ทำอย่างไรดี? อยากเจาะเทรนด์การออกกำลังกายให้ได้ลึกถึง Customer Insight
เทรนด์ที่แมสอย่างการออกกำลังกาย เจาะยังไงให้ลึกถึง Customer Insight ดีล่ะ? วันนี้นุ่นนำข้อมูลดี ๆ จาก Brandwatch มาแชร์ให้นักการตลาดกันค่ะ
วิธีที่นักการตลาดพยายามเรียนรู้กลุ่มเป้าหมายมีหลากหลาย หนึ่งในวิธีที่คุยกันด้วยข้อมูลก็คือกวาด Social Data ด้วย Social Listening ในบทความนี้เราจะมาศึกษาตัวอย่างการเจาะ Insight คนที่ออกกำลังกายว่ามีพฤติกรรมอย่างไร และมีประเด็นไหนที่นักการตลาดสามารถนำมาต่อยอดเป็นกลยุทธ์การตลาดให้ตรงใจลูกค้าได้บ้าง ต้องบอกก่อนว่านี่เป็นข้อมูลในบทความนี้มาจากประชากรต่างประเทศ ไม่ใช่ประเทศไทยนะคะ
โดยรายละเอียดของข้อมูลมีดังนี้ค่ะ
- พฤติกรรมการเข้ายิม / หรือฟิตเนส
- ผู้คนมักออกกำลังกายโดยเน้นส่วนไหนของร่างกาย
- คนทั่วไปชอบออกกำลังกายวันไหนมากที่สุด
นี่คือคำถามทั่วไปที่นักการตลาดมักตั้งขึ้นต่อจากการได้รับโจทย์ กลุ่มเป้าหมาย เพื่อหาคำตอบนั้น เราสามารถใช้ Social Data เป็นข้อมูลอ้างอิงสู่ขั้นตอนต่อไปได้ มาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
#1 เกี่ยวกับการเข้ายิม หรือ ฟิตเนส
การระบาดของโควิด-19 ทำให้ยิมหรือฟิตเนสเป็นหนึ่งในกิจการที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เพราะลักษณะการใช้งานของเครื่องออกกำลังกายเป็นแบบใช้ร่วมกัน ทั้งยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการติดไวรัสได้ หลายคนที่เป็นสายออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและอื่น ๆ ก็ไม่ยอมแพ้ ยังพยายามออกกำลังกายที่บ้านให้ได้เหมือนกับการไปยิม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อลู่วิ่ง ที่ยกน้ำหนัก จักรยานไฟฟ้า
กราฟแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของชาวสหรัฐอเมริกาในการเสิร์ชบน Google จากคำว่า gyms near me เพราะปลายปี 2020 บางรัฐมีการ Lockdown ระหว่างรอฉีดวัคซีนอยู่ เลยทำให้การค้นหายิมดิ่งลง แต่ตั้งต้นปี 2021 ก็กลับมามีระดับการเสิร์ชสูงขึ้น อาจจะเพราะห่างหายจากการออกกำลังในยิมเป็นเวลานาน และเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติได้แล้วช่วงเกือบกลางปี 2021 ที่ผ่านมา
เมื่อเห็นเทรนด์โดยรวมแล้วว่าผู้คนกำลังกลับมาให้ความสนใจการออกกำลังกาย ในขั้นถัดไปเราจะเพิ่มระดับความลึกของ Data ว่า ส่วนไหนของร่างกาย ที่คนมักจะกล่าวถึงและเน้นมากที่สุด
#2 ออกกำลังกายเน้นส่วนไหนของร่างกาย
อย่างนุ่นเอง ยังออกกำลังกายได้แค่วันละ 1 ส่วนเลยค่ะ แนวคิดที่ว่าวันนี้ออกแค่ขา พรุ่งนี้จะออกแขน เทรนด์จะออกมาเป็นยังไงบ้าง ซึ่ง Data นี้ใช้การวิจัยผู้บริโภคของ Brandwatch จาก Twitter และ Forum Mention ที่มีชื่อวันอยู่ด้วย :
- Ab day
- Arm day
- Back day
- Chest day
- Leg day
- Rest day
- Shoulder day
กราฟแสดงจำนวนการ Mention วันออกกำลังกายของแต่ละส่วนร่างกาย และวันที่พักผ่อน โดยข้อมูลจะไม่นับรวมจำนวน Retweet ค่ะ จากปี 2017 ถึงปี 2018 ตัวเลขลดลงค่อนข้างคงที่เลย แต่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึงปี 2019 และในปี 2020 กราฟก็ค่อย ๆ ทะยานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
Data นี้สามารถวิเคราะห์ได้เบื้องต้นว่าผู้คนจำนวนมากพยายามทำตัวให้ฟิตตลอดเวลา แม้ว่าจะเป็นในช่วงโรคระบาด ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ยิ่งนั่งนานก็ยิ่งอืด บางคนก็เต้น Tiktok บางคนก็ออกกำลังกายจริงจังด้วยตัวเอง
ดูเหมือน ‘ขา’ จะเป็นส่วนที่เน้นออกกำลังกายมากที่สุด เป็นอันดับ 1 ช่วงขาสามารถออกได้ง่ายผ่านการเดิน-วิ่งบนลู่ ขยับเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือแม้แต่การเต้นก็ย่อมต้องได้ขยับขา
อันดับ 2 Rest day หรือ ‘วันพักผ่อน’ ที่ไม่น่าแปลกใจที่ติดอันดับสูง วันพักมีความสำคัญพอ ๆ กับวันออกกำลังกาย ช่วยให้ทำให้ร่างกายได้มีเวลาพักฟื้น หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ การอักเสบของกล้ามเนื้อ
อันดับที่ 3 Back day นุ่นค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ได้มีแต่คนไทยที่ปวดหลังแน่ ๆ การพยายามบริหารหลังด้วยยืดเส้นยืดสาย เพราะการ Work From Home และต้องนั่งเป็นเวลานาน ๆ มันยิ่งปวด ถือเป็นเรื่องดีที่คนให้ความสนใจกำส่วนหลัง อย่าปล่อยให้เป็นถึงขั้นออฟฟิศซินโดรมเลยนะคะ นอกจากนี้ยังมีอันดับอื่น ๆ ตั้งแต่แขน กล้ามอก ไหล่ หน้าท้อง ไล่มาตามลำดับ
#3 คนทั่วไปชอบออกกำลังกายวันไหนมากที่สุด
Data เลเยอร์ถัดมาเรามาดูกันว่า การออกกำลังกายแต่ละส่วนถูกพูดถึงในวันไหนของสัปดาห์ เพื่อที่จะได้วางตารางคอนเทนต์ตรงใจ
นอกจาก ‘ขา’ จะเป็นส่วนที่เน้นออกกำลังกายมากที่สุดแล้ว ข้อมูลยังบอกอีกว่าวันพุธเป็นวันยอดนิยมสุด ๆ อาจจะเป็นเพราะกลางอาทิตย์เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าจากงาน หรือไม่ใช่วันที่ต้นอาทิตย์ ปิดอาทิตย์ที่ยุ่งมากจนหลายคนไม่มีเวลาออกกำลังกาย รวมทั้งยังเลือกที่จะพักผ่อนในวันอาทิตย์ หลังผ่านสมรภูมิมาทั้งสัปดาห์
และนี้คือตัวอย่างหา Customer Insight จาก Social Dataที่นุ่นนำมาฝากนักการตลาดในวันนี้ค่ะ สังเกตว่าจะเริ่มจากการตั้งคำถามเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายก็ได้ เพื่อให้นำไปสู่การไล่ระดับความลึกซึ้งของ Data จนกว่าจะได้คำตอบแก่แบรนด์
ปัจจุบันมีแบรนด์ที่ใช้ Social Listening ช่วยกวาด Social Data เพื่อขุดหา Customer Insight แล้วหลายเจ้า นุ่นหวังว่าบทความในวันน้ีจะสามารถเป็นแนวทางในการใช้ Social Listening ให้นักการตลาดได้นะคะ
แล้วอย่าลืมติดตามเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ
source : https://www.brandwatch.com/