กลยุทธ์การตลาด Hop-inn 2024 นำ Budget Hotel บุกหัวเมืองใหญ่ญี่ปุ่น

กลยุทธ์การตลาด Hop-inn 2024 นำ Budget Hotel บุกหัวเมืองใหญ่ญี่ปุ่น

เมื่อ Hop-inn เลือกญี่ปุ่นเป็นประเทศนำร่องในการบุกตลาดที่พักสำหรับการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บทความนี้ผมจะพามาส่องกลยุทธ์ กลยุทธ์การตลาด Hop-inn ในการบุกตลาดที่พักสำหรับการท่องเที่ยวของ Hop-inn ที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่นกันครับ

ทำไมต้องเริ่มที่ญี่ปุ่น

ถ้าหากต้องการเจาะตลาดการท่องเที่ยวของเอเชียแปซิฟิก อย่างที่เรารู้กันดีญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวอยู่แล้ว อย่าว่าแต่ระดับเอเชียแปชิฟิกเลยครับ ปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลกไปแล้ว เดี๋ยวผมจะพากาง 3 สถิติตัวเลขดูครับ เพื่อตอกย้ำว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวจริง ๆ แล้วทุกคนจะรู้ว่าทำไม Hop-inn ถึงเลือกญี่ปุ่นเป็นประเทศนำร่องอย่างไม่ต้องสงสัย

1. Travel & Tourism Development Index

สถิติตัวแรกที่ผมจะพามาส่องคือ TTDI หรือ Travel & Tourism Development Index เป็นดัชนีการจัดอันดับประเทศที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจัดทำขึ้นทุก ๆ 2 ปี โดยสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) บอกเลยว่าข้อมูลมีความน่าเชื่อถือแน่นอน

กลยุทธ์การตลาด Hop-inn
Source: World Economic Forum

โดยรายงานฉบับล่าสุด คือ TTDI 2021 พบว่าประเทศที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเป็นอันดับที่ 1 คือ ประเทศญี่ปุ่นครับ ดังนั้นญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศที่เหมาะสมมาก ๆ ในแง่ของความพร้อมด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น ความปลอดภัย ทรัพยากรที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว ระบบคมนาคม และอื่น ๆ

2. พฤติกรรมความสนใจในการท่องเที่ยวของคนไทย

ลองมาเจาะให้ลึก และใกล้ตัวเรามากขึ้นอีกกันดีกว่าครับ ด้วยความที่ Hop-inn เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในประเทศไทย และคนไทยก็ให้ความไว้วางใจในระดับหนึ่ง ฉะนั้นชาติที่จะไว้ใจและกล้าใช้บริการ Hop-inn ที่เปิดใหม่ในญี่ปุ่นมากที่สุด หนึ่งในนั้นคงมีชาวไทยอย่างแน่นอนครับ

ฉะนั้นสถิติตัวที่สองที่ผมจะยกมาให้ทุกคนได้เห็น จึงเป็นสถิติที่เกี่ยวกับพฤติกรรมความสนใจในการท่องเที่ยวของคนไทยครับ ผมยกผลการสำรวจเทรนด์การท่องเที่ยวต่างประเทศของนักท่องเที่ยวชาวไทย ว่าอยากไปประเทศไหนมากที่สุดสำหรับปี 2023 ของ Visa

กลยุทธ์การตลาด Hop-inn
Source: www.visa.co.th/

สถิติดังกล่าว พบว่า ประเทศอันดับหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยต้องการไปเยือนมากที่สุด ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่นโดยมีคะแนนถึงถึง 81% ส่วนอันดับที่สอง คือ ประเทศเกาหลี 52% ตามมาด้วยประเทศนิวซีแลนด์ 43% ถือว่าคะแนนห่างกันพอสมควรเลยครับ

ดังนั้นการที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คนไทยอยากไปมากที่สุด และ Hop-inn ก็เป็นที่รู้จักของคนไทยเป็นอย่างดี จึงทำให้ช่วยเพิ่มโอกาสในการใช้บริการ Hop-inn ของคนไทยในญี่ปุ่นมากขึ้น

สิ่งนี้สามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้ Hop-inn ได้ครับ ว่าอย่างน้อยก็เข้าไปบุกตลาดในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวที่รู้จักแบรนด์ตัวเอง ทำให้ง่ายต่อการสร้างฐานลูกค้าที่ญี่ปุ่นมากยิ่งขึ้นครับ

3. ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวมากที่สุด

เห็นแค่สถิติสำรวจประเทศที่อยากไปมากที่สุด อาจจะคิดว่าเป็นแค่ความต้องการอาจไม่ได้เกิดขึ้นจริงก็ได้ ผมจึงขอยกสถิติอีกหนึ่งตัวจากสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA)

ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2023 ประเทศที่คนไทยเดินทางไปเที่ยวมากที่สุด คือ ญี่ปุ่น จำนวน 500,000 คน 

คุณเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว

สถิติจากสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวชี้ชัดครับว่าคนไทยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมากที่สุดจริง ๆ

จากสถิติ 3 ตัว ที่ผมได้ยกมานั้น สามารถสรุปได้ว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเป็นอันดับหนึ่งของโลก นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่คนไทยอยากไปเที่ยวมากที่สุดในปี 2023 และสถิติของการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจริงในช่วง 6 เดือนแรกปี 2023 ก็ชี้ตรงกันว่าคนไทยเดินทางไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นเยอะที่สุดครับ

อินไซต์ของคนไทยในการเที่ยวญี่ปุ่น

ลองค้นหาใน Google Trends ปี 2023 ว่าคนไทยค้นหาอะไรเกี่ยวกับการเที่ยวญี่ปุ่นบ้าง

สิ่งที่พบคือหัวข้อที่เกี่ยวข้องที่มาแรงอันดับ 1 เกี่ยวกับทัวร์ญี่ปุ่น อย่างที่เรารู้กันส่วนใหญ่หากไปกับทัวร์จะมีราคาที่ถูกกว่า ยิ่งกว่านั้นคนไทยยังค้นหาคำว่า “ทัวร์ญี่ปุ่นราคาถูก” อีกต่างหาก แสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นโดยที่เสียค่าใช้จ่ายน้อย

หนึ่งในค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวที่ต้องคำนึงถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย คือ ค่าที่พัก เพราะฉะนั้นจึงเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับ Hop-inn อีกหนึ่งระดับ ว่าโรงแรมระดับ Budget หรือโรงแรมราคาประหยัดยังอยู่นสายตาของคนไทยที่ไปเที่ยวในญี่ปุ่นอยู่

ย้อนกลับไปตอบคำถาม “ทำไมต้องเริ่มที่ญี่ปุ่น” จากการวิเคราะห์สถิติต่าง ๆ เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมากเลยหล่ะครับที่ Hop-inn เลือกญี่ปุ่นเป็นประเทศนำร่องในการเจาะตลาดการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นอกจากจะได้ Traffic นักท่องเที่ยวที่เยอะแล้ว ยังมีหลักประกันว่าอย่างน้อย ๆ ก็ยังมีโอกาสค่อนข้างมากที่คนไทยจะไปใช้บริการ เพราะจากอินไซต์ของคนไทยที่ต้องการเที่ยวญี่ปุ่นโดยอยากเที่ยวโดยที่เสียค่าใช้จ่ายน้อย

โรงแรมราคาประหยัด ท่ามกลางเมืองใหญ่

Hop-inn เป็นเครือโรงแรมที่มีจุดยืน คือ ราคาประหยัด ตั้งอยู่ในทำเลสะดวก ใจกลางเมือง ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ใกล้สถานีรถไฟฟ้า และสถานีขนส่ง จึงเหมาะสำหรับนักเดินทางที่มองหาที่พักที่มีราคาคุ้มค่า

 Hop-inn ทั้ง 4 สาขา ในญี่ปุ่น

  • สาขาแรก โรงแรมฮ็อป อินน์ เกียวโต ชิโจ โอมิยะ ห่างจากสถานีรถไฟชิโจ โอมิยะ 3 นาที ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเกียวโต 
  • สาขาที่สอง โรงแรมฮ็อป อินน์ โตเกียว อิดาบาชิ ห่างจากสถานีรถไฟอิดาบาชิ 3 นาที ตั้งอยู่ใกล้โตเกียวโดม เอาใจสายคอนเสิร์ตและสายอีเว้นท์
  • สาขาที่สาม ล่าสุดที่จะเปิดให้บริการโรงแรมฮ็อป อินน์ โตเกียว อาซากุสะ ห่างจากสถานีรถไฟอาซากุสะ 2 นาที ตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji) 
  • สาขาที่สี่ จะเปิดให้บริการในต้นเดือนเมษายน 2567 โรงแรมฮ็อป อินน์ โตเกียว อุเอโนะ ห่างจากสถานีรถไฟอุเอโนะ เพียง 1 นาที ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในย่านอุเอโนะ เช่น ร้านอิซากายะ แหล่งแฮงก์เอาท์กินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น แหล่งช็อปปิ้งในตลาดอะเมโยโกะ

จะเห็นได้ว่าแต่ละที่ตั้งของโรงแรม Hop-inn นั้น เน้นสถานที่ ๆ อยู่ใกล้รถไฟฟ้าเป็นหลัก เพื่อความสะดวกในการเดินทางและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นไปตามจุดยืนของ Hop-inn อยู่แล้ว

มากไปกว่านั้น แต่ละที่ ๆ Hop-inn ใช้ตั้งโรงแรมต่างก็มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวที่แตกต่างกันออกไป เรียกได้ว่าจับกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจการท่องเที่ยวได้หลากหลายสไตล์เลยหล่ะครับ 

สรุป กลยุทธ์การตลาด Hop-inn บุกหัวเมืองใหญ่ญี่ปุ่น

กลยุทธ์การเลือกประเทศในการนำร่องเพื่อบุกตลาดการท่องเที่ยว ที่ Hop-inn เลือกญี่ปุ่นเพราะเป็นประเทศที่มีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยวที่ดี บวกกับเป็นประเทศที่คนไทย (ที่เป็นฐานลูกค้าหลัก) อยากไปเที่ยวมากที่สุด ดังนั้นจึงทำให้การสร้างฐานลูกค้าง่ายขึ้น นอกจากนี้อินไซต์ของคนต้องการเที่ยวญี่ปุ่นในราคาที่ถูกซึ่งตรงกับจุดยืนของ Hop-inn

นอกจากนี้ Hop-inn ยังกระจายโรงแรมไปตามสไตล์แหล่งท่องเที่ยวที่ต่างกันในญี่ปุ่นด้วย ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลายกลุ่มอีกด้วยครับ

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

ญี่ปุ่นมักจะมีแคมเปญที่สร้างสรรค์ และแปลกใหม่ออกมาให้คนในประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยว ให้รู้สึกว๊าวอยู่เสมอ ผมคิดว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นประสบความสำเร็จด้านการท่องเที่ยว และสร้างชื่อเสียงที่ดีให้แก่ประเทศ

ดังนั้นบทความที่ผมอยากที่จะแนะนำให้อ่าน เป็นหนึ่งในแคมเปญที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นครับ

Tlee Krit

ชื่อเติ้ลครับบบ นักเขียนน้องใหม่แห่งการตลาดวันละตอน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *