Publicly Traded แคมเปญใช้ Search Data จาก Google Trends เป็นส่วนลดถุงยาง

Nattapon Muangtum
19/12/2020
Adult, Gen Z, Health, Interactive, Male, Millennials, Website

จากหนังสือเล่มที่สองของการตลาดวันละตอน Data-Driven Marketing การตลาดแบบฉลาดใช้ดาต้า(สนใจซื้อออนไลน์ได้ที่นี่) บอกถึงแนวทางการหยิบจับ Data รอบตัวมาใช้ทำการตลาด และหนึ่งใน Data ที่เข้าถึงได้ง่ายและใครๆ ก็เข้าถึงได้อย่าง Search data ที่สามารถเข้าถึงได้ผ่าน Google Trends นั้นก็เป็นอะไรที่ผมเอามาใช้งานบ่อยมาก ดังนั้นแคมเปญการตลาดการใช้ Data ที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ คือการให้ส่วนลดแบบ Data-Driven Discount ตามการเสิร์ชที่เกิดขึ้นบน Google กับแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า Publicly Traded ที่ลดราคาถุงยางให้ตามปริมาณการเสิร์ชหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ

แคมเปญนี้ทำโดยแบรนด์ LifeStyles ที่ขายอุปกรณ์เพิ่มความสุขทางเพศซึ่งรวมไปถึงถุงยาง ซึ่งสิ่งที่ทางแบรนด์นี้ต้องทำก็คือว่าถุงยางก็ไม่ได้ต่างกันมาก ไม่ได้มี Innovation ใดๆ ใหม่ ดังนั้นสิ่งที่แบรนด์นี้ต้องทำก็คือหาโอกาสใหม่ๆ ในการขาย รวมถึงการเข้าไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่อาจจะไม่ได้สนใจเรื่องสุขอนามัยทางเพศสัมพันธ์สักเท่าไหร่นัก และที่สำคัญของการสร้างแบรนด์คือ ทำอย่างไรให้คนจำได้ว่าถ้าจะนึกถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ดีให้นีกถึงแบรนด์ LifeStyles ให้ได้ก่อนแบรนด์อื่นนั่นเองครับ

ทางแบรนด์ LifeStyles เลยหยิบจับ Data ใกล้ตัวที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้แถมยังฟรีอย่าง Search data ที่เราสามารถใช้งานผ่าน Google Trends ได้ง่ายๆ ซึ่งสิ่งที่แคมเปญนี้ทำคือการเฝ้าดูว่าเมื่อไหร่ที่คนในประเทศเสิร์ชหาคำที่เกี่ยวข้องกับโรคทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ มากขึ้นกว่าปกติ ไม่ว่า HIV, ซิฟิลิส, หนองใน หรือโรคอื่นใดก็แล้วแต่ที่เกี่ยวข้อง ก็จะถูกแปรเปลี่ยนเอามาเป็นส่วนลดในการซื้อถุงยาง เพราะเค้าตั้งค่า Algorithm แนวคิดของแคมเปญนี้ว่า ยิ่งคนเสิร์ชหาคำที่เป็นชื่อโรคเหล่านี้มากเท่าไหร่ แสดงว่าคนในประเทศใช้ถุงยางน้อยลงเท่านั้น ดังนั้นต้องรีบลดราคาออกมาเพื่อเป็นการช่วยลดการแพร่ระบาดของคนในประเทศให้ได้มากที่สุด!

เพิ่มเติม หลักการคิดนี้ไม่ได้ซับซ้อน ก็อารมณ์คล้ายๆ หลายแบรนด์ที่ขายเครื่องฟอกอากาศในบ้านเราเฝ้าดูว่าเมื่อไหร่คนเสิร์ชหา PM 2.5 ก่อนหน้านี้ ก็จะรีบขนเครื่องฟอกอากาศออกมาโปรโมตกันมากมายนั่นเองครับ

แถมแคมเปญการตลาดนี้ยังไม่ได้เป็นแค่คอนเซปสนุกๆ แต่ยังทำกันแบบจริงจังด้วยการสร้างเว็บขึ้นมาอารมณ์คล้ายๆ เว็บดูดัชนีหุ้น แต่เป็นการดูดัชดีการเสิร์ชหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของคนออสเตเรีย ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตาม จะเป็นคุณหรือผม ก็สามารถเข้าไปดูดัชดีการเสิร์ชดังกล่าวได้แบบ Realtime ผ่านเว็บ https://publiclytraded.com.au/ ได้ตลอดเวลาครับ

ดังนั้นราคาถุงยางของแบรนด์ LifeStyles นี้จึงปรับเปลี่ยนไปตาม Data หรือที่เรียกว่าเป็น Dynamic price และถ้าใครกดสมัครสมาชิกลงทะเบียนไว้เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่คนจะเสิร์ชหา 6 โรคสำคัญนี้มากพอที่จะลดราคามาอยู่ในระดับที่อยากซื้อหรือซื้อไหว ก็สามารถใส่อีเมลหรือเบอร์โทรทิ้งไว้ จากนั้นระบบจะส่ง Email กลับไปหาหรือส่ง SMS ไปแจ้งเตือนว่าให้รีบซื้อได้แล้วครับ

และแน่นอนในยุค Digital & Data แบบนี้การเลือก Target ก็ต้องเป็นไปอย่างชาญฉลาด เพราะแคมเปญนี้ไม่ได้ซื้อแบบหว่านให้ทุกคนเห็น แต่พวกเขาเลือกที่จะโฟกัสไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สวมใส่ถุงยางนั่นก็คือเพศชายนั่นเอง และยังโฟกัสไปที่เพศชายอายุ 18-34 ในกลุ่มที่ยังคึกคะนองก็ว่าได้

เป็นอย่างไรครับกับแคมเปญการตลาดแบบฉลาดใช้ดาต้า ที่เอา Search data ที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ผ่าน Google Trends มาทำ Visualization เพิ่มให้คนดูเข้าใจง่าย เรียกได้ว่าเป็นการฉลาดใช้ Data แบบที่ Creativity มากๆ สมกับเป็นแคมเปญการตลาดในยุค Data-Driven Marketing จริงๆ ครับ

ถ้าสนใจอยากรู้ว่านักการตลาด หรือผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจ SME อย่างไรจะเอา Data จากไหนมาใช้ หรือจะเริ่มทำงานกับ Data อย่างไร ลองดูหนังสือ Data-Driven Marketing เป็นไอเดียเริ่มต้นในการทำงานกับ Data ดูนะครับ ไม่แน่ว่าหลังจากคุณอ่านแล้วเอาไปประยุกต์ใช้แล้ว อาจจะกลายเป็น Case study ให้คนอื่นต้องกลับมาศึกษาเหมือนของแคมเปญ Publicly Traded ที่อ่านอยู่วันนี้ก็ได้ครับ