Halloween Marketing Idea แชร์ไอเดียทำการตลาดช่วงฮัลโลวีน
อีกไม่นานก็ใกล้จะถึงวันฮาโลวีนแล้ว มีใครที่ยังไม่มี Ocassion Campaign ที่จะเอาไปเล่นกับลูกค้าของตัวเองอยู่บ้างมั้ยครับ วันนี้เบสเอา Halloween Marketing Idea มาแชร์ให้ทุกคนได้อ่าน เผื่อว่าจะช่วยให้ทุกคนได้แรงบันดาลใจไปต่อยอดแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจในช่วงวันฮาโลวันนี้กันครับ
Halloween Marketing Idea
ในเบื้องต้นเบสได้รวบรวมและจัดกลุ่มแนวทางที่น่าสนใจเอาไว้ ทั้งหมด 3 แนวทางด้วยกัน ดังนี้เลยครับ
1.Seasonal Product Marketing
หรือ การทำสินค้าเฉพาะช่วงเวลาเทศกาล เป็นกิมมิคสนุก ๆ ที่ไม่ได้เพียงแค่ทำให้แบรนด์ของเราดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แบรนด์ของเรามีโอกาสที่จะถูกพูดถึงหรือได้ Social Voice เพิ่มมากยิ่งขึ้นในช่วงเวลานั้นได้ด้วย คล้ายกับการออกสินค้า Limited Edition เลยครับ
เพียงแต่การออก Seasonal Product ในช่วงเทศกาล มีข้อดีตรงที่ช่วงเทศกาลนั้นจะมี Key theme ที่เป็นอันรู้กันของสังคม ว่าจะมีอะไรพิเศษเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้บ้าง เลยจะได้รับพื้นที่ในการถูกให้ความสนใจมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว
ทำให้การทำการตลาดในการโปรโมทเพื่อให้เกิดการพูดถึงแบรนด์และสินค้าตัวนี้ อาจไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แรงและงบประมาณที่มากเทียบเท่ากับช่วงที่ไม่มีเทศกาลอะไรเลยและแบรนด์ต้องพยายามสร้างกระแสความสนใจให้ตัวเองให้ได้
ถ้าจะให้เปรียบก็เหมือนเวลาเราทำ E-Commerce บน Online เลยครับ
ที่ระหว่าง วัน Double digit ที่ลูกค้าจะรู้กันอยู่แล้วว่าจะเป็นวันที่มีโปรโมชั่นพิเศษมากมาย ทำให้คนมีความสนใจในการเข้าแอพ E-Commerce Market place มากเป็นพิเศษ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก สิ่งที่เราต้องทำอาจเพียงแค่เตรียมโปรโมชั่นดี ๆ การบริการที่รวดเร็ว ไว้เป็นหลักก็อาจเพียงพอแล้ว
ในทางกลับกันถ้าเป็น Brand day ที่เป็นแบรนด์ของเราคนเดียว โดยวันที่ปล่อยก็ไม่มีนัยยะสำคัญอะไร ถ้าเราไม่ทำการตลาดมากเป็นพิเศษลูกค้าก็อาจจะไม่มีทางรู้เลยว่าวันนี้เป็นวันปล่อยโปรโมชั่นพิเศษของแบรนด์เรา
อย่างภาพด้านล่างเป็น Seasonal Product ของแบรนด์แยมทาขนมปังที่นิยมในหมู่คนทานมังสวิรัตอย่าง Marmite ที่ปล่อย 2 รสชาติพิเศษ รสแรกสำหรับ Trick คนที่คุณไม่ชอบ หรือ รสที่สอง Treat สำหรับคนที่คุณรัก ซึ่งได้รับกระแสและการถูกพูดถึงบน Social Media ในอเมริกาอย่างมากเลยครับ
อย่างไรก็ตามการออกสินค้านี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นการออก Packaging ใหม่ หรือ การลงทุนอะไรที่มากมายเกินความจำเป็นก็ได้นะครับ เราอาจจะทำเพียงแค่การติด Sticker เพิ่มเข้าไป หรือ ทำของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เป็นที่ประทับใจกับลูกค้า ก็อาจสร้างสีสันให้แบรนด์ของคุณในช่วงเวลานี้ได้แล้วครับ
ยกตัวอย่างแบรนด์เบียร์ชื่อดังอย่าง Guinness ที่ทำแผ่นรองแก้วรูปผี ปีศาจวางให้คนที่สั่งเบียร์ของพวกเขาตามร้านผับต่าง ๆ ก็ทำให้เป็นกระแสได้เหมือนกันโดยที่แบรนด์ไม่ต้องไปออก Seasonal Product ใหม่
2.Activity Contents
สำหรับการเล่นเกมหรือทำกิจกรรมบางอย่างเพื่อการทำการตลาดกับลูกค้า จริง ๆ แล้ว สำหรับบางแบรนด์ก็อาจเป็นเรื่องปกติที่ถ้าเราไม่ได้มีแคมเปญอะไรเป็นพิเศษเราก็เล่นกันอยู่แล้วเพื่อรักษา Social Voice ของแบรนด์ให้มีอยู่เรื่อย ๆ ใช่มั้ยครับ
แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าการเล่นเกมกับลูกค้าของเราจะเป็นการตลาดที่มีประสิทธิภาพก็ได้ เพราะมันค่อนข้างขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นของรางวัล จุดน่าดึงดูดใจต่าง ๆ แถมเราก็ยังต้องใช้งบประมาณการตลาดประมาณหนึ่งเพื่อโปรโมทเกมของเราอีกด้วย
ซึ่งในจังหวะที่มีกระแสอะไรเกิดขึ้นอย่างฮาโลวีน สามารถช่วยให้การเล่นเกมของเราน่าสนุกและน่าสนใจมากขึ้นด้วยได้ครับ
ถ้าเราลองคิดในเชิงบริบทให้ดี ๆ การที่เกมของเรามี Story telling เรื่องผี ๆ หรืออะไรที่เป็นไสยศาสตร์ สำหรับประเทศเรา ก็มีโอกาสที่จะได้รับ Engagement หรือความสนใจจากลูกค้าได้มากกว่าด้วย
เพราะยังไง ผี กับ คนไทย นี่ก็เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันและเป็นที่นิยมมานาน เห็นได้จากกระแสการฟัง Ghost Radio ที่เป็นที่นิยมมาก ๆ ในปัจจุบันก็เป็นหลักฐานชั้นดีเลย
โดยเราสามารถเอาเรื่องราวมาประยุกต์กับไอเดียเกมทั่วไปได้นะครับ ยกตัวอย่างภาพด้านล่าง
เบสมองว่า เราเอาไปปรับใช้ใน Facebook ของร้านโดยเป็นการโพสต์เกมหนึ่งโพสเป็น Album และวาง Url ของไพ่แต่ละใบให้ลูกค้าของเราลองเปิดไพ่เล่น ๆ ดูก็ได้ครับ
ว่าผลลัพธ์ของพวกเขาคือจะได้อะไร ผ่าน Story telling อะไรก็ได้แล้วแต่เราที่เป็นเชิงผี หรือ ไสยศาสตร์ที่เราแต่งขึ้นเพื่อสร้างความรู้สึกร่วมเข้าไปในกิจกรรมของเราก็ได้ครับ อาจเป็นการทำนายดวงชะตาวันผีออก, ผีที่คุณจะโดนหลอก, ผีที่คุณควรแต่งตัวในวันฮาโลวันนี้ ฯลฯ
หรือเราจะเอาเรื่องราวผี ๆ มาจับคู่แบบภาพด้านล่างให้ลูกค้ามาตอบคำถามเพื่อชิงรางวัลจากแบรนด์ ไม่ก็เป็นการจับคู่จากวัน เดือน ปี เกิด เพื่อสร้างเรื่องราวหลอน ๆ หรือ ชื่อผีของตัวเองก็น่าสนุกดีเหมือนกันครับ
3.User-Generated Content
เบสมองว่า ในช่วงเทศกาลนี้จะยิ่งเป็นโอกาสอันดีที่เราจะสามารถหาเรื่องให้ลูกค้าพูดถึงแบรนด์ของเราด้วยการสร้างคอนเทนต์แบบ UGC ขึ้นได้ง่ายมากยิ่งขึ้น จากการที่โดยปกติแล้วมนุษย์มีพฤติกรรมที่เรียกว่า Bandwagon Effect ที่มีพฤติกรรมทำตามกันไปตามกระแสอยู่แล้ว
ดังนั้นในช่วงเทศกาลที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องการสร้างหรือเข้าร่วมความสนุกที่เกิดขึ้น End User ส่วนใหญ่ต่างก็มักจะโพสต์คอนเทนต์ที่ตัวเองเข้าร่วมเทศกาลเหล่านั้นลงบน Social Media ส่วนตัวของตัวเองไปตาม ๆ กัน และนี่คือโอกาสของเราครับ
