สรุปมาให้.. 4 เทคนิคปั้น ร้านอาหาร เด็ด เป็นร้านดัง! ที่ทั้งอิ่มท้อง และอิ่มเอมใจ

สรุปมาให้.. 4 เทคนิคปั้น ร้านอาหาร เด็ด เป็นร้านดัง! ที่ทั้งอิ่มท้อง และอิ่มเอมใจ

สรุปมาให้.. 4 เทคนิคปั้น ร้านอาหาร เด็ด เป็นร้านดัง! ที่ทั้งอิ่มท้อง และอิ่มเอมใจ

สวัสดีค่ะ ชาว Marketer ทุกท่าน สำหรับถอดรหัส The Next Level ใน Week นี้ ได้นำตอนที่มีเรื่องราวดี ๆ ของร้านอาหารที่เอาใจเจ้าของธุรกิจร้านอาหารมาฝากกันค่ะ 

ในตอนนี้มีชื่อว่า The Next Level of ร้าน(อาหาร)ที่รัก ที่พี่หนุ่ย ได้เชิญแขกรับเชิญคนพิเศษ กูรูในด้านร้านอาหาร คุณเชอรี่ ดร.มณีเนตร วรชนะนันท์ คอลัมนิสต์ และพิธีกรรายการพอดแคสต์ Bon appetit ธุรกิจรอบครัว มาร่วมกันแชร์เคสการตลาดของธุรกิจอาหารเจ๋ง ๆ ที่ไม่ใช่แค่ทำจานอร่อยมาเสริฟให้กับลูกค้าได้อิ่มอร่อยกันเท่านั้น แต่ยังมี  Experience  ที่ทำให้ลูกค้าใจฟูกลับบ้านไปเป็นของแถมกันอีกด้วยค่ะ 

ในบทความนี้ ได้รวบรวมออกมาเป็น 4 เทคนิค ในการปั้นร้านเด็ดเป็นร้านดัง ของร้านอาหาร และคาเฟ่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จะเป็นอย่างไรบ้างไปอ่านกันได้เลยในบทความนี้ค่ะ  (〇´∀`〇)

1.เทคนิคปั้น Experience ร้านอาหาร : ให้ลูกค้าได้รับมากกว่าการทานอาหาร

เริ่มที่ร้านแรกกันเลยค่ะ คือ ร้าน MARIAGE FRERES “โอต์ กูตูร์” ของวงการชา

ร้านขายชาที่ถือว่าเป็น “โอต์ กูตูร์” ของวงการชาเลยล่ะค่ะ เป็นร้านที่ขายชาระดับพรีเมียม หากใครได้ชิมชาของร้านนี้เข้าไป รับรองว่าต้องได้เปิดประสบการณ์ใหม่ของการดื่มชากันไปเลย เพราะชาของเค้ามีความละมุน และหอมมาก 

และเป็นแบรนด์เก่าแก่ของฝรั่งเศษ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ ปี 1854 โดยร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่ชา ที่เป็นเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังขายชุดน้ำชา และอาหารอีกด้วย สิ่งที่พิเศษไปกว่านั้นคือ อาหารที่ขายที่ร้าน ก็ยังนำชามาเป็นส่วนผสมในอาหารอีกด้วยค่ะ 

เทคนิคปั้น-ร้านอาหาร-thailand

บรรยากาศตั้งแต่เข้ามาในร้านรู้สึกสบายตา ร้านสวย อุณภูมิของร้านที่ปรับไม่ให้สูง หรือต่ำเกินไป ดนตรี และความดัง เบาของเสียงที่ร้านก็ได้คิด และวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี

ส่วนพนักงานบริการในร้าน ที่เรียกว่า “Tea Ambassador”  ที่มีความรู้เรื่องชามาก ๆ สามารถให้คำตอบกับคุณได้ทุกคำถามที่เกี่ยวกับชา และสามารถช่วยคุณเลือกได้ว่าคุณอยากทานชาแบบไหน พร้อมกับให้เหตุผลกับลูกค้า เพื่อช่วยลูกค้าเลือกอย่างตั้งใจ สะท้อนให้เห็นว่าพนักงานมีความรักในอาชีพของตัวเองเป็นอย่างมาก

สำหรับเมนูจานเด็ดของร้านนี้ มีทั้ง

  • ออมเลท ที่ใส่ชา โรลมากับออมเลท
  • เห็ดชิทาเกะผัดเนย
  • สลัดผัก
  • ขนมปังปิ้ง ที่มาพร้อมกับ Tea Jelly โดยที่คุณสามารถนำไปทาขนมปัง หรือดับความขมของชา ด้วยการนำไปผสมกับชาก็ได้

นอกจากนั้นก็ยังมีชา French Earl Grey tea คือ ชาเออเกรย์ ที่นำไปเบลนกับ อิตาเลี่ยน เบอร์กามอท และดอกไม้พื้นเมืองของฝรั่งเศษ ที่ชื่อว่า “Blue cornflowers” เมื่อชงออกมาแล้ว ชาจะมีสีน้ำเงินที่เป็นสีของธงชาติฝรั่งเศษ

อ้อ..!! และขอบอกเอาไว้ด้วยค่ะว่า ร้านนี้จะมีเซเลป ระดับโลกแวะเวียนกันมาทานทั้ง มาดอนน่า เจลเลทเลตโต เอลตันจอห์น เป็นต้นเลยล่ะค่ะ

ร้านที่ 2 คือ Piccolo Buco ร้านพิซซ่าที่ดีที่สุดในกรุงโรม

ร้านพิซซ่าที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว คือน้ำพุ เทรวี่ ที่มีคนกล่าวขานค่ะ ว่าเป็นร้านพิซซ่าที่ดีที่สุดในโรม ซึ่งคุณเชอรี่ต้องต่อแถวถึง 2 ชม. กว่าจะได้ทาน ระหว่างต่อแถวก็มีคำถามมากมายว่าอร่อยจริงหรอ 555 จนถึงคิวค่ะ 

เทคนิคปั้น-ร้านอาหาร-thailand

นอกจากความอร่อยแล้ว ร้านนี้ยังมีจุดขายที่ Experience เพียงแค่คุณเปิดประตูเข้ามาในร้าน ก็จะพบกับพนักงานที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส ทักทายเหมือนเพื่อนกัน แต่ขอบอกเอาไว้ก่อนนะคะ ว่าร้านนี้ไม่รับจองคิว และไม่มีเทคอะเวย์

และพิซซ่าของทางร้านก็เป็นสไตล์ นะโปลีตัน แป้งที่ใช้ คือแป้งที่ดีที่สุด และมะเขือเทศที่ใช้ทำอาหาร ก็ใช้มะเขือเทศที่เป็นออแกนิกส์ รวมถึงชีสที่ดีที่สุดเท่าที่ทางร้านจะหามาได้ค่ะ เพราะทางร้านเค้ามีความเชื่อว่า ถ้าใช้ของที่ดีที่สุดมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร ก็จะได้อาหารเมนูที่ดีที่สุด ออกมาเช่นกัน และ Experience อีกหนึ่งอย่างที่ร้านนี้ทำก็คือ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนดังระดับไหนก็ต้องต่อคิวเท่านั้นค่ะ

ร้านที่ 3 คือ ร้านอาหาร ที่ชื่อว่า “ภูภิรมย์” ร้าน Open air และเป็นร้านที่มี Concept ดี 

  • เป็น Farm to table คือเอาวัตถุดิบในไร่มาทำอาหาร ทั้งสด ใหม่ ทำให้อาหารมีรสชาติ อร่อย สดใหม่ เช่นในไร่ปลูกชา ก็นำเอาใบชามาทำอาหาร 
  • มีผลไม้ตามฤดูกาล ขายเฉพาะผลไม้ที่ในสวนออกผลในฤดูกาลนั้น ๆ ให้กับลูกค้า
  • ร้านจ้างพนักงาน จากผู้คนในชุมชน ให้มีงานทำ 

ทำให้คุณเชอรี่จากเดิม ที่เคยไปร้านนี้ทุกฤดูหนาว อยากจะทดลองไปช่วงฤดูฝนเลยล่ะค่ะ ว่าไปแล้วจะได้เจอกับผลผลิตอะไรที่นำมาเซอร์ไพร์ทเป็นอาหารกันนะ และคุณเชอรี่ยังได้บอกไว้อีกค่ะว่า อยากจะไปทุกฤดูกาลเลย ว่าไปแล้วก็บิ้วเอาซะผู้เขียนต้องลองไปบ้างแล้วล่ะค่ะヽ(*^ー^)人(^ー^*)ノ  

และนอกจาก 3 ร้านคุณเชอรรี่นำมาเเชร์ให้ฟังแล้ว ยังมีร้านโปรดอีก 3 ร้านที่คุณเชอรี่ชื่นชอบ และนำมาฝากเผื่อนักชิมที่อยากได้ทั้งรสชาติ และประสบการณ์ดี ๆ ต้องไม่พลาดเลย นั้นก็ คือ ร้านแสงชัยโภชนา ข้าวต้มรอบดึก ร้านนี้เป็นร้านที่มีประวัติศาสตร์มามากมาย ดูได้จากกำแพงร้านที่มีคนมีชื่อเสียง มาทานกันค่ะ ,ร้าน Copper บุฟเฟต์ ร้านนี้เป็นร้านที่บุฟเฟ่รสชาติดี และ ร้าน Le bonfunk เป็นร้านอร่อยที่สิงคโปร์ จนคุณเชอรี่ไม่อยากจะให้ได้มิชลินเลยค่ะ

เคส Study ที่คุณเชอรี่นำร้านที่มีไอเดียการทำการตลาดที่น่าสนใจมาฝากค่ะ

เทคนิคปั้น-ร้านอาหาร-thailand

2.เทคนิคปั้น ร้านอาหาร ที่สร้างไวรัล Marketing : Sushiro ร้านซูชิสายพาน

ร้าน Sushiro : ร้านซูชิสายพานที่สาขาใต้หวันค่ะ เคสนี้นำกลยุทธ์การทำการตลาดที่สร้างไวรัลมาฝากค่ะ โดยแบรนด์อยากกระตุ้นยอนขายในลูกค้าที่ชอบทานเเซลมอน โดยมี Gimmic ในแคมเปญนี้ คือนำคำว่า “แซลมอน” ที่ในภาษาจีนที่ออกเสียงว่า กุย-หยี มาเป็นกติกาในการแลกส่วนลดค่ะ  โดยมีโปรโมชั่นดังนี้

  • หากลูกค้าคนไหนมีชื่อในบัตรประชาชน ที่พ้องเสียงกับคำว่า เเซลมอน เพียงเเค่มีคำใดคำหนึ่ง ก็ได้รับส่วนลดไปเลย 10 %
  • ถ้าหากลูกค้ามีชื่อทั้ง 2 คำนี้โดยไม่ต้องเรียงกันให้เป๊ะ ๆ!! ก็รับส่วนลดไปเลย 50%
  • หากลูกค้ามีชื่อ เเซลมอน ก็สามารถมาทานฟรีได้เลย 2 วันที่จัดโปรโมชั่น จะทานกี่ครั้งก็ได้

แล้วปรากฏว่าเป็นไวรัลใน Internet เลยล่ะค่ะ เพราะว่ามีคนไปเปลี่ยนชื่อ เป็นชื่อแซลมอนขึ้นมาจริง ๆ เพื่อให้ได้ทานฟรี และยิ่งไปกว่านั้นมีคนที่เปลี่ยนชื่อเป็นความหมายแปลก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาหารเพราะหวังว่าจะมีร้านอาหารที่ทำโปรโมชั่นกินฟรีคล้าย ๆ กับร้านนี้เผื่อเอาไว้ซะเลยค่ะ

และสิ่งที่ต้องขำขึ้นมา สำหรับกรณีนี้นั่นก็คือ เนื่องจากที่ใต้หวันเป็นประเทศที่ให้ประชาชนสามารถเปลี่ยนชื่อได้เพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น แล้วก็บังเอิญที่มีคนเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ไปเป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ลืม จนต้องอยู่กับชื่อ เจ้าชายเเซลมอน แบบนั้นไปเลยค่ะ ยาว ๆ 555(>∀<☆ヾ)

3.เทคนิคปั้น Logo Life Marketing ของ ร้านอาหาร Mcdonald’s 

ร้าน Mcdonald’s : เคสนี้เป็นของสาขาอินเดียค่ะเนื่องจาก อินเดียมีผู้คนเยอะมากถึง 140 ล้านคน ทำให้แม็คฯอยากตีตลาดในอินเดียขึ้นมา แต่ด้วยศาสนาที่ผู้คนในอินเดีย 80% นับถือศาสนาฮินดู ไม่ทานเนื้อ และอีก 20% เป็นอิสลาม ไม่ทานหมู

จึงเป็น โจทย์สำคัญที่ทำให้แม็คฯ ทำการบ้านอย่างหนัก และได้ออกเบอร์เกอร์เฉพาะสำหรับประเทศอินเดีย ที่ใช้ไก่เป็นวัตถุดิบ ที่ชื่อว่า “แม็คมหาราชา” ที่ต่างเรียกกันว่านี่ คือบิ๊กแม็คฯ ของอินเดีย แต่หมัดฮุคจริง ๆ ของแม็คฯ ยังมีอีกหนึ่งรายการค่ะ มีชื่อว่า “ อัลลูติ๊กกี้ เบอร์เกอร์” ค่ะ!!! มาจากอาหารสตรีทฟู้ดของอินเดียที่ชื่อว่า อัลลูติ๊กกี้ นำมาทำเป็นเบอร์เกอร์มังสวิรัต ที่มีขายที่เฉพาะอินเดียเท่านั้น และยังมียอดขายถล่มทลายอีกด้วย เรียกได้ว่า แบรนด์ทำ Logo Life Marketing ได้อย่างดีเลยทีเดียวค่ะ ( ̄▽ ̄)” 

4.ร้านอาหาร ที่มี เทคนิค Concept Feel good 🙂 2 ร้านที่คุณเชอรี่นำมาฝากกันค่ะ

เทคนิคปั้น-ร้านอาหาร-thailand

ร้านแรกชื่อว่า Cafe Joyeux : ร้านนี้เป็นคาเฟ่แห่งความสุข ที่ปารีส ร้านนี้ 80-90% ของพนักงานในร้านเป็นคนที่มีปัญหาทางด้านสติปัญญา เป็นร้านที่ตั้งจากองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และผลกำไรจากร้านนี้ก็นำมาเปิดสาขาเพิ่มเพื่อหวังให้มีการสร้างโอกาสให้กับผู้คนที่มีปัญหาด้านสติปัญญาได้มีโอกาสมีงานทำมากขึ้น

เทคนิคปั้น-ร้านอาหาร-thailand

ร้านที่2 คือร้าน Mirai Shokudo : ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มี Concept ว่า อยากโอบรับทุกคนค่ะ♡ . ( ̄▽ ̄)~* ในร้านนี้มีเจ้าของร้านที่เป็นพนักงานร้านเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ และถ้าคุณไม่มีเงินล่ะก็ คุณก็สามารถแลกแรงงานของคุณมาช่วยทำงานที่ร้าน เวลา 50 นาที เป็นอาหารได้ 1 มื้อในราคา 900 เยน เพียงแค่คุณเข้ามาลงทะเบียนสมัครงานในเว็ปไซส์ของทางร้าน และก็สามารถมาทำงานเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นอาหารได้เลย 1 มื้อ

ในร้านนี้มื้อกลางวันจะมีเพียงเเค่เมนูเดียวเท่านั้น และมื้อเย็น เจ้าของร้านจะบอกวัตถุดิบที่มี และลูกค้าสามารถเลือกให้เจ้าของร้านทำอาหารตามสั่งได้ภายใต้วัตถุดิบที่มี ลูกค้าอยากทานอะไร ฟังดูแล้วอิ่มเอมใจจังเลยนะคะ ถ้ามีโอกาสอยากไปลองเป็นลูกค้าที่ร้านสักครั้งดูค่ะ

จากการฟังประสบการณ์ของคุณเชอรี่ใน The Next Level ตอนนี้แล้วทำให้มองภาพของการทานอาหารเปลี่ยนไปเลยค่ะ ว่าการในมุมของผู้บริโภคอย่างเรา ๆ แล้ว การทานอาหารรสชาติดี ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีทางกายภาพที่ ไปเจอร้านที่ทำอาหารอร่อย ก็บอกได้ว่ามันคือความอร่อยแบบไหน อร่อยมาก อร่อยน้อย  แต่การได้รับ Experience มันสร้างความอิ่มเอมใจ ให้ใจฟูในแบบที่ทำให้คิดถึงความรู้สึกแบบนี้จากร้านอื่น ๆ ไม่ได้เลยล่ะค่ะ♡. = ̄ω ̄=

สิ่งนี้คือสิ่งที่อยากเก็บมาฝากจากใจให้กับผู้ทำธุรกิจร้านอาหารทุกท่านที่ได้อ่านเลยค่ะว่า หากคุณสามารถทำร้านของคุณให้ได้เป็นมากกว่าร้านอร่อย ที่ลูกค้ามาทานแล้วอิ่มท้อง แต่ได้ความอิ่มใจบางอย่างกลับบ้านไปด้วย ในแบบของคุณ คุณก็จะเป็นร้านที่ลูกค้ารักไปอีกนานแน่นอนค่ะ

สำหรับท่านไหนที่อยากลองเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ร้านอาหาร ของคุณเชอรี่ลองเข้าไปดูที่ The Next Level of ร้าน(อาหาร)ที่รัก ได้เเปะไว้ที่ด้านบนของบทความอีกเช่นเคยค่ะ แล้ว Week หน้าจะนำ The Next Level ตอนไหนมาฝาก รบกวนติดตามด้วยนะคะ หรือท่านไหนมีประสอบการณ์ร้านอาหารที่รักก็มาแชร์กับสบการณ์กับผู้เขียนได้นะคะ สำหรับวัน สวัสดีค่ะ

อ่านข้อมูลการทำการตลาดอื่น ๆ เพิ่มเติม  คลิกที่นี่ได้เลยค่ะ

อัพเดทข่าวสาร เพื่อติดปีกให้คุณเป็นนักการตลาดที่ไม่ OUT !!!  อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ เพจการตลาดวันละตอน เว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนค่ะ

Chulee.

นักพัฒนาผลิตภัณฑ์และสื่อสารการตลาด / นักเขียนบทความการตลาด ชอบงานศิลปะ งานครีเอท ไอเดีย เจ๋ง ๆ จึ้ง ๆ! น้องใหม่ทีมการตลาดวันละตอน ฝากผลงานด้วยนะคะ :) ♥รักเวลา... เวลามีค่ามากที่สุด⏰

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *