Anitech EV-ONE เจาะตลาด EV เครื่องชาร์จพกพาเจ้าแรกที่ผลิตในไทย

Anitech EV-ONE เจาะตลาด EV เครื่องชาร์จพกพาเจ้าแรกที่ผลิตในไทย

สวัสดีนักการตลาดและผู้อ่านทุกคนค่า วันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสไปงานเปิดตัวสินค้า Anitech EV-ONE ของแอนิเทค (Anitech) แบรนด์ผู้นำตลาดด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ให้ความสำคัญและใส่ใจกับทุกสิ่งเล็กน้อยแต่ทำให้คุณภาพชีวิตของคนในสังคมและโลกนี้ดีขึ้น

เป็นงานเปิดตัว Portable EV Charger หรือ EV-ONE เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพกพาเจ้าแรกที่ผลิตในประเทศไทย และรองรับมาตรฐาน มอก. 

โดยได้รับเกียรติจาก คุณโธมัส พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป และยังมีเสวนาร่วมกับแขกรับเชิญ พี่หนุ่ย การตลาดวันละตอน ที่จะมาเผยกลยุทธ์และมุมมองแนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากัน

จากการตระหนักถึงปัญหา Global Warming จึงเกิดเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้า

Anitech EV ONE

ทุกคนรู้ไหมคะว่าในปีนี้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกขึ้นมาสูงสุดถึง 17.01 องศา หรือเรียกได้ว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์โลกแล้ว จากเดิมที่อยู่ประมาณ 15 องศาเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาภาวะโลกร้อน อาจไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ทุกคนสามารถช่วยกันและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปรับพฤติกรรมหรือทำอะไรที่สนับสนุนให้ปัญหานี้ดีขึ้นได้ค่ะ

และด้วยการที่หลายภาคส่วนมีการตระหนักถึงปัญหา Global Warming อย่างจริงจัง จึงมีหลายธุรกิจที่ดำเนินการและได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่าง ๆ ในเรื่องของ Green Technology ที่เข้ามามีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อสร้างความร่วมมือแก้ไขปัญหานี้ไปด้วยกัน 

ซึ่ง Green Technology กลุ่มหนึ่งที่จะมาพูดถึงกันในงานเปิดตัวนี้ ก็คือกลุ่มของ EV Car หรือรถยนต์ไฟฟ้านี่ล่ะค่ะ เพราะจากการตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน จึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้ตลาด EV Car เติบโตสูงขึ้นมาก

อีกทั้งคุณโธมัสยังได้เล่าถึงเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าว่า เทรนด์การใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่ว่าจะแบบแบตเตอรี่หรือไฮบริด มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก 

โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2566 จะมีปริมาณกว่า 15 ล้านคัน และในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นรวมกว่า 17.9 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียวค่ะ 

ขณะที่ประเทศไทยก็มีส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV และ PHEV มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียนกว่า 59.2% อีกด้วย

สู่โอกาสที่ดีในการแตกไลน์ Product เจาะตลาด EV เปิดตัว Anitech EV ONE

ดังนั้นจากการตระหนักถึงปัญหา Global Warming และการเกิดเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้น Anitech จึงมองเป็นโอกาสที่ดีและเป็นที่มาของการแตกไลน์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Anitech EV-ONE ในวันนี้ ซึ่งทีมได้ใช้เวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับวิศวกรรถยนต์ EV กว่า 1 ปี และด้วยงบประมาณกว่า 5 ล้านบาทเลยทีเดียวค่ะ

และถือได้ว่าเป็นแบรนด์แรกที่ผลิต Portable EV Charger ในประเทศไทย ตังตึงเจ้าแรก! นำ มอก.11 และ มอก.166 มาใช้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้แก่ผู้บริโภค 

และยังรับประกันสินค้า 1 ปี วงเงินรับประกันสูงสุดถึง 300,000 บาท พร้อมบริการหลังการขายที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอดอายุการใช้งานเลย~ 

เพื่อต้องการที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคในกลุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการใส่ใจเป็นพิเศษในเรื่องของสินค้าต้องมีคุณภาพสูงและบริการหลังการขายที่เข้าถึงได้

โดยภายในปี 2566 คาดว่าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Anitech EV-ONE จะสร้างยอดขายได้มากกว่า 1,000 ชิ้น และจะสูงขึ้นในปีต่อ ๆ ไปตามเทรนด์ เพราะทำการขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า

อีกทั้งยังรับผลิตให้กับแบรนด์รถยนต์ที่ตั้งฐานผลิตและประกอบในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะไปสู่ผู้นำด้านมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศไทยได้อย่างแน่นอน

จะเห็นได้เลยค่ะว่า Anitech EV-ONE ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากการคิดอะไรที่แปลกพิสดาร เพียงแต่เป็นเพราะ Anitech มองเห็นโอกาสในการแตกไลน์ Product จากเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป และใส่ใจในทุกรายละเอียด ทุ่มทุนและเวลา เพื่อให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าทุกตัวอย่างเต็มที่ รวมถึงบริการหลังการขาย เพราะไม่ใช่แค่โฟกัสให้ธุรกิจเติบโตได้ แต่อยากให้คุณภาพชีวิตของผู้คนและโลกนี้ดีขึ้นอีกด้วย

Anitech EV ONE ดียังไง ตึงแค่ไหน พร้อมเดินหน้าสู่อุตสาหกรรม Green Technology 

Anitech EV ONE

สำหรับ Anitech EV-ONE เป็นหัวปลั๊ก ในรูปแบบ Type2 ที่ปรับกำลังไฟฟ้าได้ 4 ระดับตั้งแต่ 16แอมป์, 13แอมป์, 10แอมป์ และ 8แอมป์ 

พร้อมกำลังขับ 3.5 กิโลวัตต์ หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 3 นิ้ว ไฟแสดงสถานะแบบ LED พร้อมปุ่มทัชสกรีน มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP65 ปริมาณกระแสไฟฟ้า Input/ Output : 250 VAC 50 Hz

ตัวขาปลั๊กรองรับการใช้งานสำหรับที่อยู่อาศัยในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมีการติดตั้งสายดินไว้หรือไม่ก็ตาม อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยโหมดการตั้งเวลาชาร์จ และสายไฟที่มีความยาวถึง 5 เมตร 

ในด้านระบบการป้องกันครอบคลุมทุกความปลอดภัย ได้แก่ 

  • ป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกิน
  • ป้องกันไฟฟ้าไหลเกินกำลัง
  • ป้องกันแรงดันไฟฟ้าตก
  • ระบบสายดินป้องกันไฟฟ้ารั่วไหล
  • ป้องกันอุณหภูมิสูงเกินไป
  • ป้องกันฟ้าผ่า 

สามารถใช้ได้กับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบแบตเตอรี่และระบบปลั๊กอินไฮบริดเลย และยังจะมีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Green Technology ตามมาอีกมากมายตัวอย่างเช่น Anitech EV-ONE V2L ที่คาดว่าจะเปิดตัวต้นปีหน้า รอติดตามกันได้เลย

นอกจากนี้แผนงานของแอนิเทคในปี 2023 มีสินค้าใหม่ ๆ น่าสนใจมากมาย ที่จะเปิดตัวใหม่กว่า 150 รายการ เมื่อรวมกับสินค้าทั้งหมดของปี 2023 จะทำให้แอนิเทคมีสินค้าที่วางจำหน่ายในตลาดมากกว่า 1,000 รายการ 

และในปี 2024 แอนิเทคมุ่งมั่นตั้งใจจะก้าวไปสู่แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่มีสินค้าหลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกมิติ โดยคาดว่าจะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 200 รายการ ซึ่งจะทำให้มีสินค้ารวมกันมากกว่า 1,200 รายการ 

เรียกได้ว่าพร้อมเดินหน้าสู่อุตสาหกรรม Green Technology ที่กำลังเป็นเทรนด์ของโลกยุคใหม่และมีผลกระทบต่อคนทั่วโลก

แล้ว EV กับก้าวต่อไปสำหรับอนาคตล่ะ พร้อมแค่ไหน?

Anitech EV ONE

ในส่วนของการเสวนาร่วมกับแขกรับเชิญ ในเรื่องของ EV กับก้าวต่อไปสำหรับอนาคต พี่หนุ่ย การตลาดวันละตอน ได้เล่าว่า ในปีนี้ไทยพร้อมขึ้นเยอะมากกับการรองรับเมกะเทรนด์การเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เพียงแต่อาจจะติดขัดเล็กน้อย ในเรื่องของการที่ส่วนใหญ่คนที่ซื้อ EV Car ทุกวันนี้ มักจะอยู่บ้านเป็นหลัก แต่คนที่อยู่คอนโดอาจจะยังไม่มีความพร้อม ไม่สะดวกสบายในเรื่องของการชาร์จ ดังนั้นถ้ามี Solution ที่เข้ามาตอบโจทย์แก้ไขปัญหานี้ได้ ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไปได้ไกลกว่านี้อีกมาก

และยังแชร์ถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เริ่มมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ส่วนตัวพี่หนุ่ยขับไฮบริดมาก่อน แต่ปัจจัยที่ทำให้เปลี่ยนมาเป็น EV Car เพราะ เร็ว แรง อัตราเร่งดี เงียบ คอนโทรลเงินตัวเองได้ ประหยัดค่าน้ำมัน และไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิก แม้จะขับมาประมาณ 50,000 กิโล ก็แทบไม่ต้องเข้าศูนย์เลย ไม่รู้จะเข้าไปทำอะไร เพราะไม่มีอะไรต้องดูแลเยอะ ค่อยเข้าศูนย์ในอีกประมาณ 4 ปีข้างหน้าทีเดียว

อีกทั้งยังเป็นจังหวะที่ดีมากสำหรับผู้ที่ต้องการจะเข้ามาเล่นในตลาด EV เพราะปัจจุบันแม้กระทั่งแบรนด์ใหญ่ ๆ ราคาถูกลงมาก เหมือนตลาดสมาร์ทโฟน ที่จับต้องได้ง่ายขึ้น และทุกวันนี้ผู้คนเริ่ม Concern เรื่องราคาน้ำมันกันมากขึ้น อยากประหยัดค่าน้ำมัน การหันมาใช้ EV Car จึงเป็นโอกาสที่ดี และในปัจจุบันนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า แบรนด์ EV จะเยอะเหมือนแบรนด์มือถือเลยทีเดียว

และยังแนะนำการเตรียมตัวสำหรับคนที่อยากจะลองเปลี่ยนมาใช้งาน EV Car ดูบ้างว่า อย่างแรกคือเตรียมเงิน5555555 และการปรับ Perception ว่ามันง่าย สะดวก และทำให้ชีวิตดีกว่าเดิม

แนะนำให้ไปลองขับ ลองเล่นดูก่อน จะได้รู้และเข้าใจว่าแบบไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา (และอย่าลืมมี Anitech EV-ONE ติดรถไว้สักตัวนึง รับรองว่าตอบโจทย์ครบ)

Anitech แบรนด์ที่ปั้นธุรกิจให้เติบโต ไปพร้อมกับการทำให้ชีวิตผู้คนและโลกนี้ดีขึ้นด้วย

และทั้งหมดนี้ก็คือ Anitech แบรนด์ที่รู้จักปรับเปลี่ยนและมองหาโอกาสตามเทรนด์และไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ ที่สำคัญคือมีความมุ่งมั่นอยากจะทำในสิ่งที่ทำให้คุณภาพชีวิตของคนและโลกนี้ดีขึ้น

อย่างการใช้ชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในคอนโด แต่อยากใช้ EV Car แต่ไม่มีที่ชาร์จที่สะดวก ต้องไปแย่งชิงสถานีชาร์จกัน หากมี Solution ดี ๆ อย่าง Portable ไม่ต้องนั่งรอรถชาร์จ เสียบทิ้งไว้แล้วไปนอนก็ยังได้ ไม่เสียเวลา ยกระดับ Customer Experience ทำให้การใช้ชีวิตดี ง่าย และสะดวกขึ้นมาก

อีกเรื่องที่ Anitech ให้ความสำคัญมากมาโดยตลอด คือคุณภาพ มาตรฐานอุตสาหกรรม การรับประกัน ที่เปรียบเสมือนรากแก้วของ Anitech เลย

และหากถามว่าทุกวันนี้ Anitech อยู่จุดไหนของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า คงเป็นแบรนด์ที่อยู่รอบ ๆ ตัวของทุกคน ที่คอยทำสิ่งเล็ก ๆน้อย ๆ รอบตัวคนให้เปนเรื่องสำคัญ ที่ถึงแม้จะเป็นจุดที่เล็กน้อยแต่กลับเป็น Touch Point ที่สำคัญในชีวิตเสมอ ในส่วนของวงการรถยนต์ Anitech ก็จะพัฒนาเทคโนโลยีและกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้น และไปให้ไกลระดับโลกได้อย่างแน่นอน

สุดท้ายสำหรับตัว Anitech EV-ONE นี้ จำหน่ายในราคา 12,990 บาท แต่ช่วงพรีออเดอร์นี้จัดโปรโมชั่นพิเศษ ในราคาเพียง 7,990 บาท และสำหรับ 50 ท่านแรก รับสิทธิ์พิมพ์ชื่อลงบนเครื่องชาร์จฟรีอีกด้วย 

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์สามารถสั่งจองได้ทาง LineOfficial : @Anitech หรือ Website

และทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram TwitterYoutube และ Blockdit ได้เลยค่า

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *