Zanroo ไขความลับตลาดญี่ปุ่นด้วย Data

Zanroo ไขความลับตลาดญี่ปุ่นด้วย Data

ใครที่กำลังมองญี่ปุ่นเป็นตลาดต่อไป ลองมาดู data พิเศษชุดนี้ที่ทาง Zanroo Japan แชร์ให้ เพื่อให้รู้ไว้ว่าคนญี่ปุ่นเค้าเป็นยังไง เพื่อจะได้วางแผนได้ถูกทาง

ขอบคุณ คุณ Ro ที่เป็น MD ของ Zanroo Japan มากที่แบ่งปันข้อมูลลับนี้ให้ผมได้มาแชร์กับแฟนเพจการตลาดวันละตอนอีกที

ภาพนี้คุณ Ro เล่าว่า ที่ต้องเป็นตลาดญี่ปุ่นเพราะนอกจากคนทั่วโลกจะให้การยอมรับสินค้าที่คนญี่ปุ่นรับรองแล้ว แต่ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดที่ดีอยู่แล้ว ทำให้จะทำอะไรก็ง่าย แถมคนญี่ปุ่นยังไม่ชอปก็อปปี้สินค้าหรือไอเดียของคนอื่นด้วย ดังนั้นถ้าใครอยากสร้างสรรค์แต่ไม่อยากกังวลเรื่องโดนก็อป แนะนำตลาดญี่ปุ่นเลยครับ

แต่ปัญหาของตลาดญี่ปุ่นคือความเป็นญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใคร วัฒนธรรมไม่เหมือนชาติไหน แถมที่สำคัญไม่ยอมรับความผิดพลาด ถ้าพลาดแล้วคือจบ ดังนั้นก่อนจะไปลุยต้องทำการบ้านให้หนักๆ ว่าอะไรที่คนญี่ปุ่นชอบ และอะไรที่คนญี่ปุ่นไม่ชอบครับ

ข้อดีของตลาดญี่ปุ่นคือคนแทบทั้งหมดเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหมดแล้ว แถมยังมีการใช้ ad block น้อยกว่าหลายๆประเทศในโลกด้วย แต่จะเห็นว่าปัญหาคือแม้อินเทอร์เน็ตจะแพร่หลาย แต่ชั่วโมงการใช้งานกลับต่ำกว่าบ้านเรามาก แถมเวลาที่ใช้ไปกับ social media ยังต่ำมากอีกด้วย

ก่อนจะไปลุยตลาดญี่ปุ่น อย่าหลงมองแต่ตัวเลขบางตัว แต่ต้องมองให้ครบทุกตัว และก็ต้องเข้าใจความหมายของแต่ละตัวด้วยนะครับว่ามันคืออะไร

คุณ Ro บอกว่าสื่อเดิมอย่าง TV ยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย แต่ในขณะเดียวกันคนญี่ปุ่นก็นิยมเสริชหลังเห็นโฆษณาที่สนใจแล้วไม่น้อยกว่าชาติใดในโลก ดังนั้นสื่อเดิมๆยังจำเป็นสำหรับตลาดญี่ปุ่นครับ

ภาพนี้บอกถึงวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใคร ตรงที่คนญี่ปุ่นถ้าอยู่หน้าร้านแล้วไม่ชอบหาข้อมูลหน้าเว็บเหมือนคนไทย หรือคนชาติอื่น ที่ชอบเข้าไปเสริชข้อมูลที่ร้าน แต่ชอบถามกับพนักงานมากกว่า

เพราะวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มี service mind ขั้นเทพ เรียกได้ว่ากว่าจะได้พนักงานหน้าร้านมาซักคนต้องมีการเทรนอย่างหนักและดีมาก พนักงานจะต้องสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าได้ทุกเรื่อง ผิดกับพนักงานบ้านเราที่ถามสามอย่างตอบได้หนึ่งอย่าง และอีกหนึ่งอย่างก็อาจตอบไม่ตรงคำถาม หรือตอบไม่ตรงกับข้อมูลที่ขึ้นตรงหน้าเว็บด้วย

ดังนั้นถ้าจะเข้ามาทำธุรกิจที่ญี่ปุ่น อย่าหวังว่าคนจะเสริชหาข้อมูลเอง หรือเอาจออัจฉริยะสำหรับให้ข้อมูลหน้าร้านไว้แล้วคนจะใช้ เพราะคนที่ญี่ปุ่นต้องการปฏิสัมพันธ์กับคนมากกว่าชาติใดในโลกครับ

ภาพนี้คุณ Ro เล่าว่า คนญี่ปุ่นถ้าได้รับข้อมูลไม่ตรงกัน เช่น หน้าร้านบอกอย่าง โฆษณาบอกอย่าง หรือโซเชียลมีเดียบอกอย่าง คนญี่ปุ่นจะเลิกสนใจและไม่ซื้อทันที เพราะถือว่าเป็นความไม่พร้อมสำหรับธุรกิจที่บอกถึงความไม่ตั้งใจจริงที่จะให้บริการ

ความถูกต้องสำคัญมากครับที่ญี่ปุ่น ต้องเช็คข้อมูลทุกช่องทางให้ตรงกันนะครับ

สุดท้ายแล้วคนญี่ปุ่นที่เป็นพนักงานออฟฟิศนั้นมีอุปกรณ์ดิจิทัลเฉลี่ย 3.3 เครื่องต่อคน เอาง่ายๆคอมพิวเตอร์หนึ่ง มือถือหนึ่ง แล้วอาจจะเป็นอุปกรณ์สวมใส่อีกหนึ่ง บ้านเค้าของเล่นไฮเทคเยอะครับ

และทั้งหมดนี้ก็ต้องขอบคุณ Zanroo ด้วยนะครับ สำหรับข้อมูลที่มีค่าที่อยากจะแบ่งปันให้ธุรกิจไทย หรือใครที่อยากจะไปลุยตลาดญี่ปุ่นในวันนี้

ปล. คุณ Ro ฝากมาบอกว่าไม่ต้องใช้เค้าก็ได้ แต่ถ้าอยากรู้อะไรก็ติดต่อเค้าได้เลย เค้าอยากช่วยด้วยใจจริงครับ

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่