่า วันนี้จะพามาเปิด กลยุทธ์ The Pizza Company กัน ว่าทำอย่างไรถึงได้เป็นผู้นำเกมแห่งวงการพิซซ่าในไทย เพราะทุกเมนูถูกคิดค้นขึ้นมาจากการใส่ใจใน Insight ของผู้บริโภคอย่างแท้จริงนี่ล่ะค่ะ พร้อมเผยภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2566 รวมถึงแคมเปญส่งท้ายปีที่เข้ามาเขย่าสีสันวงการพิซซ่าไทยได้อย่างลงตัว แต่จะมีความน่าสนใจยังไงบ้าง ตามมาดูกันเลยค่า
คิดค้นเมนูจาก Insight ของผู้บริโภค
ตลอดปี 2566 ที่ผ่านมานี้ The Pizza Company มีการเจาะเทรนด์ผู้บริโภคเพื่อต่อยอดพัฒนาสูตรเมนูพิซซ่าและเมนูอาหารใหม่ ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดตรงใจมากที่สุด
ทำให้ทุกเมนูที่ถูกคิดค้นขึ้น จะมาจาก Insight ผู้บริโภคเป็นหลัก เช่น เมนูสำหรับคนรักชีส เพราะเกิดจากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคแล้วพบว่าคนไทยนิยมทานชีสเพิ่มสูงขึ้นทุกปีนั่นเอง
จึงได้มีการเพิ่ม ‘ชีส’ เข้ามาเป็นส่วนประกอบมากขึ้นในเมนูต่าง ๆ นำโดย “ชีสโอเวอร์โหลด” (Cheese Overload) พิซซ่าที่อัดแน่นไปด้วยชีสแบบล้นทะลัก เรียกได้ว่ามีชีสอยู่ในทุกชั้นยันขอบของพิซซ่า เหนือชั้นยังมีชีส เหนือชีสยังมีอีกชั้น ท้อปปิ้งด้วยเอ็กซ์ตร้าครีมมี่ชีสซอส ตามด้วยชั้นแป้งพิเศษบางเฉียบเพื่อล็อคความอร่อย และท็อปซ้ำด้วยมอสซาเรลลาชีสปิดท้ายอีกกก
และยังมี 2 หน้าใหม่ให้เลือก คือ “หน้าไก่เนยกระเทียมและเห็ด” ไก่ฉ่ำ หอมเนยกระเทียม นัวครีมซอส และ “หน้ามีตตี้ชีสซี่” เนื้อแน่นเต็มคำ ฉ่ำซอสเข้มข้น พร้อมเบคอน และสามารถเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้นด้วย “ขอบชีสโอเวอร์โหลด” ขอบพิซซ่าใหม่ล่าสุดที่ยัดไส้ 2 ชีสเน้น ๆ ด้วยสตริงชีส และเชดดาร์ชีสซอส ท็อปขอบด้วย Black garlic Pepper
และนอกจากนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค The Pizza Company ยังมีการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ทั้งเมนูหลัก, พาสต้า, สลัด, เมนูทานเล่น และเครื่องดื่มอีกมายมาย เรียกได้ว่าเข้ามาสร้างและเติมเต็มประสบการณ์ความอร่อยให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง
ถือว่าเป็นการทำธุรกิจที่ดีกับการใส่ใจ Data และทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคมาแล้วจนพบเจอ Insight หรือความชอบของลูกค้าจริง ๆ ก่อนที่จะนำมาพัฒนาสินค้าและบริการของตนเอง ซึ่งก็จะทำให้เราสามารถคิดค้นอะไรใหม่ ๆ ออกมาได้ ในขณะเดียวกันก็ยังตอบโจทย์ตรงใจผู้คนมาก ๆ อีกด้วย
แคมเปญ Slice of Joy สร้างสีสันส่งท้ายปี
The Pizza Company เผยภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทางโดยเฉพาะการรับประทานที่ร้าน และเดลิเวอรี ทำให้ยอดขายในภาพรวมเติบโตกว่า 10%
เพราะเป็นผลมาจากการดำเนินกลยุทธ์ “The Game Changer” หรือผู้นำเกมพิซซ่า ที่เป็นกลยุทธ์หลักในการพลิกโฉมวงการพิซซ่าไทย ตอกย้ำภาพลักษณ์และชูความเป็นผู้นำร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบ เสิร์ฟความสดใหม่ ฉับไว ให้ผู้บริโภคทุกเซกเมนต์
สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2566 ที่เป็นช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง The Pizza Company จึงเดินหน้าพร้อมส่งแคมเปญส่งท้ายปีกับ “Slice of Joy สุขล้นขอบ” ต่อ โดยตั้งใจสร้างสีสันช่วงเทศกาล และส่งมอบประสบการณ์แห่งความสุขในการรับประทานอาหารที่ร้านแบบพิเศษ ๆ ให้กับผู้บริโภค
และยังเป็นการตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้มีดีแค่ความเชี่ยวชาญในเรื่อง “พิซซ่า” อย่างเดียว แต่ The Pizza Company คือคำตอบของทุกโมเมนต์และทุกความต้องการของลูกค้าได้จริง โดยมีกลยุทธ์หลักสำคัญ ประกอบด้วย
- มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การรับประทานที่ร้านรูปแบบใหม่
โดยการตกแต่งร้าน The Pizza Company ในธีม Christmas Village ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ เมื่อมาใช้บริการที่ร้าน นอกจากนี้ยังเตรียมสร้างความสุขให้มากยิ่งขึ้นแบบคูณสองด้วยการนำต้นคริสต์มาสที่มาในรูปแบบพิซซ่าชิ้นยักษ์บุนวม ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินและถ่ายรูปตลอดช่วงเทศกาล ณ สามย่านมิตรทาวน์ ชั้น G ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2566 จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2567
เรียกได้ว่าเป็นการสร้างบรรยากาศแบบ Physical ให้คนที่มาทานอาหารที่ร้านไม่มีเบื่อ ได้รับความสดใสที่แปลกใหม่กลับไป เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี และผสมความ Festive เข้ากับเทศกาลคริสต์มาสส่งท้ายปีแบบน่ารัก ๆ อบอุ่นหัวใจ~
- เพิ่มจุดขายสร้างความแตกต่างด้วย Brand Collaboration สร้างสรรค์คาแรคเตอร์ Art Toy สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
โดยเป็นการจับมือกันครั้งแรกระหว่าง The Pizza Company กับ Stupidnoobmacc หรือ แม็ก-อัศนัย อรัญคีรี สตรีทอาร์ติสท์ชื่อดังของไทย ในการร่วมสร้างสรรค์ “The Pizza Company Babyboy” อาร์ตทอยที่มาในเวอร์ชัน Slice of joy สุขล้นขอบ
โดยได้รับแรงบันดาลใจและการดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งก็จะมาช่วยดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ โดยเฉพาะกลุ่มคน Gen Z ที่ชอบความแปลกใหม่อยู่เสมอนั่นเอง รวมถึงยังมีการแจกสติ๊กเกอร์รวมคาแรคเตอร์สุดพิเศษของ ‘The Pizza Company Babyboy’ ให้กับลูกค้าที่ทานอาหารครบ 800 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไปอีกด้วยค่า
กลยุทธ์ The Pizza Company คิดเมนูจาก Insight พร้อมแคมเปญส่งท้ายปี
เป็นยังไงกันบ้างคะ เรียกได้ว่าสำหรับปี 2566 นี้ The Pizza Company ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และเติบโตในทุกช่องทางกันเลยทีเดียว ทั้งหน้าร้านและเดลิเวอรี เพราะการใส่ใจกับ Insight พร้อมเจาะเทรนด์ผู้บริโภค เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดพัฒนาสูตรพิซซ่าและเมนูอาหารใหม่ ๆ จนทำให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้
รวมถึงแคมเปญที่เข้ามาช่วยสร้างสีสันส่งท้ายปีอย่าง ‘Slide of Joy สุขล้นขอบ’ ก็เป็นการส่งมอบความสุขและแทนคำขอบคุณจากใจของ The Pizza Company ถึงลูกค้าที่ให้การสนับสนุนแบรนด์มาโดยตลอดนั่นเอง
โดยในปี 2567 The Pizza Company ก็ยังได้เตรียมเซอร์ไพรส์พิเศษด้วยแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ ที่จะมาเขย่าสีสันวงการพิซซ่าไทย พร้อมการันตีความแปลกใหม่กว่าทุกครั้ง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดพิซซ่าและเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม เตรียมพบกันได้เลยยย
ทั้งนี้ใครสนใจสามารถร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษในแคมเปญ “Slice of Joy สุขล้นขอบ” ได้ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2566 – วันที่ 7 มกราคม 2567 ที่ The Pizza Company สาขาใกล้บ้าน พร้อมติดตามเซอร์ไพรส์พิเศษ รายละเอียดข่าวสาร และโปรโมชันเพิ่มเติมของ The Pizza Company ได้ผ่านช่องทาง Line: Thepizzacompany1112 และ Facebook: The Pizza Company 1112
และทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter Youtube และ Blockdit ได้เลยค่า