สรุป App Trends ส่งท้ายปี 2021 รับ 2022 ประเทศไทยและ APAC จาก Adjust
สรุป App Trends 2021 รายงานเทรนด์การใช้แอปของคนไทยและ APAC ตลอดปีที่ผ่านมาเพื่อเตรียมพร้อมรับปรับกลยุทธ์ Mobile App Strategy 2022 กันว่าเราจะต้องทำการตลาดอย่างไรเพื่อให้มีคนหันมาใช้งานแอปเราเยอะๆ ครับ
เราจะเห็นได้ว่าในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมานั้นทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์ของโรคระบาดและการล็อกดาวน์ ทำให้คนต้องหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีในการอำนวยความสะดวก และติดต่อสื่อสารกันในชีวิตประจำวันมากขึ้น ทั้งในเรื่องการศึกษา การทำงาน การช้อปปิ้ง การสั่งอาหาร หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งรวมความบันเทิง จนทำให้สถิติการใช้โทรศัพท์ รวมถึงตัวเลขการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนั้นพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน
วันนี้แบมจะมาเจาะลึกกันในเรื่องของข้อมูลต่างๆ รวมถึงข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมแอปพลิเคชันจาก Report สรุปเทรนด์แอปฯ บนมือถือปี 2021 สำหรับตลาด APAC ของบริษัท Adjust [สามารถดาวโหลด e-book ฉบับเต็มได้ที่นี่] ที่ได้ข้อมูลมาจากแอปชันนําของ Adjust ซึ่งมีฐานอยูใน APAC และชุดข้อมูลทั้งหมดจากทุกๆ แอปที่ติดตามโดย Adjust ซึ่งเป็นข้อมูลที่มาจากประเทศอินเดีย, อินโดนิเซีย, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, เมียนมาร์, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ไทย และเวียดนาม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 – 31 กรกฏาคม 2021
โดยพุ่งเป้าไปในกลุ่มฟินเทค, อีคอมเมิร์ช และเกมมิ่ง เป็นหลัก เพื่อให้นักการตลาดสามารถเข้าใจเทรนด์ของผู้ใช้งาน และนำไปวางแผนการตลาดต่อได้ง่ายขึ้น
เทรนด์และแนวโน้มการเติบโตของแอปพลิเคชันในภูมิภาค APAC
สำหรับแนวโน้มการเติบโตในปี 2020 จากทั่วโลกนั้นเรียกได้ว่าไม่มีใครสู้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ APAC ได้เลย โดยผลสำรวจจาก business of apps พบว่า 64% ของการดาวน์โหลดแอปมือถือทั่วโลกนั้นอยู่ในภูมิภาค APAC และ 60% ของรายได้จากเกมบนมือถือก็มาจากฝั่ง APAC ด้วยเช่นกัน เมื่อตัวเลขออกมาเป็นเอกฉันท์อย่างนี้ ทำให้มีการคาดการกันว่าการเติบโตของตลาดแอปพลิเคชันมือถือในช่วงตั้งแต่ปี 2020 ไปจนถึงปี 2024 นั้นจะมาจากภูมิภาค APAC ถึง 45% เลยทีเดียว
และถ้าหากลองมาเจาะดูตาม 3 กลุ่มหลักที่เราบอกไว้จะพบว่า
กลุ่มฟินเทค
ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา แม้จะต้องเจอกับวิกฤติโรคระบาด แต่ธุรกิจในกลุ่มฟินเทคก็ยังสามารถดึงเม็ดเงินจากการเจรจาทางธุรกิจได้ถึง 11,600 ล้านดอลลาร์ เลยทีเดียว
กลุ่มเกมมิ่ง
และก็ด้วยผลพวงจากวิกฤติ Covid-19 อีกนั่นแหละที่ทำให้ในปี 2021 นั้นมีจำนวนเหล่าเกมเมอร์มือถือหน้าใหม่ในฝั่ง APAC เพิ่มขึ้นถึง 250 ล้านราย
กลุ่มอีคอมเมิร์ช
ส่วนการขายในฝั่งของอีคอมเมิร์ชนั้นก็ได้มีการคาดการณ์กันว่าจะสามารถเติบโตได้อีกเกือบเท่าตัว และมีมูลค่าถึงสองล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เนื่องจากแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคที่นิยมซื้อของออนไลน์ เพื่อรักษาระยะห่าง และป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อ
การติดต้ัง ในแต่ละประเทศ vs ประเภทธุรกิจ
เราลองมาดูข้อมูลในการติดตั้งแอป หรือ Install App กันบ้างนะคะ ถ้าดูจากภาพรวมในทุกธุรกิจในทุกประเทศ จะเห็นว่าการ Install App ในปี 2020 เพิ่มขึ้นจากปี 2010 ถึง 31% แล้วถ้าดูจากกราฟก็จะสังเกตได้ว่าความเติบโตนี้มีขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวไปถึงปี 2021 โดยมีการเติบโตแบบพุ่งพรวดขึ้นมาในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 หรือช่วงเฟดแรกๆ ของการล็อกดาวน์นั่นเองค่ะ
ซึ่งในส่วนของภูมิภาค APAC นั้นมียอดการ Install App ที่เรียกได้ว่านำโด่งจากประเทศอื่นๆ ไปหลายช่วงตัว ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของมือถือใน APAC นันแข็งแกร่งขนาดไหน
ในขณะที่การเติบโตในหลายๆ ตลาดเริ่มชะลอตัวในปี 2021 (เทียบกับการล็อกดาวน์ช่วงแรก และผลการติดตั้งในปี 2020) สิงคโปร์และเวียดนามมีการเติบโตที่น่าประทับใจอย่างมากในปี 2021 โดยโตขึ้นถึง 49% และ 43% ในปีนี้
เมือแบ่งการเติบโตของการ Install App ในภูมิภาค APAC ตามประเภทธุรกิจ เราจะพบว่าฟินเทค, อีคอมเมิร์ช, เกมทังแนวไฮเปอร์แคชชวลและไม่ใ ช่แนวไฮเปอร์แคชชวล ก็ล้วนแล้วแต่สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นในปี 2020 และยังคงทําได้ดีต่อเนื่องในปี 2021
โดยเกมแนวไฮเปอร์แคชชวลเติบโตมากที่สุดในทั้งสองช่วงเวลา คือ 66% และ 49% ตามมาด้วยฟินเทคที่ 36% และ 18% ตามมาด้วยอีคอมเมิร์ช 27% และ 8% ส่วนเกมที่ไม่ใช่แนวไฮเปอร์แคชชวลถึงแม้จะรั้งท้าย แต่ก็ยังมีผลงานที่ดีอยู่ที่ 23% และ 4% ตามลำดับ
ฟินเทค
งานนี้ฟินเทคได้ฟินสมชื่อ สืบเนื่องมาจากการที่ไม่ว่าใครก็ต่างหันมาใช้บริการธุรกรรมธนาคาร รวมทั้งการชําระเงินผ่านมือถือเพื่อลดการสัมผัสกันทั้งนั้น ทําให้แอปฟินเทคมีการติดตั้งเพิ่มขึ้นถึง 36% ในปี 2020
โดยมีไทยและเวียดนามเป็นสองผู้นําที่มีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยไทยนั้นเพิ่มขึ้นถึง 100% และเวียดนาม 97% ตามมาด้วยสิงคโปร์ที 72%
อีคอมเมิร์ซ
มาดูกันที่การติดตั้งของอีคอมเมิร์ซกันบ้าง ผลออกมาว่าทั้งญีปุ่นและเกาหลีใต้ต่างก็ทําผลงานได้น่าประทับใจมากทีสุดในภูมิภาคนี้ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2020 ของทั้งภูมิภาค APAC อยูที่ 27% เมื่อเทียบกับปี 2019 และที่ 8% จาก 2020 ถึงครึ่งแรกของปี 2021 แต่ญี่ปุ่นเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยอยู่นิหน่อยที 31% และ 9%
ในขณะที่เกาหลีใต้มาเหนือเมฆในปี 2020 ที่ 45% และเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2021 โดยเพิ่มขึ้น 2% ในครึ่งป
เกม
ในปี 2020 เกมทั้งแนวไฮเปอร์แคชชวลและแบบที่ไม่ใช่ไฮเปอร์แคชชวลต่างก็โตขึ้นจากเมื่อปี 2019 และยังมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง
ส่วนตลาดเกมมิ่งที่ยืนหนึ่งในปี 2020 คือเวียดนาม ที่มีอัตราการโตพุ่งขึ้นจากปี 2019 ถึง 37% ตามมาด้วยอินโดนิเซีย 34% และอินเดีย 33% ในปี 2021 นี้ ผู้นําในธุรกิจเกมมิ่งนี้ ได้แก่ สิงคโปร์ 80% เวียดนาม 51% และญีปุ่น 41%
มาดูในฝั่งเกมไฮเปอร์แคชชวล หรือเกมที่เล่นง่ายๆ มีกลไก หรือวิธีการเล่นที่ไม่ซับซ้อน และมีลูปของเกมที่สั้นกันบ้างว่าตลาดฝั่งนี้นั้นมีการเติบโตไปในทิศทางใดบ้าง
สำหรับตลาดเกมประเภทนี้นั้นกลับมีความแตกต่างจากฝั่งแคชชวลเล็กน้อยคือในปี 2020 สิงคโปร์นั้นมีอัตราการโตที่สุด ถึง 112% ตามมาด้วยอินโดนิเซีย 101% และไทย 74%
แต่มาในปี 2021 นี้ประเทศที่มีการโตมากที่สุดกลายเป็นอินโดนิเซีย 64% ตามมาด้วยอินเดีย 61%และไทย 56%
Paid vs. Organic
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 นั้นมีส่วนแบ่งของการติดตั้งแอปฯ ชําระเงินสูงที่สุด (0.24) มากกว่าไตรมาสไหนๆ
ในปี 2020 – เมื่อเรามาดูตัวเลขทั้งปี 2020 มาเทียบกัน จะเห็นว่าตัวเลขที่สูงที่สุดจะในอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 4 โดยเกมแนวไฮเปอร์แคชชวลที่มีอัตราส่วนการชําระเงิน และออร์แกนิกสูงที่สุดในอัตราส่วนที่ 2.93
สำหรับอัตราการชําาระเงิน/ออร์แกนิกใน APAC นั้นถือว่าต่ำกว่าทั่วโลกค่อนข้างมาก (แม้ว่าความแตกต่างระหว่างประเภทธุรกิจจะมีความคล้ายกัน) โดยช่ว งที่สูงที่สุดในปี 2020 จะอยู่ที่ 0.45 ขณะที่การชอปปิงขึนไปสูงสุดที่ 0.85
ส่วนแบ่ง ของ Reattribution
ในปี2020 นั้นภาพรวมของจำนวน Reattribution จากทุกๆ การติดตั้งมีอัตรส่วนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกไตรมาสของปี2020 โดยเริ่มที่0.049 ก่อนจะไปจบท่ี 0.06 ในไตรมาสท่ี 4 ส่วนปี 2021 ในไตรมาสแรกของปีจะอยู่ท่ี 0.058 ซึ่งเท่ากันกับไตรมาสท่ี 3 ของปี 2020
ซึ่งอัตราส่วนของการ Reattribution ในภูมิภาค APAC นั้นถือได้ว่าตำกว่าค่าเฉลี่ยจากท่ัวโลกที่จะมีสัดส่วนอยู่ที่ระหว่าง 0.06 และ 0.077
แต่ถ้าหากเรามองไปท่ีประเภทธุรกิจประเภทอีคอมเมิร์ชและธนาคาร จะเห็นได้ว่ามีจํานวนการ Reattribution ที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ ในขณะท่ีเกมแนวไฮเปอร์แคชชวลคือกลุ่มท่ีมีการ Reattribution ต่ำท่ีสุด
Sessions and in-app patterns
เรามาดูในส่วนภาพรวมของเซสชันในภูมิภาค APAC กันบ้าง บอกเลยค่ะว่าสัดส่วนพุ่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึง 54% ซึ่งก็เป็นผลพวงมากจากช่วงล็อกดาวน์ที่ผู้คนใช้มือถือกันมากขึ้น
มาในปี 2021 ก็ถือว่ายังไม้ได้เติบโตเปรี้ยงปร้างเท่าไหร่นัก เพราะ ณ เวลาที่เก็บข้อมูลนั้นมีสัดส่วนสูงกว่าค่าเฉลี่ยในปี 2020 อยู่แค่ 1% เอง แต่ก็ไม่แย่ค่ะ ถือว่ายังคงไปได้เรื่อยๆ
จริงๆ แล้วถ้าดูตามกราฟจะเห็นว่าในสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤษภาคมนั้นถือได้ว่าเป็นสัปดาห์ที่มีผลงานสูงสุดที่เคยมีมาของเซสชันในภูมิภาค APAC เลย
การเติบโตของเซสชันในประเทศต่างๆ
ลองเจาะลงมาดูให้ลึกขึ้นถึงการเติบโตของเซกชันในประเทศต่างๆ กันบ้าง จริงๆ แล้วการเติบโตของเซสชันในมุมนี้ตัวเลขอาจจะไม่ได้น่าประทับใจเท่าการเติบโตของการติดตั้งเท่าไหร่นัก ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดีกว่าตอนช่วงเริ่มต้นก็ตาม
มาดูที่ในญี่ป่นกันก่อน ช่วงปี 2020 นั้น
เซสชันเติบโตอย่างรวดเร็วจากปี 2019 (101%) และยังคงเดินหน้าโตอย่างต่อเนื่องในปี 2021 โดยล่าสุดไปแตะที่ 16% แล้ว
ส่วนทางเกาหลีใต้ในปี 2021 ก็โตขึ้น 19% ซึ่งมากกว่าปี 2020 ที่โตเพียง 14%
ในขณะที่ในปี 2020 ประเทศสิงคโปร์นั้นโตเพียง 1% และกลับมาเร่งเครื่องเครื่องแรงแตะ 34% ในปีนี้
สำหรับเวียดนามเรียกได้ว่าเป็นประเทศเดียวในปี 2020 ที่นอกจากจะไม่โตแล้วยังลดลงถึง 9% เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราได้ก็เห็นตัวเลขที่การติดตั้งของเวียดนามที่ตรงกันข้ามกับปีที่แล้วโดยมีการเพิ่มขึ้น 12% ในปีนี้
การเติบโตของเซสชันในประเภทธุรกิจ
ดูการเติบโตของเซกชันแบบรายประเทศไปแล้ว เราลองมามองที่ประเภทธุรกิจต่างๆ กันบ้าง
ถ้าดูจากกราฟจะเห็นว่าธุรกิจประเภทฟินเทคและเกมแนวไฮเปอร์แคชชวลนั้นเรียกได้ว่าฮิตติดลมบนทีเดียวในปี 2020 โดยมีอัตราการโตถึง 110% และ 60% ตามลําดับ และยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง
โดยในปี 2021 นี้ ฟินเทคมีอัตราการโต 45% และไฮเปอร์แคชชวล 5%
ส่วนธุรกิจประเภทอีคอมเมิร์ชและเกมที่ไม่ใช่แนวไฮเปอร์แคชชวลก็ทําได้ดีในปี 2020 เช่น เดียวกัน
โดยในปีนี้เรื่องของเซสชันก็ยังคงไต่ระดับขึ้นได้เรื่อยๆ แบบแรงไม่ตก
ฟินเทค
ในปี 2020 ฟินเทคนั้นถือได้ว่ามีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในภูมิภาค APAC โดยเกาหลีใต้และญี่ปุ่นมีอัตราการเติบโต
สูงถึง 123% และ 104% ตามลําดับ แน่นอนว่าความสําเร็จนี้ยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปี 2021 ซึ่งพวกเขาก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตเรื่อยๆ ที่ 110% และ 43% ตามลําดับ
แต่ประเทศที่มาแรงแซงทางโค้งประจำภูมิภาค APAC ในปี 2021 นี้ ก็เห็นจะเป็นสิงคโปร์, เวียดนาม และอินโดนิเซีย ตามลำดับ
อีคอมเมิร์ซ
เช่นเดียวกันกับการติดตัง เซสชันสําหรับอีคอมเมิร์ซในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ใน APAC ก็มีผลงานที่ทําให้ยิ้มแก้มปริได้เช่นกัน โดยในญี่ปุ่นเซสชันนี้โตถึง 51% ในปี 2020 และในปี 2021 ก็โตไปแล้วกว่า 17%
ส่วนเกาหลีใต้มีอัตราการเติบโตอยู่ท่ี16% และ 5%
เกม
ส่วนทางฝั่งเกมมิ่งใน APAC เกมแนวไฮเปอร์แคชชวลนั้นถือได้ว่ามีช่วงเวลาที่หอมหวานในปี 2020 ในทุกๆ ตลาด โดยมีการเติบโตอย่างโดดเด่นเลยทีเดียว โดยสิงคโปร์และญี่ปุ่นนั้นมีการเติบโตถึง 108% และ 99% ส่วนอินโดนีเซียตามมาที่ 84% และไทยอยู่ที่ 52%
เมื่อเข้าสู่ปี 2021 ทุกตลาดยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยประเทศซึ่งโดดเด่นมาวินที่สุดในภูมิภาคนี้ก็คือไทย และสิงคโปร์ 21%
สำหรับฝั่งตลาดเกมมิ่งที่ไม่ใช่ไฮเปอร์แคชชวล ญี่ปุ่นและอินโดนีเซียคือสองผู้นําในตลาดในช่วงปี 2020 โดยเติบโตอยู่ที่ 42% และ 26% ตามลําดับ ซึ่งเป็ นการเทียบจากปี 2019
แต่มาในปี 2021 นี้ กลับกลายมาเป็นสิงคโปร์และเวียดนามที่ขึ้นแซงหน้ามีเซสชันเกมมิ่งที่ไม่ใช่แนวไฮเปอร์แคชชวลมากที่สุดไปซะอย่างนั้น
ความยาวเฉลี่ยของ Session
สำหรับระยะเวลาหรือความยาวของเซสชันโดยเฉลี่ยนั้นเพิ่มขึ้นจาก 23.78 นาที ในปี 2019 เป็น 24.24 นาที ในปี 202 แต่ในไตรมาสแรกของปี 2021 นั้นมีการลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 22.78 นาที
ถ้าหากเปรียบเทียบระยะเวลาเซสชันในภูมิภาค APAC กับค่าเฉลี่ยทั่วโลก จะเห็นได้ว่าระยะเวลาของผู้ใช้ในภูมิภาคนี้นั้นมีค่าเฉลี่ยที่นานกว่าทั่วโลกพอสมควร
Session ผู้ใช้งานต่อวัน
ไม่ใช่เพียงการติดตั้งและเซสชันที่เพิ่มขึ้นในปี 2020 เท่านั้น แต่ผู้ใช้งานเองก็มีการใช้งานด้านอื่นๆ มากขึ้นด้วย ทำให้การมีปฏิสัมพันธ์ในจํานวนเซสชันโดยเฉลียต่อวันมากขึ้นตลอดทั้งปี ไปแตะจุดสูงสุดในไตรมาสที่ 4
เซสชันของเกมมิ่งต่อผู้ใช้งานต่อวัน
ตัวเลขเกี่ยวกับเกมมิ่งกําลังเริ่มน่าสนใจ เพราะความแตกต่างระหว่างเกมที่ไม่ใช่แนวไฮเปอร์แคชชวลและไฮเปอร์แคชชวลนั้นยังคงเห็นได้ชัดเหมือนเดิม
เวลาท่ีใช้งานในแอปฯ
ถ้าเราลองเปรียบเทียบไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 กับไตรมาสแรกของปี 2021 เราจะเห็นว่าระยะเวลา in-app นั้นลดลงเล็กน้อย แต่จํานวนนาทีโดยเฉลี่ยยังคงสูงอยู่
ดังนั้นในปีนี้เราก็เลยคาดการณ์กันจากภาพรวมว่าสถานการณ์น่าจะคล้ายๆ กับปี 2020 ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตลอดทั้งปี และคิดว่าไตรมาสที 4 ของปี 2021 นั้นจะมีค่าเฉลี่ยที่สูงกว่าไตรมาส 4 ของปี 2020 ด้วย
Retention rates
ในส่วนอัตรา Retention ของภูมิภาค APAC นั้นยังมีความสม่ำเสมอตลอดปี 2020 แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมต่างๆ นั้นสามารถปรับตัวเข้ากับผู้ใช้งานจํานวนมากท่ีเข้ามาในช่วงล็อกดาวน์ได้ดี
เมื่อลองเจาะไตรมาสท่ี 4 เราจะเห็นถึงความแตกต่างระหว่างประเภทธุรกิจ โดย
Retention ของธรกิจฟินเทคน้ันสูงเอามากๆ ในขณะท่ีเกมแนวไฮเปอร์แคชชวล ท่ีเล่นง่ายๆ และเน้น Snowballing กลับไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย
โดยเกมท่ีไม่ใช่แนวไฮเปอร์แคชชวลมีผู้ใช้งานถึง 5.64% ในวันท่ี 30 แต่แนวไฮเปอร์แคชชวลมีเพียง 1.69% ของกลุ่มประชากร ส่วนฟินเทคยังคงรักษาอันดับไว้ได้ดีท่ี 7.14% และอีคอมเมิร์สนั้นมีอัตรา Retention อยู่ที่ 4.74%
พาร์ทเนอร์ในแอป
จํานวนของพาร์ทเนอร์ที่แอปทํางานด้วยนั้นจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเภทธุรกิจ และค่อนข้างจะสอดคล้องกัน
ในแต่ละไตรมาส เช่นเกมแนวไฮเปอร์แคชชวลและทีไม่ใช่แนวไฮเปอร์แคชชวลนั้นมักจะทํางานกับพาร์ทเนอร์ในจํานวนมากกว่าค่าเฉลี่ย โดยมากที่สุดอยู่ที่ 9 ราย ในขณะที่ฟินเทคนั้นจะทำงานกับพาร์ทเนอร์โดยประมาณแค่ 2 ราย เป็นต้น
ในทุกประเภทธุรกิจในภูมิภาค APAC นั้น ถือว่ามีการทําางานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในจํานวนทีน้อยกว่าค่าเฉลี่ยจากทั่วโลก
อยู่ประมาณหนึ่ง เช่น ฟินเทคใน APAC จะทํางานกับพาร์ทเนอร์ 2 ราย ส่วนฟินเทคทั่วโลกจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3 ราย เป็นต้น ซึ่งตัวเลขนี้มันก็สามารถบ่งบอกได้ถึงศักยภาพของแอปใน APAC ด้วย เพราะถ้าเราทํางานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในจํานวนที่มากขึ้น เราก็มีสิทธิที่จะหากลุ่มผู้ใช้งานหน้าใหม่ในอนาคตได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
สรุป 3 key take away
1.ปี 2021 ตลาดแอปมือถือยังคงโตอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงปี 2020 นั้นมีการติดตั้งแอปในฝั่ง APAC มากขึ้นกว่าปี 2019 ถึง 31% และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2021 จะเห็นได้ว่าตลาดแอปมือถือนี้ได้รับประโยชน์และมีผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ และยังสามารถดึงดูดผู้ใช้งานหน้าใหม่ให้เข้ามาได้เรื่อยๆ
2.ฟินเทคและไฮเปอร์แคชชวลเกม ยืนหนึ่งช่วยหนุนการเติบโต
สำหรับฟินเทคและเกมแนวไฮเปอร์แคชชวลนั้นมีส่วนช่วยในการคอยหนุนธุรกิจเกือบทุกประเภทในทุกประเทศให้เติบโตขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ และยังมีศักยภาพมากพอที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
3.Retention Rate ยังคงเส้นคงวา
แม้ช่วงที่ผ่านมาจะเจอผลกระทบจาก Covid-19 บ้าง แต่ Retention Rate ก็ยังคงอยู่ในอัตราที่คงเส้นคงวา โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 นั้นมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5.68%
และนี่ก็เป็นบทสรุปในหัวข้อสำคัญๆ ของเทรนด์แอปมือถือในปี 2021 แบบเน้นเฉพาะภูมิภาค APAC ที่แบมได้สรุปมาให้ ซึ่งการที่นักการตลาดจะสามารถประสบความสำเร็จในตลาดแอปพลิเชันได้นั้น นอกจากจะต้องทำความเข้าใจความแตกต่างของธุรกิจแล้ว ยังจำเป็นต้องวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ใช้งานอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแอปที่ได้รับความนิยม ความคาดหวังในการใช้งาน. การใช้จ่ายในแอป ในหนึ่งวันเขากลับเข้ามาในแอปบ่อยแค่ไหน กลับมาในช่วงเวลาไหน หรือแม้แต่เมื่อไหร่ที่เขาจะหยุดใช้งาน
การศึกษา Journey ของผู้ใช้งานอย่างละเอียด จะช่วยให้เราสามารถทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ด้วยนั่นเองค่ะ
ส่วนใครที่สนใจอยากได้ Full Report ของรายงาน App Trends 2021 ฉบับนี้เก็บไว้ไปอ่านเอง สามารถไป Download ไฟล์ PDF ได้ที่นี่เลยค่ะ >> Click
หรือถ้าใครสนใจเคสการตลาดเกี่ยวกับ Application ก็สามารถกดอ่านเพิ่มเดิมได้ที่นี่