Social Content Strategy: วิธีทำคอนเท้นต์แบบมีกลยุทธ์

Social Content Strategy: วิธีทำคอนเท้นต์แบบมีกลยุทธ์

ทุกวันนี้การทำการตลาดผ่าน Social Media เป็นเหมือนภาคพื้นฐานที่แบรนด์เกือบทุกแบรนด์ต้องทำ วันนี้เพลินก็เลยจะมาแชร์ Social Content Strategy จากทีม We Are Social ที่จะช่วยให้การทำ Content บนเพจมี Dynamic มากยิ่งขึ้นค่ะ ใครที่เป็น Content Writer หรือว่ากำลังจะวางกลยุทธ์เนื้อหาส่งลูกค้า อย่าลืมนำไปปรับใช้กันดูค่ะ

แน่นอนว่าเวลาที่เราวางแผนทำเนื้อหาเพื่อลงสื่อโซเชียลในช่องทางต่างๆ เราก็ต้องมีการคำนึงถึงลูกค้าที่จะซื้อของ ใช้สินค้าหรือบริการของเราเป็นหลัก วันนี้เพลินก็ได้สรุป 3 แกนการทำความรู้จักกับคนติดตาม ลูกค้า หรือคนอ่านเพจมาให้นักการตลาดก่อนที่เราจะไปคุย สื่อสารกับเค้าผ่าน Content ค่ะ

จะเห็นได้ว่าเวลาเราทำ Checklist เพื่อรู้จักลูกค้าเนี่ย มันมีทั้งหมด 3 หัวข้อนั่นก็คือ

  1. Demographics: ที่เพลินเชื่อว่าหลายๆ คนคงทำกันอยู่แล้วแหละ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอายุ เพศ สถานที่ ซึ่งเมื่อเรารู้จักข้อมูลส่วนนี้ เราก็จะเริ่มเห็นภาพแล้วว่า คนอ่านของเราหน้าตาแบบไหน
  2. Psychographics: แต่เราจะรู้แค่หน้าตาเค้าไม่ได้ใช่ไหมคะ เราก็ต้องอยากรู้ว่าเค้าคิดอะไร รู้สึกยังไง หรือชอบ ไม่ชอบอะไร
  3. Behavior: หลังจากที่เรารู้หน้าตา นิสัยความชอบแล้ว อีกเรื่องที่เราควรรู้ก็คือเรื่องของพฤติกรรม ว่าลูกค้าชอบใช้เวลาไปกับอะไรบ้างในแต่ละวัน ในแต่ละช่วงเวลาค่ะ

หลังจากนั้นพอเราเข้าใจในตัวคนฟังแล้ว ในฐานะคนเขียน คนทำ Content เราก็จะสามารถลงเนื้อหาได้ตรงประเด็น ตรงความชอบมายิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การเขียน Content ก็คงไม่สามารถจบลงที่แค่การทำความรู้จักลูกค้าหรอกค่ะ มันเป็นเพียงส่วนนึงในการวางแผนเท่านั้น

เพราะยังมีอีกอันที่เราควรคำนึงถึง นอกจากแค่ Target Persona แล้ว ก็คือเรื่องของ Social Value Proposition หรือ SVP ที่เป็นเหมือนคุณค่าที่แบรนด์และผู้คนแลกเปลี่ยนกันบน Social Media ซึ่งอาจจะเป็นการมีส่วนร่วมร่วมกันก็ได้ 

โดย social value สำหรับลูกค้าหรือผู้ติดตามก็คือ สิ่งที่พวกเค้าจพได้รับจากการติดตาม ไปจนถึงการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ มาดูตัวอย่างของ SVP สำหรับผู้รับหรือลูกค้าบนเพจดูนะคะ

  1. Utility: หรือเรื่องของผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากเพจของเรา จริงๆ มันก็คือคำถามว่า ทำไมคนต้องตามเพจคุณ? เพจเราทำให้ลูกค้าใช้ชีวิตง่ายขึ้นกว่าเดิมไหมนะ? ข้อนี้สำคัญมากนะคะ อยากให้ตอนที่วางแผน Strategyคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มากๆ
  2. Entertainment: การสื่อสารแบบที่เราอยากให้ลูกค้าได้รับรู้ถึง Emotion หรือ Feelings ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า ความตลก หัวเราะ ความกังวล ปลอดภัยไว้ก่อน ฯลฯ
  3. Social capital: การทำให้ลูกค้าหรือคนตามเพจเราดูดีขึ้น เหมือนแชร์ไปแล้ว เค้าดูเป็นคนอินเทรนด์นะ หรือจะดูฉลาด มีความรู้ ดูอินดี้ ฉันไม่แมสนะ เป็นต้น
  4. Value/worth: อันนี้จะเป็นเรื่องของ Financial Reward ที่ลูกค้าจะได้รับ

ต่อมาในส่วนของ Social Value ในฝั่งแบรนด์ก็คือ Positive Effects ที่ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมกับโพสต์ต่างๆ ของแบรนด์นั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็น

  1. Communication effects: การตอบโต้จากคนอ่านแบบทันที เช่น การรับรู้ถึงข้อความที่เราต้องการจะสื่อ สินค้าใหม่ เป็นต้น
  2. Attitudinal effects: การที่ลูกค้าเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับแบรนด์
  3. Behavioral effects: การที่ลูกค้ามีปฏิกิริยากับการกระทำหรือไอเดียบางอย่างจากแบรนด์
  4. Business effects: การซื้อขายที่เกิดขึ้นผ่าน Post ต่างๆ บนโซเชียลค่ะ

หลังจากที่เราตอบได้แล้วว่าพูดให้ใครฟัง แล้วเราควรทำไปทำไม ต่อมาก็คือการวางแผน Content ให้ Detail ยิ่งขึ้นตาม Elements ต่างๆ ที่เราวางไว้แล้ว ไม่ว่าจะกลุ่ม Target หรือจะเป็น Social Value Proposition ค่ะ นั่นก็คือ:

  1. Objective ของ Content นั่นๆ: หรือการวางว่าสุดท้ายแล้วคนเห็นเนื้อหาโพสต์นี้แล้ว อยากให้เค้าทำอะไรต่อ อยากให้เค้ารับรู้ข้อความอะไร หรืออยากให้เค้าเข้าใจว่าเรามีสาขาใหม่เปิด เป็นต้นค่ะ เพราะงั้นถ้าเราทำโพสต์ไปแล้ว แต่ยังมีลูกค้าไปร้านเก่าโดยไม่รู้ว่ามีสาขาใหม่เกิดขึ้น เราก็อาจจะต้องมา Repost หรือเพิ่ม Awareness ในจุดนี้มากขึ้น
  2. เลือกว่า Effects ที่อยากได้คืออะไร?: จากที่เราลิส SVP ฝั่งแบรนด์ออกมา 4 ข้อ เราก็ต้องวางด้วยว่า แล้วแบรนด์จะได้อะไรจากตรงนี้บ้าง Action ที่อยากให้ลูกค้าทำกับโพสต์นี้คืออะไร
  3. ทำไมลูกค้าต้องสนใจโพสต์นี้: อันนี้ก็คือการ Cross Check กับ SVP ฝั่งลูกค้าบ้าง ว่าแล้วลูกค้าจะได้อะไร? ได้ความรู้ใหม่ ใช้ชีวิตง่ายขึ้น ได้ประโยชน์ ของรางวัลอะไรค่ะ
  4. จุดไหนในโพสต์ที่ Hook คนได้? พอเราวาง Objective/Action และ So What แล้ว ต่อมาเราก็ต้องร่าง Message ให้คนอ่าน Hook กับเนื้อหาของเราด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการนำ Interests หรือ Behavior ของคนมาใช้ก็ได้ หรือจะเป็นเรื่องของพฤติกรรมที่เรา Crack ออกมาจาก Target Audience อีกทีนั่นเองค่ะ

หลังจากนี้ ก็จะเป็นการ Evaluate เนื้อหาว่า Effects กับ SVP ต่างๆ นั้น Success หรือเปล่า โดยให้เราวัดจาก Objective ด้วย รวมไปถึง Action ที่เราตั้งเป้าไว้ ว่าได้รับกลับมาหรือเปล่าค่ะ เพลินหวังจริงๆ ว่าบทความในวันนี้ จะสามารถเป็นเหมือน Social Content Strategy Guidebook ในการทำโพสต์ให้กับนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจทุกคน อย่าลืมลองปรับใช้กันดูนะคะ เพราะ Content อาจจะทำแล้วไม่เห็นผลในทันที มันต้องใช้เวลาในการ Grooming ให้มันเกิดขึ้น ไม่เหมือนกับการทำโพสต์ขายของ ยิง Ads เปลี่ยน CTR เป็น Conversion ที่แปปๆ ได้ยอด แต่ตรงนั้นก็ต้องแลกมากับเงินที่เราลงไป Media Buy เดือนละเท่าไร?

แต่ถ้าเราเข้าใจในการทำ Content ตรงนี้แหละที่จะกลับมาตอบผลลัพธ์ในระยะยาว คนหาก็เจอ คนเริ่มแชร์ จนเพจของเรากลายเป็นเพจที่จำเป็นต่อผู้คนในทุกๆ วันค่ะ อย่าลืมว่าการทำ Content ทุกครั้งคือการคำนึงถึง Social Value Proposition ทั้งของฝั่งแบรนด์และฝั่งของลูกค้าที่เรากำลังคุยด้วย ถ้าคิดอะไรไม่ออก ลองถามตัวเองก่อนสักนิดว่า

วันนี้เราตามเพจอะไรอยู่ แล้วเราตามเพจนั้นทำไม ชอบอะไรจากเพจนั้น?

เสร็จแล้วลองเอามา Adapt ปรับใช้ วาง Objective กับเพจของเราเองบ้างนะคะ สำหรับใครที่สนใจบทความเกี่ยวกับ Content อีก สามารถคลิกเข้าไปเลือก Topics อื่นๆ ที่นี่เลยค่ะ

Plearn Wisetwongchai

Marketing Strategic Planner ในเครือการตลาดวันละตอน | A Creator สาวพลัสไซส์ @Fabfatkid | A Travel Lover ที่หมดเงินเกือบ 80% ไปกับการเดินทางแบบแมสๆ | An Instagrammer @theplearn ที่ชอบเล่น Story เป็นชีวิตจิตใจ | สุดท้ายคือ Data Researcher ทั้ง Social และ Search Data etc. ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน