ในภาวะที่เราต้องอยู่ห่างกันหรือ Social Distancing ในวันที่ COVID-19 กำลังระบาด ก็ทำให้บรรดาผู้คนส่วนใหญ่ที่ต้องอยู่แต่บ้านนั้นเกิดภาวะเหงาขึ้นมาตัวเท่าบ้านกันทั่วโลกครับ วันนี้ผมมีแคมเปญการตลาดในภาวะโควิดระบาดมาเล่าให้ฟัง ขอเรียกว่า Social Distancing Marketing ที่ฉลาดใช้วิกฤติให้เป็นโอกาสจากความเหงาของคนให้ฟังนะครับ ในวิกฤต COVID-19
ล่าสุด We Are Social ได้แชร์เรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับพลังของ Social Media Community หรือกลุ่มสังคมโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นในช่วงเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ทำให้ใครหลายๆ คนตอนนี้จำเป็นที่จะต้องอยู่บ้านกันมากขึ้น เพราะกลัวการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการกักตัวหรือแม้กระทั่งการ Work from Home ที่หลายๆ บริษัทได้เริ่มให้พนักงานตัวเองกลับไปทำงานที่บ้านกันแล้ว ในโลกโซเชียลตอนนี้ ใครหลายๆ คนอาจจะเถียงว่า มันจะเป็นโอกาสได้ยังไง?
จากรายงาน Travel Trends 2020 ทั่วโลกของ Booking.com ที่เรา การตลาดวันละตอนเคยสรุปไปก่อนหน้า วันนี้เราจะมาเจาะลึกลงไป โดยโฟกัสแค่ที่ชาวไทย มาดูว่าคนไทยมีการปรับตัวอะไรกับเทรนด์โลกบ้างค่ะ คนไทยเห็นด้วยกับการเที่ยวเมืองรองสูงกว่าค่าเฉลี่ยเทรนด์ทั่วโลก 65% ของคนไทย พร้อมเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง ถ้าการเปลี่ยนจุดหมาย สามารถช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมถูกทำลายจาก Over-tourism ได้ ซึ่งจำนวนนี้ถือว่ามากกว่าค่าเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกนะคะ เพราะว่าทั่วโลกอยู่ที่ 51% เท่านั้นเอง
การลดราคามักเป็นเครื่องมือกระตุ้นยอดขาย หรือแม้แต่ทำให้ลูกค้าใหม่หันมาสนใจ และทำให้ลูกค้าเก่าต้องนึกถึงเราอีกครั้ง แต่ปัญหาคือสินค้าและบริการหลายอย่างวันนี้ก็ล้วนแต่ลดราคากันเป็นเรื่องธรรมดา จนทำให้การไม่ลดราคานั้นกลับทำให้แตกต่างด้วยซ้ำ ดังนั้นวันนี้การตลาดวันละตอนเลยขอหยิบยกแคมเปญการตลาดที่ลดราคาแบบมี Strategy ที่เรียกว่า Hijack Strategy ที่ชื่อว่า Astronomical Sales จาก Mastercard
เวลาพูดถึงการเก็บและใช้ Data หลายคนอาจจะคิดว่า คงเป็นไปได้เฉพาะสำหรับบริษัทหรือธุรกิจใหญ่ๆ ที่มี Budget เยอะๆ เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว เครื่องมือที่ใครหลายๆ คนรวมไปถึงคนทำธุรกิจขนาดเล็ก อย่างพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์มักมองข้ามไปก็คือ Instagram Polls ค่ะ เพลินเชื่อว่าวันนี้แทบไม่มีแบรนด์ไหน ที่ไม่มีช่องทางบน Instagram แต่คำถามคือ คุณใช้เจ้า Instagram นี้ได้คุ้มค่าพอแล้วหรือยัง?
วันนี้การตลาดวันละตอนจะมาแชร์ เทรนด์ท่องเที่ยว 2020 ที่เผยแพร่โดย Booking.com ที่รวบรวมข้อมูลจาก 2 แหล่งหลัก คือ เสียงรีวิวบนเว็บกว่า 180 ล้านรีวิว และการ research กับนักท่องเที่ยวกว่า 22,000 คน จาก 29 ตลาดทั่วโลก โดยมีทั้งหมด 8 เทรนด์ดังต่อไปนี้เลยค่ะ 1.กระแสการเที่ยวเมืองรองมาแรงขึ้น ต้องบอกว่ากระแสรักษ์โลกวันนี้แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆ ค่ะ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องงดถุงพลาสติกตามห้างแล้ว แต่ยังลามมาถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คนหันมาสนใจเรื่องของสภาพแวดล้อมมากขึ้น
Data-Driven Football ในวันที่อะไรๆ ก็ Data เพราะนักการตลาดและนักธุรกิจทุกคนต่างก็พยายามหาทางใช้ Data ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และหนึ่งในธุรกิจที่พยายามใช้ Data-Driven มากขึ้นนั่นก็คือแวดวงกีฬา จากเดิมที่เคยเชื่อกันว่ากีฬาเป็นเรื่องของพรสวรรค์และสัญชาติญาณส่วนบุคคล แต่พอมี Data เข้ามาเราก็เริ่มเห็นหลายทีมกีฬาเอา
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำเหยียดผิว GO BACK TO AFRICA กันสักนิดว่าคืออะไรค่ะ ที่ผ่านมา เพลินเชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยินคำด่ายอดฮิต ที่ตอนนี้ถ้าใครยังใช้ประโยคนี้อยู่ คงต้องโดนตราหน้าว่า เป็นพวกเหยียดเชื้อชาติแน่ๆ นั่นก็คือคำว่า “ลาวมากอะ” หรือ “อย่าลาวได้ปะ” ที่นัยยะจริงๆ คือ ‘เสี่ยว’ หรือเชยสะบัดจนน่าอายค่ะ ซึ่งประโยคต่อว่าที่มีชื่อประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องคล้ายๆ กันนี้
เมื่อ Data-Driven Starbucks ทำให้ในวันนี้เขาไม่ได้อยู่ในธุรกิจร้านกาแฟอย่างที่หลายคนคิด แต่พวกเขาอยู่ในธุรกิจ Data ในระดับเดียวกับบริษัท Tech Company ไปแล้วครับ เพราะสตาร์บั๊คไม่ได้อยู่ได้ด้วยยอดขายจากเมนูกาแฟหรือเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นจากทั่วโลกเท่านั้น แต่พวกเขาใช้ Data ที่ได้จากการซื้อขายเมนูต่างๆ มากกว่า
การตลาดในยุคปัจจุบันนั้นไปไกลมากกว่า แนวคิด 4P หรือ 5P แบบเดิมที่ทุกคนคุ้นชินกัน แต่จะต้องเข้าใจในมุมมองของประสบการณ์ผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากขึ้นและลึกซึ้งมากขึ้น ต้องศึกษาลงไปให้ลึกถึงพฤติกรรม ความชอบ ไลฟ์สไตล์และข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มผู้บริโภคเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่จะนำไปต่อยอดในการทำตลาดให้ประสบความสำเร็จได้ เพราะเราอยู่ในยุค Experience-Driven ที่ประสบการณ์เป็นตัวกำหนดนั่นเอง แต่จะทำอย่างไรให้แบรนด์ดัง สินค้าได้รับความสนใจ?