กลยุทธ์ Burger King มุ่ง Localization ผุดไอเดียให้คนตั้งชื่อเมนูส่งท้ายปี

สวัสดีนักการตลาดและผู้อ่านทุกคนค่า วันนี้จะพามาชม ‘King of Burger’ ที่คงไม่มีใครไม่รู้จัก กับ Burger King แบรนด์เบอร์เกอร์สัญชาติอเมริกัน เจ้าของแคมเปญสนุก ๆ อย่าง Real Cheese ที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนี่เอง โดยวันนี้จะพามาเปิด กลยุทธ์ Burger King กันว่าทำอย่างไรถึงได้กลายมาเป็นแบรนด์เบอร์เกอร์เบอร์ 1 ในใจผู้บริโภคได้ พร้อมเปิดเมนูใหม่อย่าง “โบโลเนส คอลเลคชัน” ผุดไอเดียให้คนช่วยตั้งชื่อเมนูส่งท้ายปีกัน แต่จะมีความน่าสนใจยังไงนั้น ตามมาดูกันเลยค่า

กลยุทธ์ Burger King มุ่ง Localization อยากเข้าถึงคนไทยให้มากขึ้น

ตลอดระยะเวลา 11 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566 Burger King เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 23 ปี ด้วยกลยุทธ์ที่ตั้งเป้าให้ ‘เข้าถึงคนไทยมากขึ้น’

ไม่ว่าจะเป็น ‘การขยายสาขา’ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มีการขยายเพิ่มเติมรวมถึงปรับปรุงสาขาเดิมไปมากกว่า 10 สาขาเลยทีเดียว

ไปจนถึงการออกโปรโมชันที่มาพร้อม ‘ความคุ้มค่าคุ้มราคา’ ทั้งในส่วนเมนูเบอร์เกอร์ เมนูข้าว ฯลฯ ทั้งยัง ‘พัฒนาช่องทางในการจำหน่าย’ ให้หลากหลายตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิต เช่น การสั่งหน้าร้าน แอปพลิเคชัน ไดฟ์ทรู ตลอดจนระบบ self-pick up หรือการสั่งล่วงหน้า เพื่อให้ผู้บริโภคมีความสะดวกสบายอย่างครอบคลุมมากที่สุด

นอกจากนี้อีกหนึ่งกลยุทธ์สุดคุ้นหูคุ้นตาที่พลาดไปไม่ได้คือ ‘Real Time Marketing’ การทำแคมเปญการตลาดออนไลน์เพื่อสื่อสารถึงผู้บริโภคแบบเรียลไทม์ เช่น แคมเปญ The Real Burger ที่เป็นการโปรโมทแท็กไลน์ของร้าน Have It Your Way 

เพื่อตอกย้ำว่าเบอร์เกอร์ที่อร่อยที่สุดคือเบอร์เกอร์ในแบบที่เราชอบและเลือกเองได้ และได้ค้นพบว่าคนไทยชอบชีสมากกกก จนเป็นที่มาของปรากฎการณ์ Real Cheese Burger เบอร์เกอร์ชีสล้วน 20 แผ่น และ Real Meat Burger เบอร์เกอร์เนื้อ 100 ชิ้น ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเรียกได้ว่าเป็นการสร้างกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ไปทั่วประเทศ จนถึงต่างประเทศเลยทีเดียว

ซึ่งแคมเปญดังกล่าวส่งผลให้ยอด Engagement บนเฟสบุ๊กแฟนเพจเบอร์เกอร์คิงเพิ่มขึ้นกว่า 3,000% ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ได้เพิ่มขึ้น 50% รวมถึงยอดการลงทะเบียนในแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า และสร้างยอดขายนิวไฮในช่วงระยะเวลาที่ออกแคมเปญให้เพิ่มขึ้นกว่า 20% เลยทีเดียว

กลยุทธ์ Burger King ทำให้ได้รู้ว่าการทำงานหรือออกแคมเปญที่มาจากพื้นฐานของ Data และ Insight ของคนจริง ๆ นั้นทำให้ทุกอย่างสามารถเดินต่อไปได้ในแบบที่ไม่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมากก็ปังได้

และด้วยความอยากที่จะเข้าถึงคนไทยให้ได้มากยิ่งขึ้น Burger King จึงโฟกัสกับการ ‘Localization’ ในการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ และเมนูเดิมที่มีอยู่ ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ในรสชาติที่คนไทยคุ้นเคย เรียกได้ว่าตั้งใจให้ถูกปากคนไทยโดยเฉพาะเลย เช่น พายขนมครก และไก่ทอดหาดใหญ่ ที่ได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

เป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่มาจาก Insight ที่ว่าลูกค้าอยากกินไก่ทอดหาดใหญ่ แต่หาที่กินไม่ได้ แต่ Burger King ของเราเปิด 24 ชั่วโมง มีสาขาเยอะ ทำให้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผลตอบรับถือว่าดีมาก จนตอนนี้ก็ยังเป็น Best Selling และขายต่อยาว ๆ เพราะคนชอบกันมาก~

หรืออย่าง Black Pink Burger ที่อยากจะจับกลุ่มลุกค้าคนไทยมากขึ้น ทางแบรนด์เลยปรับซอสให้ถูกปากกับคนไทยมากขึ้น เช่น คิดค้นเป็นซอสพริกไทยดำ จากการรู้ใจคนไทยว่าชอบกินอะไรแซ่บ ๆ เป็นต้น

ซึ่งทุกอย่างเป็นผลมาจากแคมเปญ Real Cheese นั่นเอง เลยทำให้กลายเป็น Top of Mind ในใจผู้บริโภค ทำให้คนอยากรู้อยากติดตามต่อว่ามีอะไรใหม่ ๆ ออกมาให้ชมอีกบ้าง

สู่การเปิดตัวเมนูใหม่ ‘เบอร์เกอร์ซอสแดง’ ให้คนช่วยตั้งชื่อ กระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี

นอกจากความสำเร็จในภาพรวมของผลการดำเนินธุรกิจตลอด 11 เดือนแรกของปี 2566 ของ Burger King ที่เรียกได้ว่าเติบโตทะลุนิวไฮ จากกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ตอบโจทย์และรู้ใจผู้บริโภคแล้วนั้น 

กลยุทธ์ Burger King ยังได้ทำการเดินหน้ากระตุ้นยอดขายในช่วงท้ายปีแบบนี้ ให้คึกคัก เพราะเป็นช่วงแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข และต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศในช่วงไฮซีซั่น

จึงออกมาเป็นแคมเปญใหม่อย่าง “โบโลเนส คอลเลคชัน” (Bolognese Collection) ที่นำเอาซอสโบโลเนส ทางฝั่งอิตาเลียน หรือซอสแดง มาทำเป็นเมนูใหม่ พร้อมสร้างความไวรัลบนโลกออนไลน์ตั้งแต่ยังไม่วางขายกันเลยทีเดียว 

เพราะถ้าปล่อยแคมเปญออกไปแต่แรกเลยว่าซอสโบโลเนส คนก็อาจจะงงใช่ไหมล่ะคะว่ามันคือซอสอะไร? ยิ่งสำหรับคนไทยแล้วนั้นบางคนก็อาจจะไม่ได้มีความคุ้นเคยกันมากนัก แน่นอนว่าตัวท็อปวงการเบอร์เกอร์ที่ใส่ใจการ Localization อย่าง Burger King ไม่ปล่อยให้คนงงแน่นอน จึงทำการนำชื่อที่ตั้งโดยแฟนคลับมาใช้ในเมนูจริง ๆ พร้อมขายจริงอีกด้วย?!

Burger King ไปดูจาก Social listening ว่าคนไทยเรียกซอสนี้ว่าอะไร ประกอบกับการทำโพสต์ให้คนเข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นกันว่าอยากให้เรียกชื่อซอสนี้ว่าอะไร ทำให้ได้ออกมาเป็นชื่อเบอร์เกอร์ซอสแดง เรียกได้ว่าจึงออกมาเป็นออกแคมเปญที่มาจาก Data และ Insight ของลูกค้าจริง ๆ

โดยได้นำซอสโบโลเนสมาเป็นส่วนประกอบในเมนูอาหาร ทั้งหมด 3 เมนู ได้แก่ เบอร์เกอร์ไก่ชิ้นยาวซอสแดง ดับเบิ้ลเบอร์เกอร์เนื้อซอสแดง และเฟรนช์ฟรายส์ชีส ซอสแดง ในราคาเริ่มต้นเพียง 99 บาท 

ซึ่งการให้ผู้ติดตามช่วยกันตั้งชื่อเมนูใหม่ที่กำลังจะวางขาย และเลือกใช้ชื่อเมนูดังกล่าวจริง ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยทำให้ผู้บริโภคจดจำสินค้าได้ง่ายขึ้น และสามารถสั่งซื้อได้อย่างสะดวก สะท้อนการเป็นแบรนด์ที่มีการสร้าง Community ที่แข็งแรงระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคอย่างแท้จริงเลยค่ะ

กลยุทธ์ Burger King มุ่ง Localization ผุดไอเดียให้คนช่วยตั้งชื่อเมนูส่งท้ายปี

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ กลยุทธ์ Burger King มุ่ง Localization พร้อมให้คนช่วยตั้งชื่อเมนูส่งท้ายปี ที่ได้พาทุกคนมาดูอย่างเจาะลึกกันในวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปวงการเบอร์เกอร์ของจริง

คงจะเห็นกันแล้วว่าการใช้ Data Driven รวมถึง Social Listening มาเป็นพื้นฐานในการทำแคมเปญการตลาด แล้วใส่ Branding เข้าไป ถ้าเราตัดสินใจจากข้อมูล ก็จะทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น และส่งมอบ Right Offer ให้กับกลุ่มลูกค้าได้อย่างถูกต้องและถูกใจด้วย

และอย่าลืมที่จะดู Insight ของคน ประกอบกับความเหมาะสมของแพลตฟอร์มนั้น ๆ ควบคู่กัน เพราะถ้าอยากจะทำคอนเทนต์ให้ถูกใจแต่ละ Target ก็จะต้องเข้าใจแพลตฟอร์มก่อนด้วยนั่นเอง

ยิ่งโลกการตลาดในปัจจุบัน ไม่ใช่วันเวย์ แต่เป็นทูเวย์ ที่เราจะต้องสื่อสารกับลูกค้า พยายามทำให้แบรนด์มีความเป็นคนมากขึ้น ผู้บริโภคเองก็มีความคาดหวังจากแบรนด์มากขึ้น และไม่ได้มองว่าแบรนด์คือแบรนด์ แต่มองเป็นเพื่อน เป็นมนุษย์คนนึง คนต้องการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ เพื่อที่จะได้เติบโตไปพร้อมกัน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.burgerking.co.th และ Facebook: Burger King Thailand

และทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter Youtube และ Blockdit ได้เลยค่า