LaCroix กลยุทธ์การสร้าง Micro-Influencers เปลี่ยนลูกค้าให้กลายเป็นแฟน

Email LinkedIn Tweet Facebook ShareShares5.9k

จากกระแส Micro-Influencers ที่นับวันยิ่งร้อนแรงไม่มีหยุด จนกลายเป็นสื่อกระแสหลักหรือ Mainstream ไปแล้วในวันนี้ แต่ทำไมยังเห็นหลายแบรนด์ใช้ Micro-Influencers แบบไร้กลยุทธ์ หรือที่เห็นบ่อยสุดคือให้กิน ให้ใช้ ให้ไป ให้รีวิว ไม่ต่างกับ Influencer หรือสื่อเดิมๆทั่วไปอย่างไงอย่างงั้น

วันนี้ผมมีกรณีศึกษา หรือ Case Study ที่ไม่ใช้แค่การใช้ Micro-Influencers แต่ยังเป็นกลยุทธ์การสร้าง Micro-Influencers ให้แบรนด์แบบไม่ต้องลงทุนหนัก แค่ใช้ความจริงใจในการเข้าหาคนที่เป็นลูกค้าแบรนด์ให้บ่อยเท่านั้นเอง

LaCroix แบรนด์เครื่องดื่มประเภท Sparking ที่มีแพคเกจสีสันนีออนจี๊ดจ๊าดถูกใจคนรุ่นใหม่ Millennials ได้ใช้กลยุทธ์ด้าน micro-influencers ที่ไม่เหมือนใคร เพราะในวันที่แบรนด์ทั่วไปนั้นแห่จ้างและตามหาคนที่ใช่ แต่แบรนด์ LaCroix เลือกที่จะไม่จ้างแต่จับตามองกลุ่มลูกค้าที่โพสสินค้าแล้วแฮชแทกแบรนด์กลับมาเท่านั้นเอง

โดย LaCroix นั้นจะเข้าไปดูว่าใครบ้างที่โพสรูปสินค้าแล้วแท็กกลับมาที่แบรนด์ ถ้าแอดมินเข้าไปดูแล้วว่าภาพนี้ใช่คาแรคเตอร์ที่แบรนด์ต้องการ ก็ไม่รอช้าเข้าไปประชิดตัวผู้โพสทันที

ด้วยคอมเมนท์ภาพนั้นอย่างชื่นชมถึงความครีเอทีฟ จากนั้นก็บอกกันตรงๆเลยว่าภาพนี้โดนใจมาก ถ้าทางเราจะขอเอาไปรีโพส หรือเอาไปใช้งานต่อในทางการตลาด หรือ marketing ได้มั้ย ถ้าอนุญาตให้เอาไปใช้ได้ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ตอบกลับด้วยแฮชแทก #yes2lacroix กลับเท่านั้นเอง

เชื่อมั้ยครับว่ามีคนตอบกลับการขอรูปจากทางแบรนด์ด้วยแฮชแทกนี้กว่า 10,329 ครั้ง ลองคิดดูซิว่าแบรนด์ LaCroix จะได้ภาพที่ทั้งสวยและฟรีไปทำ Branded Content ได้อีกกี่สิบปีก็ไม่หมด

และบางโพสทางแบรนด์ก็จะมีการส่งของขวัญเล็กๆน้อยๆจากแบรนด์ไปให้ แต่รู้มั้ยครับว่าของขวัญเล็กๆน้อยๆจากแบรนด์นั้นกลับมีมูลค่ามากในความรู้สึกของผู้บริโภคธรรมดาขนาดไหน

แล้วคุณคิดว่าแบบนี้คนที่ได้รับการตอบกลับหรือของที่ระลึกจากแบรนด์ LaCroix จะเอาเรื่องนี้ไปเล่าต่อให้เพื่อนฟังอีกกี่สิบกี่ร้อยคนในวันข้างหน้า ช่างเป็นกลยุทธ์ Micro-Influencers ที่ชาญฉลาดมาก เพราะไม่ใช่แค่ได้ Brand Influencers แต่ยังได้ Brand Advocacy หรือคนที่พร้อมจะบอกต่อแบรนด์ในแง่ดีให้เราไปอีกนาน

แคมเปญการรีโพสของ LaCroix นี้เพียงแค่ 8 เดือนก็สามารถเพิ่มแฟนจาก 4,000 คนเป็น 30,000 คนบน Instagram ในปี 2015 และล่าสุดผมเพิ่งดูวันนี้เค้ามีคนติดตามบน Instagram สูงถึง 168,000 คนแล้วครับ

สุดท้ายนี้คุณเห็นเหมือนผมมั้ยว่า แคมเปญนี้ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ไม่ต้องทุ่มงบการตลาดไปจ้าง Influencers และ Micro-Influencers มากมายเหมือนที่หลายแบรนด์กำลังทำกันอย่างน่าเสียดายงบการตลาดแทน

LaCroix เลือกที่จะใช้ความจริงใจเข้าหา เข้าไปพูดคุยกับคนจริงๆที่เป็นลูกค้าแบรนด์มากมาย แม้ในระยะสั้นอาจไม่ได้ผลหวือหวาเหมือนการระดมจ้างคนให้โพสถึงแบรนด์ แต่ในระยะยาวเราก็คงเห็นกันชัดแล้วใช่มั้ยครับว่าได้ผลเป็นอย่างไร

คำถามที่ผมอยากฝากทิ้งไว้คือ วันนี้คุณดูแลลูกค้าของคุณดีพอหรือยัง ถ้ายังคุณเอางบการตลาดที่จะไปจ้าง Influencers ทั้งหลาย กลับมาใส่ใจดูแลลูกค้าเดิมของคุณให้ดีจะดีกว่ามั้ยครับ เพราะเค้าเหล่านี้แหละที่จะพูดถึงแบรนด์คุณไปอีกนาน เพียงแต่จะเป็นแง่มุมไหนก็อยู่ที่คุณเลือกทำเท่านั้นเอง