แคมเปญ CSR KFC จับมือ กสศ ในโครงการ Bucket Search ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

เชื่อว่าเด็กทุกคนต้องรู้จักและเคยกิน KFC ร้านไก่ทอดขวัญใจเด็กไทย KFC ขึ้นชื่อร้านโปรดประจำที่เด็กไทยต้องนึกถึงทุกเทศกาล ซึ่งเด็กทุกคนล้วนแต่มีศักยภาพอันไร้ขีดจำกัด และความสามารถที่หลากหลาย ซึ่งไม่ควรถูกทิ้งให้สูญเปล่า

KFC ประเทศไทย ทำ CSR ร่วมจับมือกับ กสศ. (กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) ขับเคลื่อน Thailand Zero Dropout เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา ผ่านโครงการ KFC Bucket Search พร้อมจัดกิจกรรม “บักเกตเสิร์จคลับ คลับของเด็กนอกกรอบ” เตรียมความพร้อมให้เด็กจำนวน 130 คน จากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

ด้วยเป้าหมาย  “อนาคตของชาติทุกคนต้องได้เรียน” ยุติการหลุดออกจากระบบการศึกษาของเด็กและเยาวชนในสังคมไทย เพื่อช่วยลดปัญหาในด้านความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และนำเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา

เป้าหมายการทำ CSR ของ KFC ในโครงการ Bucket Search

โครงการ Bucket Search ของ CSR มีเป้าหมายหลัก ๆ คือ ทำให้เด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษากลายเป็น “ศูนย์” และเปิดประตูสู่อาชีพที่ดีในอนาคต ซึ่งตรงกับเป้าหมาย Thailand Zero Dropout ของ กสศ.

การทำ CSR ของ KFC ในครั้งนี้เพื่อสร้างสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของแบรนด์เป็น CSR ประเภท (Philanthropic Corporate Social Responsibility) หรือความรับผิดชอบต่อสังคมด้านการกุศลที่เน้นการแบ่งปันหรือการบริจาคเงินให้องค์กรต่างๆ ในที่นี้คือ กสศ.

CSR แคมเปญนี้เป็นการทำการตลาดเพื่อสังคมแบบการกุศล นอกจากนี้ KFC ก็ยังมีส่วนรวมกับกิจกรรมเพื่อสังคม ( Corporate Social Responsibility) เพื่อแก้ปัญหาสังคมอีกด้วย อาทิเช่น กิจกรรม “บักเกตเสิร์จคลับ ,เวิร์กชอป Designing your life ร่วมวางแผนอนาคต กิจกรรมส่งเสริมด้านการศึกษาและพัฒนาสร้างอาชีพให้กับเด็ก ซึี่งเด็กไทยก็เป็นผู้บริโภค ไก่ KFC โดยตรง

CSR สำคัญกับแบรนด์ไฉน สำหรับนักการตลาดมือใหม่ สามารถเข้าไปอ่าน Case study – CSR  ความสำคัญของการทำการตลาดเพื่อสังคม และอ่าน Case study ของแบรนด์ที่ได้ยกตัวอย่างในการทำ CSR ได้

กลยุทธ์ CSR พัฒนาการศึกษาไทย ลดความเหลื่อมล้ำ

ทาง กสศ. เปิดเผยข้อมูลปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเช่น ความยากจน บ้านอยู่ไกลโรงเรียน สภาวะทางเศรษฐกิจ โรคระบาด และอื่น ๆ แต่ KFC เล็งเห็นว่า เด็กทุกคนควรได้รับการศึกษาเพราะเป็นสิ่งที่พลเมืองทุกคนต้องได้รับ และเด็ก ๆ เป็นอนาคตของชาติที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศดังกล่าวมาเพื่อให้ทุกคนเข้าใจปัญหานี้มากขึ้น และเห็นประโยนช์ของการทำ CSR ใน โครงการ Bucket Search ว่าโครงการนี้จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษานี้ได้ยังไง

Insight สาเหตุที่ทำให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา

ข้อมูล จาก ศธ. เด็กหลุดจากระบบการศึกษา ในปี 2565 สูงขึ้นกว่า 1 แสนคน สืบเนื่องมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมในด้านการศึกษาอย่างมาก พบว่า “เด็กส่วนใหญ่” หลุดออกจากระบบการศึกษาช่วงมัธยมตอนปลาย หรือ ม.3-ม.6 ปัญหาดังกล่าวส่งผลระดับประเทศและระบบเศรษฐกิจอย่างมาก ด้วยสาเหตุดังนี้

• ความจำเป็นในครอบครัว
• การย้ายที่อยู่ใหม่
• ความยากจน รายได้ไม่พอจ่าย
• ปัญหาสุขภาพ อุบัติเหตุ หรือความพิการ
• ปัญหาด้านประพฤติหรือการปรับตัว
• ผลกระทบจากโควิด-19
• ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย
• การเดินทางไม่สะดวก
• การสมรส หรือท้องก่อนวัยอันควร
• ผลการเรียนไม่ดี
• ผู้ปกครองปล่อยปะ ละเลย

โครงการ Bucket Search

Bucket Search เป็นอีกก้าวสำคัญ โดย KFC ประเทศไทย และ กสศ. ที่ได้จัดกิจกรรมในงาน “บักเกตเสิร์จคลับ คลับของเด็กนอกกรอบ” เพื่อเตรียมพร้อมและเสริมสร้างความมั่นใจให้กับเด็ก ๆ เพื่อที่จะได้ค้นหาความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ของตัวเอง สามารถนำไปใช้ต่อยอดได้ในอนาคต กับเวิร์กชอป Designing your life ร่วมวางแผนอนาคตและวิธีการใช้ชีวิตให้ทันโลก ในทุก ๆ ด้าน เพื่อก้าวตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปให้ทัน และเวิร์กชอปพิเศษ ‘ทักษะหัวใจ’ จาก KFC

เพื่อเตรียมเด็ก ๆ ให้พร้อมทั้งในด้านร่างกายและจิตใจเพื่อพัฒนาน้อง ๆ ให้ได้เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด ทั้งในงานยังมีการพูดให้แรงบันดาลใจจากพี่ๆ คนดังจากหลากหลายวงการ นำทีมโดย แพท พาวเวอร์แพท, เจเด็ด เฟ็ดเฟ่, แบงก์ วัชรพงษ์ สุริยพันธุ์ และ คุณดิส ผู้จัดการสาขาที่อายุน้อยที่สุดของ KFC มาแนะนำอาชีพจากประสบการณ์ตรง

ในงาน “บักเกตเสิร์ชคลับ คลับของเด็กนอกกรอบ” ครั้งนี้เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยความสุขและจุดไฟแห่งความหวังในหัวใจของเด็ก ๆ ทุกคน KFC ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เป็นโครงการที่ช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และปลุกไฟในตัวของเด็กทุกคน

การทำ CSR KFC มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาสังคม ช่วยสร้างชื่อเสียงที่ดีต่อองค์กร

KFC เป็นส่วนหนึ่งในแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวที่นำเสนอ เพื่อช่วยส่งเสริมให้เด็กไทยและเยาวชนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม ซึ่งเด็กไทยเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่สำคัญของแบรนด์ KFC อย่างมาก และคุณแม่คุณพ่อของเด็กกลุ่มนี้ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุน KFC มากขึ้น เพราะแบรนด์มีส่วนร่วมการแก้ปัญหาทางการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมของกลุ่มเป้าหมาย กลยุทธ์นี้จะช่วยสร้างชื่อเสียงที่ดีต่อองค์กร

แถมยังหาแนวทางการทำอาชีพในอนาคตเพื่อเติบโตไปพัฒนาประเทศชาติ และเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในสังคม ขับเคลื่อนประเทศและสังคมไทยให้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นอีกด้วย

แล้วเราจะมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร

จริง ๆ แล้ว ปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นสิ่งที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนต้องร่วมมือกันแก้ไข โดยสิ่งที่เราทำได้ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาด้านการศึกษารวมกับโครงการ Bucket Search มีดังนี้

• ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้เห็นถึงปัญหาของความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ทำให้เข้าใจถึงปัญหาได้ดีมากขึ้น ประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้สังคมไทยทุกภาคส่วนตระหนักและตื่นตัวว่า เด็กกลุ่มนี้ต้องการความช่วยเหลือด้านการศึกษามากแค่ไหน
• สร้างการรับรู้ ผ่านสื่อโซเซียลช่องทางต่าง ๆ ให้ได้รับรู้ถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และแนวทางการแก้ไขปัญหา ให้มีการส่งเสริม เรียกร้อง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้ลดลง
• สนับสนุนภาครัฐ องค์กร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เราสามารถสนับสนุนโครงการของรัฐ หรือองค์กรเช่น โครงการ Bucket Search  และเราสามารถบริจาคอุปกรณ์การเรียนที่จำเป็นต่อการศึกษาผ่านทางสถานศึกษาได้

สรุปกลยุทธ์การทำ CSR ของแบรนด์ KFC

กลยุทธ์เพื่อส่งเสริมการสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกของแบรนด์ ไก่ทอดในดวงใจเด็กไทย ด้วยการพัฒนาด้านการศึกษา และช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ส่งผลนำไปสู่ให้ผู้บริโภคเกิดความไว้วางใจและยังคงภักดีต่อแบรนด์เพิ่มขึ้นได้ เพราะผู้บริโภคเล็งเห็นถึงความตั้งใจที่จะรับผิดชอบต่อสังคมของแบรนด์และมีโน้มน้าวที่จะเลือกแบรนด์มากกว่าคู่แข่งอื่นในตลาด

หวังว่านักการตลาดที่อ่านบทความ CSR นี้จบแล้วจะนำกลยุทธ์ที่แบรนด์KFC ใช้นำไปต่อยอดและปรับใช้กับธุรกิจกันนะคะ เพราะการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อธุรกิจนั้นสำคัญ

นักการตลาดสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แคมเปญ CSR ของการตลาดวันละตอนเพิ่มเติม ได้ที่นี่

หรือจะอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติมได้ที่ เพจการตลาดวันละตอน เว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