ยกตัวอย่างแคมเปญ #zombiefrappuccino ของ Strarbuck ที่ช่วงเวลานั้นแบรนด์ได้ออกรสชาติพิเศษเฉพาะช่วงฮัลโลวีนอย่าง Zombie Frappucino ที่เป็นเครื่องดื่มหน้าตาประหลาดที่มีสีเขียวและสีม่วงอยู่ภายในแก้ว
หลังจากที่แบรนด์ปล่อยตัวสินค้าใหม่นี้ไป และเชิญชวนให้ทุกคนได้มาลอง พร้อมกับแนะนำให้โพสต์ติด #hashtag และชวนคนที่คุณอยากให้ลองได้มาชิมรสชาตินี้ไปด้วยกันว่าเป็นยังไง
ซึ่งผลลัพธ์ของแคมเปญนี้ทำให้เครื่องดื่มตัวนี้เป็นกระแสอย่างมาก และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้าง UGC ในรูปแบบของตัวเองมากถึง 30,000 คอนเทนต์เลยทีเดียวครับ
หรือจะเป็นแคมเปญ #DayToFright ของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง ASOS ที่ร่วมกับ TikTok ในการสร้าง Effect หลอน ๆ ให้ใบหน้าเราเหมือนผี ปีศาจ สำหรับการถ่ายวิดีโอเพื่อสร้างวิดีโอคอนเทนต์ในประเทศอังกฤษ ที่ดูน่ากลัวมาก ๆ จนใครก็อยากลองเล่นดูบ้างว่าถ้าเป็นหน้าตัวเองแล้วจะเป็นยังไง
ซึ่งผลลัพธ์ของแคมเปญนี้ก็มีชาว TikToker มาเข้าร่วมเป็นจำนวนมากและสร้างของวิวให้กับแบรนด์ภายในแคมเปญได้สูงถึง 2 พันล้าน!
บทส่งท้าย
เป็นยังไงบ้างครับกับ Halloween Marketing Idea ที่เบสเอามาแชร์ในวันนี้ จริง ๆ แล้วนอกเหนือจากไอเดียการทำการตลาดช่วงฮาโลวีน เบสพยายามสอดแทรกให้ทุกคนเห็นข้อดีของการทำ Ocassion Campaign หรือการทำแคมเปญไว้ด้วยครับ
ซึ่งทุกคนน่าจะพอรู้แล้วว่า การทำการตลาดในช่วงที่อะไรบางอย่างเป็นกระแสอยู่จะช่วยเสริมให้การทำการตลาดของเรามีประสิทธิภาพได้ยังไงบ้าง แล้วการทำการตลาดแนวไหนดีที่จะจับกระแสนั้นแล้วแปลงให้มาเหมาะสมกับการทำการตลาดของแบรนด์เราดี
โดยหลักแล้ว เบสมองว่าขึ้นอยู่กับมองหาความคิดสร้างสรรค์ที่เราเลือกหยิบบริบทมาใช้ในการสื่อสารเลยครับ ว่าจะทำให้เราถูกพูดถึงและน่าสนใจขนาดไหน หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น Sense of Context ที่เราอาจจะต้องเสพสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัว และพยายามศึกษาพฤติกรรมหรือบริบทที่เกิดขึ้นรอบตัวแบรด์และสินค้าของเรา รวมไปถึงผู้บริโภค
การเข้าใจสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเชื่อมโยง กระแสที่เกิดขึ้น สินค้า แบรนด์ และลูกค้าของเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้นครับ
เบสอาจจะขอทิ้งท้ายไว้ว่า เรื่องที่แต่ละแบรนด์ควรจะหยิบมาเล่าในรูปแบบที่ไม่ฉีกจากแบรนด์จนทำให้ผู้บริโภคไม่รู้ว่าสินค้าและบริการของเราจริง ๆ มากเกินไปนะครับ เพราะมีโอกาสที่จะทำให้ Brand Communication ที่เราพยายามทำระหว่างมีแบรนด์มาคลาดเคลื่อนได้
หวังว่าไอเดียเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนไปคิดต่อยอดในการทำแคมเปญในช่วงฮัลโลวีนกับลูกค้าของทุกคนได้อย่างสนุก มีสีสันและมี Brand Engagement ที่ดีนะครับ
สามารถอ่านบทความอื่น ๆ ของการตลาดวันละตอนได้ที่ คลิก
Ref.
