สรุป LINE Insight จากงาน LCT23 คนไทยมี Group Chat แบบไหนบ้าง และอัปเดตใหม่ ๆ เพียบ

สรุป LINE Insight จากงาน LCT23 คนไทยมี Group Chat แบบไหนบ้าง และอัปเดตใหม่ ๆ เพียบ

หลังจากผ่านพ้นสถานการณ์ Covid-19 มา ถือเป็นครั้งแรกของ LINE ประเทศไทย กับการจัดงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีครั้งใหญ่อย่าง LINE Conference Thailand 2023 หรือ LCT23 ที่จะมาเปิดเผย LINE Insight ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการนำไปต่อยอดธุรกิจของทุกคนได้ พร้อมเปิดตัว LINE Sticker Premium ทั้งรายเดือนและรายปี บอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ รวมไปถึงประกาศ Roadmap ก้าวต่อไปของการพัฒนาด้านเทคโนโลยี สู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย”

LINE Insight เผยคนไทยใช้ ‘Group Chat’ เติบโตกว่า 56%

พูดถึงการใช้ไลน์ จะขาด Group Chat ไปก็คงจะไม่ได้ ผู้เขียนเองก็มีเกือบร้อยกรุ๊ปเลยค่ะ เป็นฟีเจอร์จำเป็นที่ได้ใช้ทุกวัน ไม่ว่าจะกลุ่มครอบครัว กลุ่มเพื่อน กลุ่มงาน ก็ติดต่อสื่อสารกันผ่านไลน์เป็นหลัก เพราะความสะดวกและเป็นสิ่งเชื่อมต่อที่ทำให้คนเรารู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นแม้จะไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน

ภายในงาน นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ก็ได้เผยถึงบริการพื้นฐานอย่าง ‘แชท’ ที่เป็นจุดแข็งของ LINE ซึ่งยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ‘Group Chat’ นี่ล่ะค่ะ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนไทย 

สะท้อนจากสถิติการเติบโตที่สูงขึ้นกว่า 56% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และอัตราการส่งข้อความประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • รูปภาพ เพิ่มขึ้นมากที่สุด 68%
  • ไฟล์ 67%
  • เสียง 33%
  • วิดีโอ 21% มีอัตราการเติบโตสูงกว่าประเทศอื่นทั่วโลก 

โดยผลสำรวจจาก LINE ประเทศไทยพบว่า หมวดหมู่ Group Chat ยอดนิยม ได้แก่ กลุ่มเพื่อน 82% ครอบครัว 80% ที่ทำงาน 77% และโรงเรียน 27% สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของกลุ่มผู้ใช้และวิธีการใช้งาน 

ซึ่งผู้ใช้กว่า 77% ระบุว่า กลุ่มแชทครอบครัว ช่วยให้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างช่วงวัยมากขึ้น ในขณะเดียวกัน Group Chat ยังสามารถช่วยให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายขึ้น 

ซึ่ง LINE Group ในบางครั้งแน่นอนว่าทุกคนน่าจะเคยเจอกับปัญหา ‘ไฟล์หมดอายุ’ ซึ่ง LINE ก็กำลังพยายามจะ Integrate Tool and Service เข้ามาเพื่อช่วยแก้ไข เช่น ให้จัดเก็บไฟล์ถาวรได้ เป็นต้น

ส่งผลให้เกิดสังคมการทำงานที่มีประสิทธิภาพกว่าในอดีต นำมาสู่ความมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ Work Group สำหรับคนไทย เพื่อสร้าง Balance ระหว่างการทำงาน การใช้ชีวิต และครอบครัวไปด้วยกันได้

Chat Platform เบอร์ 1 ในประเทศไทย กับความตั้งใจที่จะ ‘Closing the Distance’

และแน่นอนว่าทุกวันนี้ในโทรศัพท์ของทุก ๆ คน คงมีแอปพลิเคชันอย่าง LINE ติดเครื่องกันอยู่อย่างแน่นอน เพราะช่วยให้เราใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกมากยิ่งขึ้นจริง ๆ ติดต่อสื่อสารกันง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก โดย ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย ได้เล่าถึงว่า กว่า 12 ปีที่ผ่านมา LINE ประเทศไทยได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน ภายใต้พันธกิจ “Closing the Distance” เริ่มต้นจากความตั้งใจที่ว่าทำยังไงให้คนเราสื่อสารกันได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

จนมาถึงในปัจจุบันความตั้งใจของ LINE คือการลดระยะห่างระหว่าง User, Information และ Service โดยนำเทคโนโลยีของ LINE มาใช้เพื่อตอบโจทย์ในชีวิตประจำวันของทุก ๆ คน ให้ธุรกิจได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้ ตั้งใจจะทำให้การใช้ชีวิตของผู้คนนั้นง่ายและสะดวกขึ้น

และพอเกิดสถานการณ์ Covid-19 ก็เหมือนเป็นตัวที่มาเร่งให้เห็นพฤติกรรมว่าคนอยู่บนออนไลน์กันมากขึ้น มีการใช้ LINE ในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น อย่างเช่นหน่วยงานภาครัฐ ก็ยังใช้ LINE Official ในการนำมาให้บริการประชาชนในช่วง Covid ซึ่งเทคโนโลยีและฟีเจอร์ของ LINE เข้ามาช่วยในการจัดการให้คนสะดวกขึ้นกว่าเดิม

เรียกได้ว่า LINE โตขึ้นจาก 44 ล้านคนในปี 2019 สู่ 54 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งเรียกได้ว่าเกิน 90 กว่าเปอร์เซนต์ของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย ซึ่งการมีผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น แน่นอนว่าเท่ากับผลิต Data มากขึ้น แม่นยำมากขึ้น นำไปสู่โอกาสทางธุรกิจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ต่อยอดในธุรกิจต่าง ๆ ได้

พร้อมเปิดตัว LINE STICKERS PREMIUM แบบ Subscription Model

นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว LINE STICKERS PREMIUM บริการสติกเกอร์จ่ายรายเดือน/รายปี สำหรับคนไทย เหมาะกับสายชอบส่งสติ๊กเกอร์แทนอารมณ์ความรู้สึกสุด ๆ

Subscription Model กลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเลือกใช้งานชุดสติกเกอร์ได้หลากหลายและคุ้มค่า ถือเป็นส่วนหนึ่งในทิศทางการพัฒนาจุดแข็งของแพลตฟอร์ม LINE ด้านการสื่อสารดิจิทัลให้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

อีกทั้งการตั้งราคา จากปกติสติกเกอร์ชุดนึงราคา 65 บาท เพิ่มอีกแค่ 4 บาท เป็น 69 บาท ก็จะได้ใช้เป็นรายเดือนแล้ว โดยสามารถเข้าถึงสติกเกอร์ได้กว่า 9,000,000 สติกเกอร์ (ที่ Creator อนุญาตให้ขายในไทย) เพียงส่วนต่างของราคาที่เล็กน้อยแบบนี้ จะยิ่งช่วย Drive คนได้มาก อีกทั้ง Creator ที่มีอยู่มากมายในแพลตฟอร์ม ก็จะถูกค้นพบมากขึ้นอีกด้วย

โดยการทำ LINE STICKERS PREMIUM นี้ LINE ต้องการ Maintain Revenue ให้มีความ Stable ขึ้น และอยากที่จะสนับสนุน Creator เก่ง ๆ ที่มีอยู่มากมายในแพลตฟอร์ม พร้อมสร้างโอกาสการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ให้คนใช้ Sticker กันเหมือนเดิม แต่ใช้ได้สนุกและบ่อยขึ้นนั่นเอง

เปิดวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีแห่งปีครั้งแรก ของ LINE ประเทศไทย ผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ

นายวีระ เกษตรสิน รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ (CPO) กล่าวว่า LINE ประเทศไทย เล็งเห็นความสำคัญในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่องในฐานะองค์กรเทคฯ เพื่อคนไทย โดยในช่วง 5 ปีจากนี้ LINE จะมุ่งสู่การเป็น “แพลตฟอร์มเปิด” 

เปิดในที่นี้คือ พร้อมเปิดรับการเชื่อมต่อกับหลากหลายเทคโนโลยีนำสมัย นำมาซึ่งผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทย ทั้งในด้านผู้ใช้งาน ธุรกิจ และพันธมิตร

โดยอาศัยแนวคิดตั้งต้นจากทีมงาน LINE ประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำหรับตลาดไทยโดยเฉพาะ ผ่าน 4 กลยุทธ์​สำคัญ ได้แก่

1. Extensive Plug-Ins

เปิดการเชื่อมต่อกับระบบหรือโซลูชั่นอื่น ๆ อย่างหลากหลาย ทั้งโซลูชั่นที่คิดค้นเพิ่มเติมโดย LINE เอง และระบบที่พาร์ทเนอร์หรือนักพัฒนาทั่วไปได้พัฒนาขึ้นมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ชาวไทยในมิติที่กว้างและลึกขึ้น

2. Data Utilization 

ส่งเสริมให้พันธมิตรและนักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพอย่างไร้รอยต่อ นำไปสู่การใช้ข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตได้อย่างแท้จริง

3. Performance Marketing 

เพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดบนแพลตฟอร์ม ด้วยศักยภาพการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลที่แข็งแกร่งขึ้น สร้างการเติบโตให้ภาคธุรกิจผ่านโซลูชั่นต่าง ๆ ของ LINE ได้อย่างยั่งยืน

4. Privacy Focused 

คงไว้ซึ่งการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้อย่างเคร่งครัด

ปู 3 Roadmap ยกระดับเทคโนโลยี 

1. Customer Data Tools 

เพิ่มขีดความสามารถในจัดการข้อมูลลูกค้าผ่านเครื่องมือ MyCustomer ในการเก็บรวบรวม 1st Party Data ของผู้บริโภค โดยให้อำนาจร้านค้าในการเข้าถึงและจัดการข้อมูลได้มากกว่าที่เคย แต่อยู่ภายใต้ขอบเขตการยินยอมจากผู้บริโภคตามกฎหมาย 

โดยมีแผนการเปิดตัว MyCustomer สำหรับกลุ่มธุรกิจรายย่อย (SME) และในอนาคต สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อการทำ CRM โดยเฉพาะ

2. Ads Improvement 

ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับการโฆษณาบน LINE ให้สามารถวิเคราะห์ ประยุกต์ใช้ข้อมูลที่แบรนด์ได้มาเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

เช่น การเพิ่ม Segment ในการหากลุ่มเป้าหมายผ่าน Persona Targeting ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น และการเปิดให้ภาคธุรกิจ ร้านค้า สามารถนำข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคบน LINE SHOPPING มาวิเคราะห์แบ่งกลุ่ม เพื่อการยิงโฆษณาผ่าน LINE ADS ได้แม่นยำและครอบคลุมขึ้นกว่าเดิม เป็นต้น

3. API & Plug-In 

เปิดขยายการเชื่อมต่อ API ให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์เฉพาะด้านได้อย่างครอบคลุมขึ้น เช่น LINE SHOPPING API, Messaging API 

รวมถึงแผนการเปิดตัว LINE OA Plus Plug-in Store แหล่งรวมโซลูชั่นสำหรับนักพัฒนานอกองค์กร LINE ในการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ ๆ และยังเป็นโอกาสสำหรับภาคธุรกิจไทย ในการมองหาโซลูชั่นให้ตรงกับความต้องการ

LINE ไม่หยุดพัฒนา พร้อมก้าวสู่การเป็นแพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ LINE Insight จาก LINE ประเทศไทย ตัวอย่างธุรกิจที่ไม่เคยหยุดมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชั่นและบริการต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้นอยู่เสมอ ศึกษาเก็บข้อมูลพฤติกรรมมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของคนไทย อีกทั้งยังพร้อมเปิดกว้างให้นักพัฒนาทั้งในและนอกองค์กรได้มีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มเปิดแห่งนี้ มาขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตผู้คนด้วยเทคโนโลยีที่ไร้ขีดจำกัด สำหรับวันนี้ใครที่อ่านแล้วได้รู้ Insight ดี ๆ จาก LINE สามารถนำไปประยุกต์ต่อยอดกับธุรกิจตัวเองกันได้นะคะ ส่วนผู้เขียนขอตัวไปสับตะไคร้ไลน์สติ๊กเกอร์พรีเมียมก่อนค่า คุ้มมากกก

อ่านบทความเกี่ยวกับ LINE เพิ่มเติมได้ ที่นี่ และสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram TwitterYoutube และ Blockdit ได้เลยค่า

Fern Panassaya

เฟิร์น Junior Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *