ไอเดียเก็บ Data ชวนคนลงชื่อด้วย Pain Point ง่ายๆ จาก Heinz

ไอเดียเก็บ Data ชวนคนลงชื่อด้วย Pain Point ง่ายๆ จาก Heinz

ทุกวันนี้เรื่องของ First-party data เป็นอะไรที่จำเป็นมากกว่าปีไหนๆ เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะใช้ในการเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและต่อยอดพัฒนาสินค้าและบริการแล้ว ยังจำเป็นสำหรับการยิง Adsในวันที่กระแสเรื่องความปลอดภัยหรือ Privacy-first เป็นเรื่องที่แบรนด์ต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษด้วย วันนี้เจอ Case Study น่ารักๆ เป็น ไอเดียเก็บ Data ของแบรนด์ Heinz หรือซอสไฮนซ์ เพลินเลยหยิบมาเขียนและแชร์ให้ทุกคนฟังกันค่ะ

สิ่งที่แบรนด์ไฮนซ์ทำก็คือ เค้าหยิบจับปัญหาเล็กๆ ที่โดนใจผู้บริโภคมากๆ ขึ้นมาเป็นประเด็นในการให้คนเข้ามาลงชื่อ กรอกข้อมูลเอาเองแบบที่ Consumer เหล่านั้นยินยอมสุดๆ โดยปัญหาเล็กๆ นั่นก็คือเรื่องของการที่แบรนด์ขายขนมปัง Hot dog และแบรนด์ขายไส้กรอกสำหรับทำ Hot dog นั่นมักบรรจุจำนวนสินค้าในจำนวนที่ไม่เท่ากัน ทำให้ทุกครั้งที่ซื้อวัตถุดิบมาทำเมนู Hot Dog ก็เลยมักจะเหลือวัตถุดิบอย่างใดอย่างนึงเสมอๆ นั่นเองค่ะ

ต้องบอกว่าในประเทศอเมริกาและแคนนาดานั้น ช่วงเดือน 7 แบบนี้อากาศที่นู้นก็จะเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ผนวกกับที่นู้นหลายคนก็เริ่มรับ Vaccine ต้านโควิดกันแล้ว ทำให้ช่วงนี้เป็นเวลาของการ Hangout สุดๆ เลย และหนึ่งในเมนูยอดฮิตช่วงหน้าร้อนของที่นู้นก็คือ Hot Dog กับ Barbecues ทำให้วัตถุดิบอย่างขนมปังบัน ไส้กรอกฮอตดอก และซอสมะเขือเทศอื่นๆ มักถูกจับจ่ายซื้อไปทำเมนูอร่อยๆ กัน

อย่างไรก็ตาม เวลาที่คนไปซื้อวัตถุดิบอย่างขนมปังบันกับไส้กรอกฮอตดอกมานั้น พวกเค้าก็มักจะพบว่า Package ของขนมปังบรรจุจำนวนขนมปังอยู่ที่ 8 ก้อน ในขณะที่แบรนด์ไส้กรอกฮอตดอก Package บรรจุอยู่ที่ 10 ชิ้น ทำให้ทุกครั้งที่ทำเมนูนี้ เป็นอันว่าต้องเหลือไส้กรอก 2 ชิ้นอยู่ร่ำไป จนเกิดเป็น Memes ล้อเลียนหรือเป็น Tweets ขำๆ บน Twitter เป็นจำนวนมากว่า ‘ช่วยบอกตรูที ว่าตรูจะต้องเอาไส้กรอกที่เหลือนี้ไปทำอะไรดี!?’

ด้วยมี Insight การ Talk About หรือการพูดถึงแบบนี้อยู่ แบรนด์ไฮนซ์เลยไม่รอช้า จับ Pain point เรื่องขนมปังกับไส้กรอกนี้ขึ้นมา แล้วจัด Campaign ที่กลายเป็น ไอเดียเก็บ Data สนุกๆ ไปเลย เพราะสิ่งที่ไฮนซ์ทำก็คือให้คนร่วมลงชื่อประท้วงขอให้แบรนด์ขนมปังบันกับแบรนด์ผลิตไส้กรอกช่วยคุยกัน แล้วขายสินค้าบรรจุห่อในปริมาณจำนวนชิ้นที่เท่ากันได้หรือไม่

โดยการลงนามในครั้งนี้แบรนด์ไฮนซ์ก็ได้ใช้ Change.org ในการทำการประท้วงให้ดูเหมือนเรื่องร้องเรียนจริงจังที่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคม และด้วย Nature ของเว็บไซต์อย่าง Change.org นั่นก็คือ จำนวนคนยิ่งลงชื่อเยอะเท่าไรยิ่งดี ทำให้คนยิ่งกระตุ้นในการลงนามอยากให้เรื่อง Humor สนุกๆ แบบนี้เป็นไปได้จริงดูว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงจริงหรือไม่ ทั้งนี้เอาเป็นว่าแบรนด์ได้เก็บ First-party data ไปพอสมควรเลยละค่ะ 

และที่เหนือกว่านั้นก็คือการแปะลิ้งค์ลงชื่อของ Change.org ไว้ใน Microsite ของตัวแบรนด์ไฮนซ์เองก่อนคลิกเข้าไปที่เว็บลงชื่อด้วยแล้ว ตรงนี้ก็เหมือนเป็นการเก็บเดต้าเบื้องต้นได้เหมือนกัน เพราะคนที่มีความสนใจในการซื้อขนมปังกับไส้กรอกฮอตดอกนั้น ล้วนแต่เป็น Target Audience ของแบรนด์ขายซอสอย่างไฮนซ์ทั้งสิ้นค่ะ

เป็นยังไงคะกับ ไอเดียเก็บ Data ของแบรนด์ไฮนซ์ที่เรียกว่าทำได้เร็วและสนุกมาก ซึ่งต้องบอกว่าช่วงนี้หลายแบรนด์โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่นั้นหันมาให้ความสนใจกับการเก็บข้อมูลลูกค้าอย่างชื่อ เบอร์โทร และอีเมลมาก เนื่องจากประเด็น Privacy และกฎหมายคุ้มครองเรื่องเดต้าต่างๆ ที่ออกมา ทำให้แบรนด์ต้องรีบออกมาจัดแคมเปญเก็บเดต้าแบบที่ลูกค้ายินยอมให้เองแบบจริงใจด้วยตัวเองมากขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังมีประเด็นที่ iOS ใหม่ออกกฎเรื่องความเป็นส่วนตัวใหม่ที่ทำให้คนใช้ Apple กดไม่อนุญาตให้แบรนด์และแอปทั้งหลาย Track ข้อมูลได้เพิ่มมากขึ้น แล้วไหนจะ Google ที่ประกาศจะยกเลิกการเก็บข้อมูล Third-party Cookies ด้วยแล้ว ทำให้นักการตลาดทั่วโลกเร่งเก็บ Data ของตัวเองกันยกใหญ่ค่ะ

ซึ่งสำหรับนักการตลาดท่านใดที่อ่านตรงนี้แล้วอยากรู้ว่า ถ้าไม่มีการใช้งาน Cookies แล้วจะยิง Ads แบบไหน ผ่าน Tools ตัวไหนได้บ้าง แบรนด์รถยนต์หรูอย่าง Audi เค้าก็ได้ทำ Pilot Test ในการยิง Ads ผ่านชุดข้อมูลต่างๆ เอาไว้แล้วค่ะ โดยการทดลองนี้ของแบรนด์ Audi ก็จัดเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับหลายๆ แบรนด์ในต่างประเทศด้วยค่ะ

ไอเดียเก็บ Data ผ่าน Change.org

อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีของแบรนด์ Heinz ที่ออกมาจัดแคมเปญประท้วงนี้นั้น ปัจจุบันก็มีคนลงนามไปแล้วกว่า 28,455 คนด้วยกัน ( as of 16 July 2021 / 22:41 PM) และด้วยเนื้อหาสนุกๆ แบบนี้รวมไปถึงเนื้อหาและแคมเปญอื่นๆ ที่แบรนด์ทำมาตลอดปี 2021 นั้น ไม่ว่าจะแคมเปญแข่งวาดรูปหรืออื่นๆ ทำให้แบรนด์ไฮนซ์ได้รับยอดขายที่ดีขึ้นกว่า 2.5% ในช่วง Quarter 1 ของปี 2021 ซึ่งเป็นตัวเลขเติบโตขึ้น 8.7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง Quarter เดียวกันในปี 2019 ที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด19 ด้วยค่ะ

ต้องบอกว่า Heinz นั้นเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามอง และเริ่มมีไอเดียสนุกๆ มาให้เห็นกันมากขึ้นจริงๆ ในช่วงนี้ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่ง Case Study น่ารักๆ และเป็นอีกหนึ่ง ไอเดียเก็บ Data ที่เพลินอยากหยิบยกมาเล่าแบ่งปันนักการตลาดที่กำลังมองหาไอเดียในการเก็บ Data อยู่เหมือนกันนะคะ ลองกา Pain point สนุกๆ หรือประเด็นอะไรของสินค้าที่ต้องใช้คู่หรือใช้ร่วมกับสินค้าของเราดู อาจจะมีจุดประเด็นบางอย่างที่หยิบมาต่อยอดได้ก็ได้ค่ะ ลองดูนะคะ

ส่วนใครอยากหาไอเดียเก็บ Data เพิ่ม แนะนำบทความนี้เลยค่ะ เกี่ยวกับไอเดียการเก็บเดต้าผ่าน Influencers หรือ Social Media

Reference: https://nerdist.com/article/heinz-petition-hot-dog-packs-buns-same-number/

Plearn Wisetwongchai

Marketing Strategic Planner ในเครือการตลาดวันละตอน | A Creator สาวพลัสไซส์ @Fabfatkid | A Travel Lover ที่หมดเงินเกือบ 80% ไปกับการเดินทางแบบแมสๆ | An Instagrammer @theplearn ที่ชอบเล่น Story เป็นชีวิตจิตใจ | สุดท้ายคือ Data Researcher ทั้ง Social และ Search Data etc. ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่