ถอดบทเรียนความสำเร็จที่เริ่มต้นจากการแก้ปัญหา​ของ​ MK​​​ สุกี้

ถอดบทเรียนความสำเร็จที่เริ่มต้นจากการแก้ปัญหา​ของ​ MK​​​ สุกี้

“กินอะไร​ กินอะไร กินอะไรไปกิน​ MK” 

แม้ทุกวันนี้จะมีแบรนด์​สุกี้แบรนด์อื่นเกิดขึ้นมากมาย​ แต่แบรนด์​ที่ผูกขาดในความรู้สึกของคนไทยก็คงหนีไม่พ้น​ “MK สุกี้” ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ​ ในแทบทุกห้างสรรพสินค้า​เลยทีเดียว

แต่รู้หรือไม่คะว่า​ กว่าที่​ MK​ จะก้าวมาสู่จุดนี้นั้น​ MK​ กลับมีปัญหาให้แก้กันตั้งแต่ก้าวแรกเลยทีเดียว

เรามาลองถอดบทเรียนความสำเร็จ​ของ​ MK​​ กันหน่อยดีกว่าค่ะว่า​เขามีวิธีคิดและวิธี​แก้ปัญหาอย่างไร​ ถึงได้กลายเป็น​ Top​ of​ Mind​ ครองใจผู้บริโภค​จนถึง​ทุกวันนี้

ปัญหาแรก​ “เตาไฟฟ้า” 

แรกเริ่มเดิมทีนั้น​ MK​ เปิดเป็นร้านอาหารไทยเล็กๆ​ ในย่านสยาม​สแควร์​ ก่อนที่จะได้รับการชักชวนให้ไปเปิดร้าน​ MK​ สุกี้สาขา​แรก​ในเซ็นทรัล​ ลาดพร้าว​ แต่มีข้อแม้ว่า​ทางร้านจะต้องเปลี่ยนเตาทั้งหมดจากเตาแก๊ส​เป็นเตาไฟฟ้า​ เนื่องจาก​เหตุผล​ด้านความปลอดภัย​

แล้วจะทำยังไงกัน​ดีล่ะทีนี้? 

เมื่อหม้อเตาแก๊สก็ถือว่าอันตราย จึงกลายเป็นปัญหาให้ต้องมาคิดต่อว่าจะปรับเปลี่ยนวิธีการอย่างไร แม้จะมีการปรับและพัฒนา “หม้อสุกี้เตาไฟฟ้า”​ อยู่หลายครั้งจนได้เวอร์ชั่น​ที่ทำงานได้ดี​ แต่ปัญหาไม่ได้จบแค่นั้น​ เพราะถึงจะแก้ไขเรื่อง​ความปลอดภัย​ได้แล้ว​ แต่ก็ยังคงมีปัญหาที่ความเร็วอยู่​ดี

เนื่องจากเตาไฟฟ้านั้นร้อนช้ากว่าเตาแก๊สจึงทำให้ซุปเดือดช้ากว่า​ โดยถ้าใช้เตาแก๊สจะใช้เวลาประมาณ​ 6 นาที​ แต่ถ้าใช้เตาไฟฟ้านั้นต้องใช้เวลาถึง​ 11 นาทีเลยทีเดียว​ ซึ่งทาง​ MK​ มองว่านานเกินไป​

การแก้ปัญหา​จึงเกิดขึ้นอีกครั้ง​ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถ​เร่งให้ซุปเดือดเร็วกว่านี้ได้​ จนกระทั่งทาง​ MK​ ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าเราไม่จำเป็นต้องใช้ซุปอุณหภูมิ​ห้องก็ได้นี่น่า​ ถ้าเราอุ่นซุปไว้ก่อน​ แล้วค่อยปล่อยให้มาเดือดต่อในเตาไฟฟ้า​ ก็น่าจะ​ช่วยร่นระยะเวลา​ลงได้​ 

ซึ่งหลังจากการทดลองพบว่าการใช้ซุปอุ่นๆ​ แทนซุปอุณหภูมิ​ห้อง​นั้น​ สามาร​ถร่นระยะเวลา​การ​ได้ถึง​ 4 นาที​ ช่วงเวลาเดือดก็ใกล้เคียงกับการใช้เตาแก๊ส​ แก้ปัญหา​เรื่องความปลอดภั​ย​ และความรวดเร็ว​ได้ในเวลาเดียวกัน​ บอกเลยค่ะว่า… จีเนียส! 

www.facebook.com/mkrestaurants

ปัญหาต่อมา​ “ระหว่างรออาหาร” 

แม้เมนู​ชูโรงของ​ MK​ จะเป็นสุกี้​ แต่ในขณะเดียวกัน​ MK​ ก็พยายามที่จะเพิ่มวาไรตี้ของอาหารให้มากขึ้น​ เพื่อที่ระหว่างรอหม้อร้อน​ ลูกค้าจะได้มีอาหารให้ทานได้​ ไม่ขาดตอน​ ไม่ต้อง​รอจนเกินไป​ ลองคิดจากใจคนหิวดูว่าถ้าหิวแล้ว​ 1 นาที​ ก็เดินช้าเหมือน​ 10​ นาที

เพราะฉะนั้น​ MK​ ก็เลยพยายามนำเสนอเมนู​เสริมมาให้ลูกค้าได้เลือกรับประทาน​ระหว่างรอสุกี้ในหม้อเดือด​ นั่นจึงเป็นที่มาของไลน์อาหารอย่างเมนูติ่มซำ บะหมี่​ เป็ดย่าง​ ที่ทุกวันนี้หลายมาเป็นเมนูฮอต​ฮิตขายดีไม่แพ้เมนูหลักอย่างสุกี้เลยทีเดียว

www.facebook.com/mkrestaurants

ปัญหา​เรื่อง “การจัดการพื้นที่” 

คิดว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับภาชนะที่เป็นเหมือนซิกเนเจอร์​ที่หลายคนเรียกกันว่า “จานคอนโด” ซึ่งจานนี้ไม่ได้ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อความสร้างสรรค์​หรือแปลกใหม่เพียงเท่านั้น​ แต่จุดประสงค์​หลักในการสร้างภาชนะในรูปทรงนี้ขึ้นมาก็เพื่อแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่บนโต๊ะ​

เนื่องจากพื้นที่โต๊ะค่อนข้างมีจำกัด​ และเกินครึ่งของโต๊ะก็เป็นพื้นที่สำหรับวางเตาไฟฟ้าและหม้อสุกี้​ จึงทำให้ถ้าสั่งเมนู​ต่างๆ​ มาเยอะ​ ก็จะวางไม่พอ​ แต่ถ้าสั่งมาทีละน้อยก็จะลงหม้อได้ช้า​ สุกได้ไม่ทันใจ​ 

ทาง​ MK​ ก็เลยแก้ไขปัญหาด้วยการ ถ้าขยายแนวกว้างไม่ได้​ ก็ต่อให้สูง​ขึ้น​ไปเลยสิคะ​ วิธีนี้นอกจากจะสามารถ​แก้ไขปัญหา​เรื่อง​พื้นที่บนโต๊ะไม่พอวางอาหารได้แล้ว​ ยังทำให้ลูกค้าสามารถ​สั่งอาหารได้ครั้งละจำนวนมากๆ​ แบบไม่ขาดตอน​อีกด้วย​

www.facebook.com/mkrestaurants

ปัญหาสำคัญ​ “ความเร็วและการจัดการออเดอร์” 

ในช่วงเริ่มต้นนั้น​ MK​ ก็เหมือนกับร้านอาหารอื่นๆ​ คือเป็นการจดออเดอร์​ด้วยกระดาษ​ แต่ปัญหาการจดออเดอร์​ด้วยกระดาษนั้น​ ทำให้การจัดเรียงออ​เดอร์​ในครัวทำได้ช้า​ เนื่องจากบางครั้งลูกค้าก็ไม่ได้สั่งออเดอร์​แบบเรียงลำดับตามเมนู​ ทาง​ MK​ จึงได้แก้ปัญหา​ด้วย​การ​เปลี่ยนมาเป็นเมนูอาหารให้ลูกค้าติ๊กเอง เพื่อให้ง่ายและเร็วต่อการจัดเสิร์ฟ​ 

ถึงแม้จะแก้ปัญหา​ได้แล้ว​ แต่ทาง​ MK​ ก็ยังไม่หยุดพัฒนา​ โดยในปี 2546 ก็ได้นำเครื่อง PDA มาใช้ในการรับออเดอร์ลูกค้า เพื่อทำให้บริการเร็วยิ่งขึ้น และปี 2552 ก็ได้มีการใช้ iPad มาไว้​ให้ลูกค้ากดสั่งอาหารที่โต๊ะ​ได้เอง ซึ่งการนำเทคโนโลยี​ที่ทันสมัย​มาใช้นั้น​ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหา​ในเรื่องความเร็วและการจัดการ​ออเดอร์​แล้ว​ ยังเป็นการช่วยลดงานของพนักงานได้ด้วย​ เรียกว่าเป็นการแก้ปัญหา​แบบยิงปืน​นัดเดียว​ ได้นกหลายตัวเลยทีเดียว

www.facebook.com/mkrestaurants

อย่างที่เรารู้กันดีว่าการทำธุรกิจ​กับปัญหานั้นเป็นของคู่กัน​ เจ้าของธุร​กิจ​หลายคนอาจมองว่าปัญหาเป็นอุปสรรค​ที่ทำให้ธุรกิจ​หงุดชะงัก​ หรือเดินต่อไปไม่ได้​ ซึ่งการคิดอย่างนั้นยิ่งเป็นการบั่นทอนกำลังใจในการผลักธุรกิจ​ให้เดินหน้าต่อ

แต่​ MK​ กลับไม่คิดอย่างนั้น​ แม้จะเจออุปสรรค​ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำร้าน​ แต่​ MK​ กลับมองว่านั่นเป็นโอกาส​ และเมื่อไหร่ที่เราแก้ปัญหาได้ล่ะก็​ เราก็จะเป็นผู้ชนะ

ส่วนใครที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การทำตลาดในรูปแบบอื่นๆ แนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ 

ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะค​ะ

Credit​: หนังสือ​ ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ Series​ เล่มที่​ 12 -​ ไม่ตั้งใจแต่ทำไมจึงสุข

Bambinun*

Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน ที่หลงรักการเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือ พอๆ กับการกินของอร่อย และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเป็นทาสแมว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *