หลักสูตร MDA Marketing Data Analytics เพื่อองค์กรที่อยากเริ่ม Data-Driven Marketing ปีนี้

หลักสูตร MDA Marketing Data Analytics เพื่อองค์กรที่อยากเริ่ม Data-Driven Marketing ปีนี้

หลักสูตร MDA Marketing Data Analytics หลักสูตรดาต้าเพื่อนักการตลาด ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ หรือองค์กรที่อยากเริ่มต้นใช้ Data-Driven Marketing ในปีนี้ เป็นหลักสูตรที่ผม การตลาดวันละตอน ทำร่วมกับสถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่กลั่นมาจากการเป็นที่ Data-Driven Marketing Advisor ให้กับบริษัทต่างๆ มาจนพบว่าบริษัทไหนหรือองค์กรใดที่อยากเริ่มต้นใช้ Data จริงๆ ต้องมีทักษะที่สอนในหลักสูตรนี้

เนื้อหาหลักที่จะได้เรียนในหลักสูตร MDA Marketing Data Analytics

หลักสูตร MDA Marketing Data Analytics เรียนอะไรบ้าง?

1. Data Thinking ทักษะการเข้าใจดาต้าในแบบนักการตลาดและคนทำธุรกิจ

Data Thinking ทักษะในศตวรรษที่ 21 ลูกผสม Design Thinking กับ Data Science

Data Thinking คือศาสตร์ผสมระหว่าง Design Thinking กับ Data Science คือการมองดาต้าอย่างเข้าใจและสามารถคิดกลยุทธ์ต่อยอดจากดาต้าที่เห็นได้ เพราะปัญหาหลายครั้งที่ผมเจอจากการเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่างๆ คือการไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากดาต้าที่มีอย่างไร ไม่รู้จะตั้งคำถามกับดาต้าอย่างไร ไม่รู้จะเริ่มต้นวิเคราะห์ดาต้าจากตรงไหน

Data Collection Canvas โมเดลสร้างแคมเปญเก็บ Data จากหนังสือ Data-Driven Marketing

ผู้เรียนจะได้เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ดาต้าผ่าน Dashboard แล้วคิดต่อยอดออกมาเป็นกลยุทธ์การตลาด และได้เรียนการใช้ Data Collection Canvas เพื่อวางแผนเก็บดาต้าที่ต้องการ จะได้มีดาต้ามาใช้งานตามเป้าหมายทางธุรกิจ

เนื้อหาวันแรกจะได้เรียนเรื่อง Data Strategy กลยุทธ์การเก็บและใช้ดาต้าเป็นหลักครับ

2. Data Visualization ทักษะการอ่านดาต้าในยุค Data-Driven Everything

การทำ Data Visualization เปรียบได้กับความสามารถในการอ่านภาษาดาต้าออก เหมือนสมัยก่อนถ้าเราอยากมีความรู้มากกว่าคนอื่น เราต้องเรียนภาษาที่สองหรือสามได้ แต่ในยุค Data-Driven Everything เราจะเป็นต้องรู้ภาษาดาต้า นั่นก็คือการทำ Data Visualization เปลี่ยนดาต้าให้กลายเป็นภาพที่อ่านเข้าใจได้ด้วยตัวเองให้เป็น

ปัญหาที่พบจากการเป็นที่ปรึกษาเรื่อง Data-Driven Marketing มาหลายที่คือทีมการตลาด ทีมขาย ทีมดูแลลูกค้า ต้องรอทีม IT หรือทีม Data ทำ Analytic Dashboard มาให้ใช้งาน

และปัญหาที่ตามมาคือระยะเวลาในการรอ กว่าจะได้ Dashboard แต่ละครั้งต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าหลักวัน ซึ่งส่วนใหญ่ต้องรอเป็นสัปดาห์ หรืออาจถึงขั้นเดือน ทำให้ไม่ทันใช้งาน ไม่ทันพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ดังนั้นทักษะสำคัญของคนทำงานยุคดาต้าคือสามารถทำ Data Visualization เป็นด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องรอให้ใครมาทำให้ เพราะถ้าสามารถทำเองได้ รอบในการใช้ดาต้าขององค์กรนั้นจะเร็วขึ้นมาก

ซึ่งเครื่องมือที่จะสอนมีสองโปรแกรม (ทั้งหมดทำงานบน Cloud base)

2.1 Looker Studio

Google Data Studio เริ่มต้น Analytics แบบง่ายๆ ที่นักการตลาดยุคใหม่ต้องรู้

หรือ Google Data Studio เดิม โปรแกรมการทำ Data Visualization ที่ใช้งานง่าย แต่มีความสามารถหลากหลาย ที่สำคัญสามารถเชื่อมโยงกับดาต้าจาก Google Products ทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย

โดยจะได้เรียนแบบเน้น Workshop ลงมือทำตลอด 1 วันเต็ม ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การสร้าง Dashboard ไม่ต่ำกว่า 10 ชนิด เพื่อให้รู้ว่าแต่ละชนิดนั้นเหมาะกับการวิเคราะห์ข้อมูลแบบไหน

2.2 Power BI เพื่อการ Analytic ที่ Advance กว่า

Power BI เครื่องมือเข้าถึง Insight in Data ที่นักการตลาดยุคดาต้า 5.0 ต้องใช้เป็น

แม้สองโปรแกรมนี้จะทำหน้าที่ Visualization เหมือนกัน แต่ความสามารถนั้นไม่เหมือนกัน เพราะ Power BI นั้นสามารถทำกราฟในรูปแบบต่างๆ ได้ Advance กว่า และหลายองค์กรก็มีการซื้อลิขสิทธิ์จาก Microsoft อยู่แล้ว

ดังนั้นการเรียนรู้การทำ Data Visualization จากสองโปรแกรมจะเป็นการช่วยเต็มเติมภาพรวมของการทำ Data ที่ครบครัน และในวันเรียนจะเป็นการเน้น Workshop ลงมือทำเป็นหลัก ผู้เรียนจะได้ลงมือทำจริง สร้าง Dashboard จาก Data จริง และจะได้ฝึกคิดแบบ Data Thinking จริงๆ ว่าถ้าดาต้าบอกแบบนี้แล้วเราควรจะวางแผนการตลาดหรือปรับกลยุทธ์ธุรกิจอย่างไรต่อ

Session นี้ได้รับเกียรติจากคุณบีม เจ้าของเพจ DataProteins ผู้เขียนหนังสือ Data Visualization with Power BI ถึงสองเล่มมาร่วมสอนครับ

3. Data Science for Marketing ด้วย Rapid Miner

วิธีการทำ RFM Analysis จาก Transaction Data เพื่อแบ่งกลุ่มลูกค้าออกมาเป็น 12 Customer Segmentation จากพฤติกรรมการซื้อสำหรับการตลาดออนไลน์

บริษัทจะใช้ Data-Driven Marketing ได้เร็วขึ้นก็เมื่อคนส่วนมากในบริษัทมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถทำดาต้าด้วยตัวเองได้ และนอกจากทักษะการทำ Data Visualization การเปลี่ยนดาต้าเป็น Dashboard เพื่ออ่านสิ่งที่ดาต้าบอกให้ออก ยังจำเป็นต้องมีทักษะเรื่อง Data Science 101 หรือ Data Science for Marketing ที่จะยกระดับความรู้เรื่องการใช้ Data-Driven ไปอีกขั้น

ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การใช้ Model แบบต่างๆ เพื่อเอามาช่วยค้นหา Customer Insight จากดาต้าที่มีให้เป็น เรียนรู้การทำ RFM Model การทำ Recommendation รู้ว่าจะ Upsell Cross-sell อย่างไรจึงจะมีโอกาสปิดการขายได้มากที่สุด

ผ่านโปรแกรม Rapid Miner ที่ผู้เรียนจะได้ลงมือทำ และที่สำคัญคือไม่ต้องเขียนโค้ดก็สามารถสร้างดาต้าโมเดลด้วยตัวเองได้แบบง่ายๆ แล้วจะรู้ว่าธุรกิจจะไปได้ไวถ้าเข้าใจเครื่องมือที่ Data Scientist มี

Session ได้รับเกียรติจาก ดร.เอกสิทธิ์ พัชรวงศ์ศักดา เจ้าของเพจ Data Cube ผู้เริ่มบุกเบิกเรื่อง Big Data คนแรกๆ ของประเทศไทยมาช่วยสอนครับ

ผ่านไปแล้วกับ 3 Session หลักของการใช้ First-Party Data หรือ Internal Data เพื่อรีดเค้น Insight ประสิทธิภาพออกมาอย่างเต็มที่ มาสู่ Session ที่ 4 ของการหา Insight & Opportunity จากการใช้ External Data ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า Social Listening ครับ

4. Social Listening เข้าถึง Consumer Insight นับล้านในไม่กี่คลิ๊ก

พูดถึง Social Listening เชื่อว่านักการตลาดไทยหลายคนคงคุ้นหูกันดี และในหลักสูตร MDA Marketing Data Analytics นี้ก็จะมีการสอนการใช้ Social Listening แบบเจาะลึกลงรายละเอียดในแบบที่ผม การตลาดวันละตอน ใช้ในการทำ Data Research Insight ให้ลูกค้า

สอนแบบเน้น Workshop ให้ลงมือทำจนเป็นกับ 8 ขั้นตอนการใช้ Social Listening โดยการตลาดวันละตอน ถ้าทำตามนี้คุณจะเข้าถึง Consumer Insight มากมายนับล้านได้ในไม่กี่คลิ๊ก คุณจะเห็น Business Opportunity ใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึงอีกมากครับ

Data Research Insight ส่อง ทุเรียน ครึ่งปีหลัง ฉีกภาพจำ King of fruit ขายทั้งปียังได้เลย!

ถ้าอยากรู้ว่าใช้ Social Listening เป็นแล้วจะช่วยอะไรได้ ลองดูตัวอย่างจากโปรเจค Data Research Insight 76 จังหวัดทั่วไทย หรือ Data Research Insight คนไทยกินทุเรียนแบบไหน อย่างไร ที่คนทำธุรกิจทุเรียนจำเป็นต้องรู้ครับ

5. CRM Strategy การตลาดแบบ Personalization จาก Journey

CRM Strategy Canvas การตลาดแบบรู้ใจจาก Customer Journey

การตลาดแบบ CRM ไม่ใช่แค่การทำ Loyalty Program สะสมแต้ม การตลาดแบบ CRM ที่ควรจะเป็นคือการดูว่าลูกค้ากำลังอยู่ใน Stage ไหนของ Journey แล้วก็วาง Strategy ล่วงหน้าว่าจะใช้เครื่องมือ Marketing Automation อย่างไร

เรียนผ่าน CRM Strategy Canvas ที่จะได้ต่อยอดจากการทำ Data Analytics ออกมาแล้วจะทำกลยุทธ์การตลาดอย่างไรต่อ สามารถเอาไปประยุกต์ใช้กับงานจริงที่บริษัทได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมใช้กับบริษัทลูกค้าที่ผมเป็นที่ปรึกษาอยู่ เท่ากับว่าคุณจะได้รับคำปรึกษาระหว่างเรียนไปพร้อมกันครับ

6. PDPA for Marketing

สรุป PDPA พ.ร.บ. ข้อมูลส่วนบุคคล กับ 7 เรื่อง ที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ

การตลาดยุค PDPA การรู้และเข้าใจกฏหมายเรื่อง พ.ร.บ. ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอะไรที่สำคัญมาก Session นี้จึงจัดมาเพื่อนักการตลาดที่ต้องรู้ในเรื่องที่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ PDPA เพื่อที่จะได้รู้ว่าอะไรที่เราทำได้ อะไรที่เราทำไม่ได้ อะไรที่เราต้องควรระวัง เพื่อที่จะได้ทำการตลาดจากดาต้าที่มีแล้วไม่เกิดปัญหาตามมาทีหลังครับ

อ่านเรื่อง PDPA ที่นักการตลาดต้องรู้ ในการตลาดวันละตอนเพิ่มเติมครับ > คลิ๊ก

7. Present Data-Driven Marketing Project

Session สุดท้ายของหลักสูตร MDA Marketing Data Analytics คือการที่ให้ผู้เรียนทุกคนได้ Present Data-Driven Marketing Project ของตัวเอง โดยเอาทุกสิ่งที่ได้เรียนจากหลักสูตรนี้ทำออกมาเป็นแผนการตลาดหรือกลยุทธ์ธุรกิจที่จะเอาไปต่อยอดใช้งานจริงกับบริษัทของตัวเอง

ทางผู้สอนจะทำหน้าที่เป็น Advisor ที่ปรึกษาให้ว่ายังขาดแง่มุมไหนบ้างที่ผู้เรียนทำมา และยังเปิดโอกาศให้ Follow up ได้หลังจากจบคลาสเรียนอีก 1 ครั้งในระยะเวลา 1 เดือน

และหากบริษัทไหนส่งพนักงานเข้ามาอบรมตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป ก็สามารถเปิด Private Session ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนเพื่อรับคำปรึกษา Final Project ได้ครับ

สรุปหลักสูตร MDA Marketing Data Analytics โดยการตลาดวันละตอน และ สถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เป็นหลักสูตรที่จับรวบรวมทักษะที่จำเป็นสำหรับองค์กรที่ต้องการเริ่มต้นใช้ Data-Driven Marketing ในปีนี้ เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อนักการตลาด หรือคนที่ไม่มีความรู้เรื่องดาต้ามาก่อน เรียนแบบเน้นลงมือทำ และจะได้ทำดาต้าจริงที่เตรียมมาให้ในคลาส พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสให้ได้เอาทั้งหมดที่เรียนมาประกอบเป็นแผนการตลาดที่ใช้ ​Data-Driven Marketing จริงๆ ครับ

ค่าลงทะเบียนอบรม 89,000 บาท ราคาพิเศษช่วง Early bird ก่อนวันที่ 8 พ.ค. 2566 ลดทันที 14,000 เหลือ 75,000 บาท (ขยายเวลาให้จากภาพครับ)

ค่าอบรมสามารถนำไปลดหย่อนทางภาษีได้ 200% ครับ แล้วจะเก็บไว้เสียภาษีเปล่าทำไม ส่งคนมาเรียนเพิ่มกำไร แถมยังได้ลดหย่อนภาษีด้วย!! อ่านรายละเอียดประกาศจากกรมสรรพากร > คลิ๊ก

เรียน 6 วัน เสาร์-อาทิตย์ ต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ เริ่มวันเสาร์ที่ 13 พ.ค. 2566 จบวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค. 2566 ที่โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line : @icehrtu
โทร : 093-756-8318

หากนักการตลาด ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ หรือบริษัทไหนที่สนใจอยากดูรายละเอียดเพื่อเตรียมสมัครได้ที่ลิงก์นี้ครับ > http://icehr.tu.ac.th/service-training/799

สอนและบริหารหลักสูตรโดย
อาจารย์ ดร.สุรพิชย์  พรหมสิทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คุณหนุ่ย ณัฐพล ม่วงทำแที่ปรึกษาด้าน Data-Driven Marketing เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *