Search Trends 2020 – คนไทยหาอะไรมากที่สุดในปี 2020

Search Trends 2020 – คนไทยหาอะไรมากที่สุดในปี 2020

ปี 2020 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งปีที่ยาวนานและมีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นมากตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะที่ไทยหรือประเทศอื่นๆ ทำเอาหลายคนอยากจะ Skip ปีนี้ไปเร็วๆ เสียที วันนี้เรามาดูกันว่าคนไทยค้นหา Topics อะไรบ้างบน Google จนติดเป็น Search Trends 2020 ที่ผ่านมา อะไรที่ฮิต มาแรงในหมวดหมู่ต่างๆ ตั้งแต่ข่าวที่ค้นหามากที่สุด ท่องเที่ยว ทำอาหารเมนูไหนรมากสุด และอื่นๆ อีก 12 Categories ค่ะ

ก่อนที่เราจะเจาะไปในแต่ละ Categories มาดู Top 10 Topics ที่คนไทยค้นหามาที่สุดโดยรวมกันก่อนค่ะ จะเห็นได้ว่าเรื่องแรกนั้นหนีไม่พ้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ COVID19 นั่นก็คือโครงการมาตรการเยี่ยวยาจากรัฐอย่าง ‘เราไม่ทิ้งกัน’ ที่มียอดการค้นหาพุ่งยิ่งกว่า All Time Search หรือเทรนด์อย่าง ‘หวย’ ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็เคยสรุปเป็นบทความเอาไว้แล้วว่า การค้นหาของเราไม่ทิ้งกันในวันที่รัฐเปิดให้ลงทะเบียนวันแรกนั้นพุ่งสูงถึง 17 ล้านครั้ง แต่ถ้ารวมทั้งเดือนมีนาคมอย่างเดียวหรือต้องพูดว่า 4 วันสุดท้ายของเดือนมีนาคม ยอดการค้นหานั้นรวมอยู่ที่ 31.5 ล้านครั้ง เดือนเมษายนอย่างเดียวอยู่ที่ 69.83 ล้าน และเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 47.1 ล้านครั้งค่ะ

ต่อมาในอันดับที่ 2 ก็คือประเด็นของ ‘คนละครึ่ง’ ที่เป็นอีกหนึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐ ซึ่งหากเปรียบเทียบดู Volume แล้ว จำนวนการค้นหาของโครงการคนละครึ่งจะอยู่ที่ 9.95 ล้านครั้งในเดือนตุลาคมเพียงอย่างเดียวค่ะ แสดงให้เห็นได้ว่าเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนั้น ยอดการค้นหาจะต้องสูงเพิ่มขึ้นกว่านี้อีกเยอะแน่นอน โดยลักษณะการค้นหานั้นมีทั้งกลุ่มประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิและร้านค้าเองที่ต้องการลงคนละครึ่งเพื่อเรียกลูกค้าเพิ่มด้วย

อันดับที่ 3 ก็คือชื่อของไวรัส ‘โควิด-19’ ที่มีคนมักหาในเชิงกระแพร่ระบาดตามจังหวัดต่างๆ ลักษณะการค้นหาอย่างเช่นในวันนี้ก็คือการพิมพ์ ‘โควิด19’ แล้วตามด้วยชื่อสถานที่หรือจังหวัด เช่น ‘โควิด19 เชียงใหม่’ เป็นต้น โดยการค้นหาเกี่ยวกับโควิดนั้นพุ่งสูงในช่วงเดือน นั่นก็คือเดือนมีนาคม (929K ครั้ง) และเมษายน (973K ครั้ง) ที่สถานการณ์ยังคงตรึงเครียดและหลายคนก็ยังกักตัวอยู่ที่บ้านค่ะ ซึ่งตัวเลข Volume ที่เราเห็นนี้ เป็นเพียงคำว่า โควิดเท่านั้น แต่แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นบน Google จะต้องมีคำอื่นๆ ที่รวมอยู่ใน Topic เรื่อง COVID19 ที่ทำให้ Ranking ติดอยู่ที่อันดับ 3 ในปีนี้ค่ะ

อันดับ 4 ก็ยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ COVID19 อย่าง DLTV หรือการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ที่นักเรียนหลายคนต้องหันมา Study From Home ในช่วงเปิดเทอมแรกผ่านออนไลน์ โดยลักษณะหารค้นหาจะเป็นการพิมพ์ DLTV แล้วตามด้วยชั้นหรือเกรดที่เรียนอยู่ เช่น ‘DLTV ม.1’ เป็นต้นค่ะ โดยการค้นหานั้นพุ่งสูงในช่วงเดือนแรกที่ DLTV เปิดให้บริการ จนตัวเลขนั้นแตะที่ 23.5 ล้านครั้งการค้นหาในเดือนพฤษภาคมและ 9 ล้านครั้งในเดือนมิถุนายนรองลงมาค่ะ

อันดับ 5 ก็คือเรื่องของมาตรการเยียวยาสำหรับเกษตรกร ที่ช่วงแรกเกิดเป็นดราม่า จนทำให้รัฐต้องคลอดมาตรการออกมาหลังจากเราไม่ทิ้งกันค่ะ ตัวเลขการค้นหาอยู่ที่ 8.07 ล้านในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อันดับที่ 6 ก็คือในส่วนของ Post-COVID19 เพราะเป็นอีกหนึ่งโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐอย่าง ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ที่หลายๆ คนรวมถึงเพลินเองก็ร่วมลงทะเบียนด้วยค่ะ โดยตัวเลขของการค้นหาโครงการเราเที่ยวด้วยกันนั้นอยู่ที่ 6 ล้านครั้ง

อันที่ 7 ก็คือเหตุการณ์การเลือกตั้งที่ประเทศอเมริการะหว่างโจ ไบเดินและโดนัลด์ ทรัมป์ค่ะ ถัดมาในอันดับ 8 คือ ‘ร้อยเล่ห์มารยา’ ที่มีการค้นหาอยู่ที่ 27.6 ล้านครั้งในเดือนเดียวหรือเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการค้นหาตั้งแต่ เนื้อเรื่องย่อไปจนถึง Ep.1 ไล่ไปเรื่อย ทำให้เราสามารถเห็นถึงพฤติกรรมการดูย้อนหลังได้อย่างชัดเจนค่ะ

อันดับทที่ 9 ก็คือการลงทะเบียนสำหรับรับเงินค่าไฟ ที่มีตัวเลขอคร่าวๆ อยู่ที่ 5.6 ล้านครั้งด้วย Keyword คำว่า ‘ลงทะเบียนรับเงินค่าไฟ’ อย่างเดียวค่ะ ซึ่งแน่นอนว่า Google ต้องมีการเก็บ Keywords ที่เกี่ยวข้องมากกว่านี้อยู่แล้ว และจำนวนการค้นหาก็จะต้องสูงกว่าแค่ 5 ล้านครั้งอีกค่ะ อันดับสุดท้ายหรืออันดับที่ 10 ก็คือการค้นหาเกี่ยวกับการสมัครสอบ ก.พ. ค่ะ

ทั้งหมดนี้ก็คือ 10 อันดับ Topics ที่คนไทยหามากที่สุดในปี 2020 ที่ผ่านมา ต่อไปเดี๋ยวเรามาเจาะในแต่ละ Category กันบ้างว่ามีเรื่องย่อยๆ อะไรบ้างที่คนไทยหากันอีก

1. ข่าว 

จำได้ดีเลยว่าตั้งแต่เราก้าวเข้าสู่ปี 2020 ประเทศเราก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย เหตุการณ์ทั้งหมดต่างพากันแย่งซีนข่าวหน้าหนึ่งและเวลาแอร์ไทม์ของสำนักข่าวหลายช่องถ้าตัดเรื่องของ COVID19 ออกไป เรามาเริ่มจากอันดับที่ 2 กันเลยค่ะ เหตุการณ์เลือกตั้งในประเทศสหรัฐที่คงไม่ใช่แค่ไทยที่คอยจับตามอง แต่เรียกว่าทั่วทุกมุมโลกเลยก็ว่าได้ อับดับ 3 ก็คือข่าวน้องชมพู่กับคุณแม่ที่หลายคนเอาทวีตใน Twitter อย่างหนักหน่วง รองลงมาก็คืออันดับที่ 4 เรื่องของไวรัส RSV ที่กระทบกับระบบทางเดินหายใจ 

อันดับที่ 5 แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องติดอันดับ เพราะเป็นข่าวที่ทำเอาคนไทยช็อคในช่วงเดือนนั้นแบบสุด กับเหตุการณ์การกราดยิงที่ศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช อันดับ 6 ก็คือข่าวเรื่องของการจัดเคอร์ฟิว ที่ทุกคนต้องติดตาม เพื่อที่จะกลับบ้านและออกจากบ้านในเวลาที่กำหนดได้อย่างถูกต้อง อันดับที่ 7 ก็คือเรื่องของสุริยุปราคา หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่หลายคนรอดูทั้งจากพื้นดินผ่านใบไม้บ้างอะไรบ้าง 

อันดับที่ 8 ที่เพลินเองก็ค้นหา ว่าพายุจะเข้าวันไหนถึงวันไหน เพราะเป็นปีที่แปลกมาก ขนาดเข้าหน้าหนาวแล้ว ฝนยังคงกระหน่ำลงมาไม่หยุดหย่อน อันดับที่ 9 คือที่หนึ่งเหตุการณ์การบุกเข้าห้างพร้อมปืน อย่างข่าวโจรปล้นทองและมีรปภ. ฮีโร่ที่เสียสละชีวิตในการปิดประตูห้างในวันนั้นค่ะ อันดับสุดท้ายก็คือข่าวรถไฟชนกับรถบัสจนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายศพค่ะ

2. วิธี

เรื่องใหม่ๆ ที่คนไทยค้นหาเพื่อเรียนรู้ในปีนี้ เริ่มตั้งแต่การใช้คนละครึ่ง การลงทะเบียนค่าไฟที่เกี่ยวข้องกับ Top Search ทั้งหมดด้วย นอกจากนั้นแน่นอนว่า คนต้องมองหาวิธีการส่วมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

และจากเหตุการณ์ที่เจลและแอลกอร์ฮอล์ขาดตลาดและราคาพุ่งสูง ทำให้หลายคนเริ่มมองหาวิธีทำเจลล้างมือด้วยตนเองที่บ้าน รองลงมาคือวิธีการรับเงินจากโครงการเยียวยาต่างๆ ของรัฐไม่ว่าจะเป็นเราไม่ทิ้งกัน 5000 บาทหรือสำหรับเกษตรกร หรือวิธีลงทะเบียนกับธนาคารออมสินที่เป็นธนาคารของรัฐ ที่เปิดจำหน่ายพันธบัตรเราไม่ทิ้งกันด้วย

และสิ่งนึงที่ไม่น่าแปลกใจเลยว่าคนต้องหาคือ ‘วิธีแก้เครียด’ เพราะต้องบอกว่าปี 2020 ที่ผ่านมานั้นสุดแสนทรมานและปวดใจสำหรับพวกเราทุกคนไม่มากก็น้อย เราเห็นหลายธุรกิจปิดตัว ร้านอาหาร บริษัทท่องเที่ยว โรงแรมดิ้นรนหาทางออก และคนมากมายโดนลดเงินเดือน บางคนถูกให้ออกจากงานเพื่อลดคนและอีกมากมาย นี่ยังไม่ได้มองถึงข่าวและเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นที่ล้วนแต่เพิ่มความเครียดให้กับคนไทยเป็นอย่างมากในปีนี้ค่ะ

3. เรียน

ในช่วงกักตัวอยู่บ้านและปีที่ทำให้เรากลับมาอยู่กับตัวเองมากขึ้น คนไทยก็เริ่มมองหาการเรียนรู้ต่างๆ ผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น ตั้งแต่การเรียนภาษา พยาบาล บัญชี วิศวะ เกาหลี จิตวิทยา ทำอาหารและตัดผม ทั้งหมดนี้ทำให้เราเห็นว่าคนเริ่มเรียนรู้ที่จะทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเองมากขึ้นเมื่อออกนอกบ้านไม่ได้ และเมื่อสภาพแวดล้อมไม่เหมือนเคย ตั้งแต่การทำอาหารและตัดผม ที่ถ้าหากเกิด Wave 2 ขึ้นมา หลายๆ คนคงเริ่มพร้อมที่จะกักตุนวัตถุดิบและลงมือเข้าครัวเองมากขึ้น รวมถึงไม่ต้องปล่อยให้ผมยาวจนดูโทรมมากเกินไปด้วย อีกหนึ่งบทเรียนที่น่าสนใจคือภาษาเกาหลี ที่อาจเกิดขึ้นจาก อิทธิพลซีรีส์ที่ใช้เวลากับมันนานช่วงกักตัว ทำให้อยากจะฟังออกมากขึ้น เหมือนพี่สาวของเพลินก็เช่นกันค่ะ

4. สูตรอาหาร

จากที่เราเห็นในข้างต้นว่าคนเริ่มเรียนรู้วิธีเข้าครัวทำอาหาร เรามาดูข้างในอีก Layer กันค่ะว่าแล้วคนมองหาทำเมนูอะไรกันมากที่สุด เมนูแรกคือหมูแดดเดียว อับดับ 2 คือบราวนี่ที่กลายเป็นเมนูฮิตมากในช่วงกักตัว จนหลายคนเปิดร้านออนไลน์กันไปแล้ว ต่อมาคือขนมครก การหมักหมูย่าง ไก่ย่าง ที่คิดว่ามีความเกี่ยวเนื่องกับการทำหมูแดดเดียว หมูปิ้ง หมูทอดไปจนถึงอาหารเกาหลี ชาบู ปิ้งย่างที่บ้านค่ะ ต่อมาคือเมนูขนมปัง ไก่ทอดหาดใหญ่ แพนเค้ก หมูปิ้งและหมูทอด

5. ที่เที่ยว

พอสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แน่นอนว่าสิ่งที่คนไทยโหยหามากที่สุดก็คือเรื่องของการออกจากบ้าน ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่เพราะประเทศยังไม่เปิด มันเลยเป็นเหมือนไฟลท์บังคับที่ทุกคนต้องเที่ยวไทย โดยจังหวัดแรกที่ติดเข้ามาสูงสุดก็คือเชียงใหม่ สวรรค์แห่งคาเฟ่สุดน่ารักนอกเหนือจากกรุงเทพ รวมไปถึงฟาร์มดอกไม้และอากาศเย็น อันดับ 2 ก็คือสุราษฎร์ธานี ที่หลายคนแห่ไปลงที่นั่นเพื่อต่อเรือไปสมุย พะงันและอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ยังมีพัทยา หัวหิน ที่เป็นจังหวัดเดินทางง่ายจากกรุงเทพและมีทะเลสวย หลังธรรมชาติฟื้นตัว ต่อมาก็คือเขาค้อ เชียงราย ประจวบ ระนอง ระยอง และกาญจนบุรี จะเห็นได้ว่าจังหวัดส่วนใหญ่คือจังหวัดที่ไม่ติดทะเลก็มีอากาศดีๆ อย่างเหนือสุดของไทย เชียงใหม่ เชียงรายค่ะ

6. ประเภทร้าน

แอบขำที่อันดับแรกคือร้านตัดผม เพราะเชื่อว่าหลังกักตัวหลายๆ คนคงวิ่งหาร้านว่าเปิดหรือยังกันให้วุ่น รวมไปถึงเทรนด์ไฮไลท์ผมทองแบบ Jennie BLACKPINK ที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ก็คือร้านชานมไข่มุกที่สูงไม่แพ้กัน สิ่งนึงที่น่าสนใจก็คือร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ ที่หลายคนหันมาเข้าครัวตามการค้นหาที่เราเจอด้านบนค่ะ

7. ภาพยนต์

ช่วงแห่งการกักตัว แน่นอนว่าอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนทำเพื่อฆ่าเวลาก็คือการสตรีมหนังดูออนไลน์ ซึ่งหนังที่คนหาอันดับหนึ่งก็คือหนังติดเราอย่าง 365 DNI รองลงมาก็คือมู่หลานที่หลายคนแบน จนต้องมาค้นหาดูว่าเพราะอะไรถึงต้องแบน หรืออาจจะสตรีมแอบดูออนไลน์แทนค่ะ อีกหนึ่งภาพยนต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์บ้านเมืองก็คือ Parasite ที่พอเข้าใน Netflix ปุ๊ปก็ฮิตติดอันดับทันที ต่างคนต่างแคปคำพูดโดนๆ มาแชร์กันในทวิตเตอร์อีกทีค่ะ

อีกหนึ่งหนังที่แสดงให้เราเห็นว่าหลายๆ คนต้องเปิดให้ลูกหลานดูที่บ้านก็คือ Frozen II หรือเอลซ่าขวัญใจเด็ก เพื่อที่จะให้ตัวเองได้กลับไปประชุมหรือทำอย่างอื่นๆ ได้บ้าง เด็กๆ เองก็จะได้ไม่งอแงด้วยค่ะ สุดท้ายคือหนังอย่าง Tenet ที่ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงติด Trends เพราะนอกจากจะเป็นหนังของผู้กำกับชื่อดังอย่าง Christopher Nolan ตัวหนังยังชวนคิดตาม ขนาดออกจากโรงมา ยังคิดตามไม่หยุดงงเลยค่ะ

8. ร้านอาหาร ร้านขนม

ร้านแรกที่ติดอันดับเลยก็คือร้านเนื้อแท้ ของหนุ่มบังโต Silly Fools ที่เวลาเพลินเดินผ่านร้านทีไร คนก็แน่นเต็มร้านตลอด รองลงมาก็คือร้าน Coffee War ที่ใช้คอนเซปทานบนเครื่องบินจนคนแห่กันไปแบบแน่นเอี๊ยด นอกจากนี้ยังมีร้านของหวานอื่นๆ อีกอย่างร้านใส่นม ร้านไก่ทองกับเมนูปังชาเย็นถ้วยใหญ่ๆ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นร้านที่เน้นแซ่บอย่างแซ่บนัว ซีฟู้ดส์ ร้านเขียงที่ทำอะไรก็เผ็ดร้อนและอื่นๆ อีกมากมายค่ะ

9. ละคร

ละครที่เล่นวนไปตามช่องต่างๆ อันดับแรกหนีไม่พ้นเรื่องร้อยเล่ห์มารยาสุดแซ่บ ตามมาติดๆ ด้วยละครแนวแซ่บร้อนแรงเรื่องอื่นๆ อย่างเนื้อใน เกมรักเอาคืน ซ่อนเงารักที่ทำเอาพระเอก นางเอก #ก็อตริชชี่ เกิดอย่างจัง จะเห็นได้ว่าละครติดอันดับเทรนด์เกือบหมดล้วนมีเนื้อเรื่องสุดแซ่บ มันส์ หรือไม่ก็มีตัวละครที่น่าติดตามอย่าง ขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ ที่คุณแอบ ทักษอรได้กลับมาเล่นอีกครั้งหลังจากทิ้งวงการไปซักพักค่ะ และอีกเรื่องที่คนต้องดูยาวๆ ไปเพราะฉายแบบต่อเนื่องทุกวันไม่ได้หยุดก็คือเรื่อง อกเกือบหักหลงรักคุณสามี หรือพี่เธียรที่ได้รับกระแสดีจนเกิดเป็น LIVE Meetings ในช่วงนั้นด้วย

10. ออนไลน์

กิจกรรมออนไลน์ที่คนหากันอันดับแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องของการเรียนออนไลน์ที่เป็นเหมือนไฟลท์บังคับสำหรับเด็กทุกคนด้วย อันดับรองลงมาก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นได้ว่า คนไทยเริ่มที่จะหันมาใช้ชีวิตแบบออนไลน์หรือ New Normal มากขึ้น ตั้งแต่ลอยกระทง เวียนเทียน อบรมใบขับขี่ ต่อใบขับขี่ ดูทีวี เปิดบัญชีและอบรมออนไลน์ค่ะ

11. เพลง

วงการเพลงก็เป็นอีกหนึ่งอันที่น่าสนใจ ว่าเทรนด์อะไรมาแรงบ้าง เริ่มตั้งแต่เพลงวิบวับจากคุณป็อกและเพื่อน ที่นอกจากจะร้องกันทั้งบ้าน ทั้งเมืองแล้ว ยังมีการทำการตลาดสร้าง Challenge ในแพลตฟอร์ม TikTok ช่วงกักตัวด้วยค่ะ รองลงมาก็คือเพลงวาฬเกยตื้น ที่เป็นศิลปินม้ามืดสุดๆ เพลงต่อมาคือเพลงจากประเทศลาวหรือเพลงใส่ใจได้แค่มอง ที่สะเทือนวงการ TikTok ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากดูจริงๆ จังๆ เกือบทุกเพลงนั้นเป็นเพลงที่ไปโตใน TikTok เกือบทั้งนั้น ชวนให้คนเต้น Cover หรือ ลิปซิ้งค์ตามตั้งแต่เพลง พักก่อนของ Milli / เพลงมะล่องก่องแก่ง / ฝนเทลงมา / กอดเสาเถียง และอื่นๆ ค่ะ

ทั้งหมดนี้ก็คือ 10 อันดับ Search Trends 2020 การค้นหาของคนไทยในปี 2020 ที่ผ่านมา และ 10 อันดับจากแต่ละ Category ด้วย หลายๆ อย่างทำให้เราเห็นถึงพฤติกรรมใหม่ๆ ของคนไทย เพราะสื่อไปให้เห็นการเปลี่ยนแปลงและเทรนด์ใหม่จริงๆ ที่เกิดขึ้น อย่างเพลงที่ไปดังใน TikTok หรือพฤติกรรม New Normal ที่คนเริ่มพยายามทำด้วยตัวเอง ตั้งแต่เข้าครัวทำอาหาร ไปจนถึงการตัดผมค่ะ 

ปี 2020 นี้ถือว่าเป็นปีที่โหดร้ายสำหรับพวกเราทุกคน เพลินและการตลาดวันละตอนเองก็อยากที่จะขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าของธุรกิจและนักการตลาดทุกคนที่พยายามขาย พยายามดันธุรกิจ แบรนด์ของตัวเองให้อยู่รอด และรอช่วงวิกฤตหมดไปค่ะ สำหรับคนที่สนใจอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดช่วงโควิด-19 เพิ่มคลิกตรงนี้ได้เลยนะคะ

Full Report จาก Google: https://trends.google.com/trends/yis/2020/TH/

Plearn Wisetwongchai

Marketing Strategic Planner ในเครือการตลาดวันละตอน | A Creator สาวพลัสไซส์ @Fabfatkid | A Travel Lover ที่หมดเงินเกือบ 80% ไปกับการเดินทางแบบแมสๆ | An Instagrammer @theplearn ที่ชอบเล่น Story เป็นชีวิตจิตใจ | สุดท้ายคือ Data Researcher ทั้ง Social และ Search Data etc. ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ใช้ Social Listening บ้างไม่ ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถาม ว่าปกติใช้ Social Listening บ้างหรือไม่ แล้วถ้าใช้ ใช้ตัวไหนอยู่