ฟอร์ด ดันไอเดียสุดเจ๋ง! ลดอุบัติเหตุ ด้วยการใช้ ‘Emoji Jacket’
วันนี้ปลื้มได้ไปเจอกับไอเดียในการช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนของ ฟอร์ด มาค่ะ ไอเดียนี้มันเจ๋งมาก เพราะเป็นการเอานวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ ซึ่งนวัตกรรมนี้ถูกเรียกว่า ‘Emoji Jacket’ ถ้าอยากรู้ว่า ไอเดียนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร และจะสามารถ ลดอุบัติเหตุ ได้จริงหรือไม่ ตามมาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ
Emoji Jacket คืออะไร?
สำหรับ ‘Emoji Jacket’ ก็คือเสื้อแจ็คเก็ตที่สวมใส่ระหว่างใช้ถนน และใช้ในการส่งสัญญาณให้กับเพื่อนร่วมทาง ที่ตามมา เพื่อให้ไม่เกิดอุบัติเหตุ โดยตัวเสื้อแจ็คเก็ตจะมีอิโมจิอยู่ด้านหลังโดยมีแผงตาข่าย LED ที่แสดงสัญญาณบางอย่างของการใช้ถนน ซึ่งถูกออกแบบมาใช้สำหรับกลุ่มนักปั่นจักรยานค่ะ เพราะรถจักรยาน ไม่เหมือนกับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ที่มีสัญญาณไฟติดที่รถอยู่แล้ว ดังนั้น Emoji jacket ตัวนี้ก็เปรียบเสมือนไฟหลังรถของคนปั่นจักรยานค่ะ
‘Emoji Jacket’ สามารถแสดงอิโมจิได้ดังนี้
- อิโมจิแสดงอารมณ์ 3 ระดับ 🙂 😐 🙁
- อิโมจิลูกศรซ้าย ขวา ⬅️ ➡️
- อิโมจิสัญญาณอันตราย ⚠️
แนวคิดการทำแคมเปญ ‘Emoji Jacket’
ต้องบอกว่าสิ่งที่ฟอร์ดสร้างขึ้นนี้ เขาได้ศึกษาข้อมูลมากมาย และพบว่าในแต่ละปีมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 25,000 ครั้งบนถนนในยุโรป โดย 2,000 ครั้งเป็นการชนกับนักปั่นจักรยานที่เสียชีวิต จึงกลายเป็นการริเริ่มโครงการ Share The Road ของ Ford ซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนนสำหรับทุกคน และเขาได้ค้นพบว่าไม่มีภาษากลางระหว่างนักปั่นจักรยานและผู้ขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ทั่วไป ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
โดยการวิจัยแสดงให้เห็นว่า ‘อีโมจิ’ เป็นที่เข้าใจในระดับสากลและช่วยให้แสดงอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว การทำงานร่วมกับนักภาษาศาสตร์ ซึ่งมันเข้าใจได้เร็วกว่าคำพูดเสียอีกค่ะ สำหรับการใช้สัญลักษณ์มันสามารถรับรู้อารมณ์ได้ทันที และด้วยเหตุนี้ จึงกลายเป็นภาษาสากลที่ Ford มองหา
เมื่อได้แนวคิดนี้ ทีมงาน WPP Ford จึงได้สร้างแจ็คเก็ตอิโมจิ ขึ้น เพื่อช่วยให้คนปั่นจักรยาน ยังคงมองเห็นได้ในขณะที่สื่อสารกับผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ได้อย่างปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ และ ฟอร์ด ได้ตั้งใจให้ ‘Emoji Jacket’ มีจอ LED ที่ด้านหลังซึ่งแสดงอิโมจิต่างๆ ที่ควบคุมโดยรีโมทไร้สายที่ติดตั้งกับแฮนด์จับ คนปั่นจักรยานสามารถระบุ สื่อสารถึงความอันตราย จะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา และ แสดงอารมณ์แก่ผู้ใช้ถนนรายอื่นโดยไม่ต้องยกมือออกจากแฮนด์ได้อีกด้วยค่ะ
ซึ่งก่อนหน้านี้ตัว ‘Emoji Jacket’ ดังกล่าว ไม่ใช่ผลลัพธ์แรกที่ฟอร์ดได้เริ่มทำหรอกนะคะ แต่ฟอร์ดได้พัฒนานวัตกรรมของเขามาเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้หากใครได้ติดตามก็จะเห็นว่าฟอร์ดได้ทำตัว Smart jacket มาก่อน และได้ปรับปรุงจนถึงเวอร์ชั่นล่าสุดค่ะนั่นก็คือ Emoji jacket ที่ถูกพูดถึงในเมื่อปีที่แล้วนั่นเองค่ะ
การแก้ปัญหาที่นำไปสู่การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์
สำหรับการแก้ปัญหาหรือ solution ต่างๆ ที่ฟอร์ดได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ก็คือการสร้างประโยชน์ของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและการแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงความสำคัญของการแบ่งปันถนนโดยไม่โทษผู้ใช้ถนน ด้วยวิธีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่น่าสนใจ และใช้งานได้จริงค่ะ
ซึ่งกลยุทธ์ฺดังกล่าวมีการสื่อสาร ในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ หรือที่เรียกว่า Brand Image ของการทำเพื่อสังคม การรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งเหล่านี้จะยิ่งทำให้แบรนด์มีคุณค่ามากขึ้น นักการตลาดสามารถสร้างภาพลักษณ์ในระยะยาวแบบแคมเปญ ‘Emoji Jacket’ ได้โดยการศึกษาข้อมูลเชิงลึก พฤติกรรม ต่างๆ ที่สอดคล้องกับแบรนด์ของเรา เพื่อจัดการแก้ปัญหา หรือ สร้างขึ้นใหม่ ในสิ่งที่ค้นพบ
เป้าหมายและความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับฟอร์ด
‘Emoni Jacket’ นี้ประสบความสำเร็จได้คว้ารางวัลในหมวดยานยนต์และการขนส่งที่งาน The Drum Awards สำหรับงาน PR 2021 ครั้งนี้ และจากการประสบความสำเร็จนี้ ฟอร์ดเลยได้เปิดเผยเบื้องหลังเหล่านี้ขึ้นมาค่ะ
โดยเป้าหมายฟอร์ด สำหรับแคมเปญนี้ ได้มุ่งไปยังการส่งเสริมเรื่องของการสื่อสารที่ปลอดภัยยิ่งกว่าเดิมระหว่างผู้ขับขี่รถยนต์และคนปั่นจักรยาน รวมถึงต้องการสร้างการรับรู้ให้กับแคมเปญ เพื่อให้คนจดจำภาพลักษณ์ Ford และ คาดหวังว่าแคมเปญนี้ครอบคลุมสื่อ ทั้งบนโซเชียลมีเดีย และบน Platforms ต่างๆ 150+ ทั่วยุโรป พร้อมกับยอดการดูบน YouTube แบบออร์แกนิก 50,000 ครั้ง
สำหรับผลลัพธ์ของแคมเปญ ‘Emoji Jacket’ ได้รับการตอบรับจากสื่อกว่า 648 สื่อทั่วโลก โดยมีหัวข้อข่าวที่เน้นว่าเสื้อแจ็คเก็ตสามารถช่วยให้คนปั่นจักรยานสื่อสาร ช่วยให้ผู้คนใช้ถนนร่วมกัน เชื่อมช่องว่างระหว่างคนปั่นจักรยานและผู้ขับขี่ ให้ผู้คนปลอดภัยยิ่งขึ้น และรวมถึงเสื้อแจ็คเก็ต สามารถช่วยชีวิตคนได้
มีการเข้าถึง social แบบออร์แกนิก 40.9 ล้านครั้ง ซึ่งเกินเป้าหมายของแบรนด์ที่วางไว้มาก และ วิดีโอ YouTube มียอดการดูแบบออร์แกนิก 150,000 ครั้ง ทั้งยังปรากฏอยู่ในสื่อพวก BBC / Metro / Ansa.it / Libero.it / Marca / 20 Minutos / L’Usine Nouvelle และ MSN เป็นต้น ทำให้แคมเปญนี้ของฟอร์ด ประสบความสำเร็จ และเกินเป้าที่แบรนด์วางไว้เป็นอย่างมากเลยหล่ะค่ะ
สุดท้ายนี้ การทำแคมเปญของฟอร์ด เกิดขึ้นจากการมองเห็นปัญหาจุดๆ หนึ่งบนท้องถนนที่ยังไม่ถูกแก้และสามารถเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้ ดังนั้นนักการตลาดสามารถกลวิธีที่คล้ายๆ กัน ในการหาปมตรงนั้นเพื่อแก้มัน จากข้อมูลหรือ Data ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดเป้าหมายของการสื่อสารแบรนด์ค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
