Case Study: ขายขนมปังอย่างไรให้แตกต่างกับ “ขนมปังจิ้งหรีด” เจ้าแรกของไทย

Case Study: ขายขนมปังอย่างไรให้แตกต่างกับ             “ขนมปังจิ้งหรีด” เจ้าแรกของไทย

หากพูดกันตามจริงแล้วเมนูขนมปังนั้นก็คล้ายๆ กับตลาดอาหารทั่วไป ไม่มีอะไรใหม่ แล้วก็ไม่ใช่ตลาดที่มีความหวือหวามากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าวันนี้มีขนมปังแนวใหม่อย่าง “ขนมปังจิ้งหรีด” เข้ามาเป็น Blue Ocean ที่ทั้งสด ใหม่ คู่แข่งน้อย แถมยังมีความต้องการของผู้บริโภคจำนวนมากแบบนี้แล้ว ถามจริงๆ ว่าจะไม่รู้สึกว่าน่าสนใจสักหน่อยหรือ?

ปกติแล้วถ้านักการตลาดจะขายเมนูขนมปังออกใหม่คงหนีไม่พ้นการดึงเอาความน่ากิน ความอร่อย หรือไม่ก็ความแปลกใหม่ของส่วนผสมมาเป็นจุดขาย ซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นกัน เพียงแต่ส่วนผสมในครั้งนี้ไม่ใช่แค่อร่อย หรือมีประโยชน์ แต่เป็น “จิ้งหรีด” ที่มีความแปลกใหม่มากซะจนไม่คิดว่าจะเอามารวมกับขนมปังได้

จิ้งหรีด โปรตีนทางเลือกแห่งอนาคต

คุณเคยกินจิ้งหรีดไหม?

สำหรับใครที่พูดถึงการกินแมลงแล้วยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจ บางทีอาจจะถึงเวลาที่ต้องเปิดรับความคิดและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่กันแล้ว เพราะจิ้งหรีดถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่คนทั่วโลกให้ความสนใจและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะแหล่งโปรตีนที่สำคัญในอนาคตทดแทนโปรตีนจากสัตว์ที่มีราคาแพงได้ ถ้าจะให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดขึ้นก็คือจิ้งหรีด 300 กรัมนั้นมีปริมาณโปรตีนเท่ากับเนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัมเลยทีเดียว นอกจากมีโปรตีนสูงแล้วจิ้งหรีดนั้นยังย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์มาก อีกทั้งยังมีปริมาณแคลเซียม กรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด โอเมก้า และไคตินซึ่งเป็นสารเพื่อความงามประกอบอยู่อีกด้วย

นอกจากแมลงจะมีคุณค่าทางอาหารที่สูง โดยเฉพาะไขมัน วิตามิน แร่ธาตุ รวมถึงโปรตีนที่สูงกว่าเนื้อสัตว์อย่างเนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อไก่แล้ว การเลี้ยงแมลงเพื่อเป็นแหล่งอาหารของคนนั้นยังสามารถช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วย เพราะแมลงมีวงจรชีวิตที่สั้น เพาะเลี้ยงง่าย มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ ใช้พื้นที่และทรัพยากรน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการทำปศุสัตว์ แถมยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าหลายเท่าตัวทีเดียว

อร่อยได้แบบไม่ต้องรู้สึกผิด

ด้วยกระแสรักษ์โลก รักสุขภาพที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กลายเป็นอีกปัจจัยที่จะมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการ ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมอาหาร เราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Future Protein” อย่างแมลงกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพื่อพัฒนาวงการอาหารให้มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

อย่างที่เรารู้กันดีว่าของอร่อยมักจะมาควบคู่กันกับน้ำตาลบ้าง คอเลสเตอรอลบ้าง หรือแคลอรีที่สูงปรี๊ดบ้าง จนทำให้คนที่ชอบกินขนมอย่างเราๆ ต้องรู้สึกผิดทุกครั้งที่หยิบเข้าปาก แต่ทาง Natural Bites แบรนด์ขนมและอาหารเพื่อสุขภาพ ภายใต้บริษัท NSL Foods กลับไม่คิดอย่างนั้น เขาถือคติว่าถึงแม้เราเลิกกินขนมไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกกินของอร่อยที่มาพร้อมสุขภาพดีได้ด้วย “ขนมปังจิ้งหรีด” เอาใจสายเฮลตี้กว่าเดิมที่มาในรูปแบบขนมปังโฮลเกรนผสมโปรตีนจิ้งหรีดที่ทำมาจากแป้งสาลีไม่ฟอกสี มีคอเลสตอรอลต่ำ เป็นแหล่งของใยอาหาร แถมยังมีโปรตีนสูงอีกด้วย เพราะใน 1 แผ่นเฉลี่ยแล้วมีโปรตีนจากจิ้งหรีดถึง 7กรัม หรือประมาณ 11.5 ตัว อย่างเรียกได้ว่าอร่อยดีแถมได้ประโยชน์ด้วยแบบนี้ถูกใจทั้งสายสุขภาพและคนชอบกินขนมของจุกจิกแบบโอเคนัมเบอร์วันจริงๆ 

อยากสุขภาพดี ต้องมีความกล้า

สำหรับเรื่องความกล้าคงต้องยกให้แบรนด์ที่กล้าฉีกกฎ นำเสนอความแตกต่างด้วยการนำโปรตีนจากจิ้งหรีดมาใช้ ทำให้เมนูธรรมดาๆ อย่างขนมปังดูมีความน่าสนใจขึ้น แต่คำถามก็คือ ถึงแม้แบรนด์จะกล้า แต่ลูกค้าจะกล้าด้วยไหม? เพราะบางคนยังยึดติดอยู่กับอคติที่มองว่าแมลงจะต้องมีสัมผัสที่แข็ง จะต้องมีกลิ่นแรง หรือรสชาติอาจจะขม ฝาด หรือเฝื่อนจนทำให้เสียรสขนมปังได้ 

งานนี้แบรนด์อาจจะต้องแก้เกมด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อ สร้าง Awareness และ Educate ผู้บริโภคไปพร้อมๆ กันทั้งในด้านของรสชาติและโภชนาการ เช่น อาจจะทำกิจกรรมการทดสอบแบบ Blind Test ให้ลองชิมแบบยังไม่รู้รายละเอียดของสินค้า และเก็บ Reaction เป็นความรู้สึกและความพึงพอใจในผลที่ได้ส่วนบุคคล เพื่อให้คนอื่นๆ ที่เห็นลบภาพจิ้งหรีดเดิมๆ ในหัวออกไปและเปิดใจกล้าที่จะลองชิมมากขึ้น

สำหรับใครที่อยากลองอะไรที่สุดปังก็ลองเปิดใจให้กับ “ขนมปังจิ้งหรีด” ดูนะคะ เพราะว่าของเขาปังตั้งแต่ไอเดียในการสร้างจุดขายสุดแหวกอย่างการใช้โปรตีนจากจิ้งหรีด ปังทั้งรสชาติที่อร่อย แถมยังปังเพราะวิ่งคู่มากับเทรนด์ Future Protein ที่จะเข้ามาพลิกธุรกิจอาหารในปัจจุบัน อีกด้วย โดยขนมปังโฮลเกรนผสมโปรตีนจิ้งหรีดจาก Natural Bites จะวางขายพร้อมกันที่ Healthful ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ใครอยากลองโปรตีนจากจิ้งหรีดเน้นๆ ก็ลองไปหาซื้อชิมกันได้นะคะ

Read more: อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดในแง่มุมอื่นๆ จากการตลาดวันละตอนได้ ที่นี่

Bambinun*

Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน ที่หลงรักการเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือ พอๆ กับการกินของอร่อย และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเป็นทาสแมว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน