AI+Data-Driven Harley Davidson เพิ่ม Lead 2,930% และยอดขายเพิ่ม 8 เท่าใน 2 วัน
Case Study การใช้ AI และ Data-Driven Marketing วันนี้เป็นของแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ชื่อดัง Harley-Davidson ในเมือง New York ที่เพิ่ม Leads ได้มากถึง 2,930% ในแบบที่การตลาดแบบเดิมคงไม่มีทางจินตนาการถึงตัวเลขนี้ได้ และที่สำคัญกว่านั้นคือเคสนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2017 แล้วครับ
เดิมทีตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ที่เมือง New York ขายได้สัปดาห์ละประมาณ 1-2 คันเป็นปกติ ซึ่งในแง่ของการทำธุรกิจก็ต้องบอกว่ายังไม่พอเป็นปกติอยู่แล้ว พวกเขาจึงมองหา Solution ทางออกที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขาย จนกระทั่งได้มาเจอกับบริษัทที่ทำ AI ที่ชื่อว่า Adgorithms ซึ่งเชื่อว่าน่าจะช่วยให้ยอดขายโตขึ้นได้ไม่มากก็น้อย
ซึ่งเจ้า AI ตัวนี้ภายหลังคือ Albert ที่นักการตลาดสาย MarTech คุ้นหูกัน มันทำงานผ่าน Digital Channels ช่องทางหลักๆ อย่าง Facebook และ Google ในการทำการตลาดหรือปล่อยโฆษณาออกไป จากนั้นก็เก็บ Data Feedback กลับมาปรับปรุงโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมด้วยตัวเอง (ไม่ต้องมีคนทำ Media Optimization แล้วหละครับ)
ทางฝั่งดีลเลอร์ตัวแทนจำหน่าย Harley Davidson เลยตั้งใจว่าจะลองทดสอบดูสักสัปดาห์นึงก่อน เพราะ ณ วันนั้น ในปี 2017 การใช้ทั้ง Data และ AI ถือเป็นเรื่องใหม่มาก ก็เลยยังไม่กล้าจะทุ่มลงทุนอะไรมาก เรียกได้ว่าทดลองเพื่อเรียนรู้ ก่อนจะรู้ว่าควรหยุดหรือลงทุนรู้ให้มากขึ้นครับ
ผลลัพธ์ที่ได้กลายเป็นว่า ภายในสัปดาห์เดียว สัปดาห์นั้น ดีลเลอร์ตัวแทนจำหน่ายแห่งนี้สามารถขายรถมอเตอร์ไซค์ Harley Davidson ออกไปได้มากถึง 15 คัน! เทียบเท่ากับยอดขายสองเท่าของทั้งซัมเมอร์ที่เคยขายได้
ยอดขาย 8 เท่าจากปกติ หรือ สองเท่าจากทั้งหน้าร้อน! บ้าไปแล้ว และนั่นก็ทำให้ดีลเลอร์แห่งนี้เลือกที่จะใช้ AI Adgorithm อย่าง Albert ต่อไป จนนำมาสู่การจ้างงานใหม่ๆ เพื่อรองรับจำนวน Leads และลูกค้าที่หลั่งไหลเข้ามา
จากเดิมเคยได้ Qualified Lead วันละ 1 คน กลายเป็นวันละ 40 คน! จนทำให้ต้องจ้างทีมงาน Call Center เพิ่มขึ้นถึง 6 คน เพื่อดูแล Lead ไม่ให้หลุด
เดือนแรกพวกเขาหา Lead ใหม่จากการ Lookalike 15% ของกลุ่มคนที่ติดต่อเข้ามาเพื่อขอชมรถที่โชว์รูม ประเมินจากความน่าจะซื้อด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะเวลาที่อ่านรายละเอียดภายในเว็บ และมีแนวโน้มว่าจะเป็นกลุ่มคนที่ใช้เงินสูง
สามเดือนแรกพวกเขาได้ Lead เพิ่มขึ้นกว่า 2,930% จากการใช้กลยุทธ์ Lookalike Strategy ขยับไปที่ 50% ทั้งหมดนี้ทำให้เขาต้องจ้างทีมงานมาดูแลจัดการลูกค้าเพิ่ม เพราะลูกค้าโชว์รูมนี้พุ่งทะยานยิ่งกว่าคำว่า to the moon เรียบร้อยแล้ว
และนั่นก็ทำให้ผู้บริหารโชว์รูมเดิมคิดว่าด้วยแบรนด์ Harley-Davidson น่าจะมีกลุ่มเป้าหมายที่สนใจพอจะเป็นลูกค้าจริงๆ เขาได้น้อยมาก เขาเคยคิดว่าในเมือง New York น่าจะมีกลุ่มเป้าหมายอยู่แค่ 2% เท่านั้น
แต่กลายเป็นว่า Albert AI ช่วยทำให้เขาได้เห็นความเป็นไปได้มากขึ้น ว่าจริงแล้วในเมือง Big Apple แห่งนี้กลับมาคนที่สามารถจ่ายเพื่อรถมอเตอร์ไซค์หรูหราได้มากกว่าที่เคยคิดไว้เยอะมากครับ
เรื่องราวของการใช้ AI + Data-Driven Harley Davidson ยังไม่จบแค่นี้ ในตอนหน้าเราจะมาดูกันต่อว่า แล้ว AI ทำงานอย่างไร เราจะเริ่มต้นใช้ AI ใน Marketing จริงนั้นจะยากแค่ไหน รอติดตามได้เลยครับ
อ่านบทความตอนที่ 2 ต่อ
อ่านบทความที่เกี่ยวกับ Data-Driven ในการตลาดวันละตอน > https://www.everydaymarketing.co/tag/data-driven/
Source
https://albert.ai/impact/motorcycle-harley-davidson/
https://hbr.org/2017/05/how-harley-davidson-used-predictive-analytics-to-increase-new-york-sales-leads-by-2930
https://outsideinsight.com/insights/how-volkswagen-lyft-and-harley-davidson-use-ai-to-optimize-ad-spend/
https://channelvmedia.com/case-studies/artificial-intelligence-goes-mainstream/