10 Color Trends & Psychology 2023 รวมเทรนด์สีปีนี้และจิตวิทยาเบื้องหลัง

10 Color Trends & Psychology 2023 รวมเทรนด์สีปีนี้และจิตวิทยาเบื้องหลัง

10 Color Trends & Psychology 2023 รวมเทรนด์สีปีนี้และจิตวิทยาเบื้องหลังจาก Shutterstock

ในบทความนี้การตลาดวันละตอนตั้งใจมาแนะนำเทรนด์สี 2023 ที่จะมาทำให้งานพรีเซนต์ของคุณดูสมบูรณ์แบบมากกว่าที่เคย เพราะหลายๆ ครั้งที่เรานำเสนองานเรามักจะโฟกัสไปที่เนื้อหาในการนำเสนอ เพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้วองค์ประกอบอื่นๆในการนำเสนอก็เป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ซึ่งการจัดวางสีสันและองค์ประกอบต่างๆ ให้เหมาะสมนั้น จะยิ่งทำให้การนำเสนอของคุณดูน่าสนใจ สวยงาม สะดุดตา มากยิ่งขึ้น

แต่ปัญหาก็คือหลายคนยังมีปัญหาในการเลือกสีอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้สีที่หลากหลายจนทำให้งานนำเสนอดูเลอะเทอะ หรือการจับคู่สีพื้นหลังกับตัวอักษรที่ไม่เข้ากันจนทำให้รบกวนการอ่าน

วันนี้แบมมี 10 พาเลตเทรนด์สีจาก Shutterstock ที่คัดมาแล้วว่าเหมาะสมและจะช่วยให้การนำเสนอของคุณดูโดดเด่นกว่าใคร โดยสีในแต่ละชุดก็มีจุดประสงค์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางจิตวิทยาที่แตกต่างกันด้วย

1.สีที่เหมาะกับการกระตุ้นผู้ชม

สำหรับเทรนด์สี 2023 ที่เหมาะในการกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชมให้มีความกระฉับกระเฉงแบะกระตือรือร้นมากขึ้นคงหนีไม่พ้นสีส้ม ที่จะดึงดูดใจผู้ชม ทำให้การนำเสนอของคุณดูน่าสนใจและไม่น่าเบื่อ

ส่วนโทนสีฟ้าอมม่วงสดใสและสีเขียวมิ้นต์จะให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป คือให้ความรู้สึกที่สดชื่น ในขณะที่สีขาวเป็นสีกลางที่สะอาดซึ่งจะทำให้ตัวอักษรบนการนำเสนอของเรายังคงคมชัด อ่านง่าย และสบายตา

2.สีที่ช่วยเสริมสร้างสติและสมาธิ

ในบางสถานการณ์ที่เรารู้สึกตื่นเต้น หรือประหม่า การเลือกสีในการนำเสนอที่ดีนั้นสามารถช่วยดึงสติให้เรามีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ต้องการนำเสนอได้มากขึ้น

ซึ่งโทนสีที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายนั้นได้แก่ สีเขียว Spring green, น้ำเงิน navy blue, สีส้มอิฐ terracotta และสีเทาอมฟ้า blue gray ที่มีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งการที่สีมีความคล้ายคลึงกับธรรมชาติมาก จึงทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ

3.สีที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ

สีแดงเป็นสีแห่งความมั่นใจ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำให้ผู้ที่เห็นรู้สึกแข็งแกร่งและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าสีแดงเดี่ยวๆ นั้นดูก้าวร้าวจนเกินไป แนะนำให้ลองเบรกความแรงของสีแดงด้วยสีน้ำเงินเข้มดู เพราะสีน้ำเงินจะทำให้รู้สึกถึงความตรงไปตรงมาและความแน่วแน่แล้ว ยังมีแนวโน้มที่ช่วยลดความแรงของสีแดงได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้อาจจะลองผสมด้วยการใช้สีเทาและสีดำเข้ามาช่วยอีกเล็กน้อยเพราะ 2 สีนี้ให้ความรู้สึกที่ดูเป็นกลางแต่ยังมีความมั่นคงและความมั่นใจอยู่ด้วยในขณะเดียวกัน

4.สีที่ช่วยเพิ่มการยอมรับนับถือ

โทนสีพาเลตนี้จะเป็นโทนสีที่เรามักเห็นกันอย่างชินตาในฝั่งของโลกกฎหมายและการเงิน นั่นก็คือ สีเขียว Bottle green และสีน้ำตาลโทน cognac Brown จับคู่กันกับ สีเขียวเข้ม และสีทองแบบ old gold

สีสันในเทรนด์สี 2023 เหล่านี้จะทำให้ผู้ที่พบเห็น สัมผัสได้ถึงความสุขุมนุ่มลึก ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกหรูหรา ดูเป็นทางการ และน่าเชื่อถือ เหมาะสำหรับใช้ในการนำเสนองานให้กลุ่มผู้บริหารหรือนำเสนองานต่อองค์กรใหญ่ๆ เป็นอย่างมาก

5.สีที่ช่วยปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์

เทรนด์สี 2023 ของพาเลตนี้บอกเลยว่าจัดจ้านโดนใจคนสายครีเอทีฟแน่ๆ ด้วยการผสมผสานสีม่วงเข้มและดำเข้ากับสีเหลืองมะนาวเพื่อให้ได้เอฟเฟกต์ที่ดูแล้วมีคอนทราสต์สูง 

ตัดต้วยสีดำหรือสีเทาเข้าเล็กน้อยเพื่อเบรกความจี๊ดจ๊าด ทำให้ดูเปรี้ยวซ่า แต่ยังสบายตา อ่านง่าย แต่ยังคงความโดดเด่นไว้ได้ โดยไม่ทิ้งความทันสมัยและความสร้างสรรค์

6.สีที่ช่วยแสดงให้เห็นถึงความล้ำสมัยของเทคโนโลยี

ถ้าจะให้พูดถึงเทรนด์สี 2023 ที่เหมาะกับบริษัทของคนรุ่นใหม่หรือสตาร์ทอัพใช้งานมากที่สุด โดยเป็นสีที่จะสื่อสารถึงจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม ความคิดที่สดใหม่ และบ่งบอกถึงความล้ำสมัยของเทคโนโลยีก็คงหนีไม่พ้น สีม่วง และสีชมพู

สีม่วงเป็นสีที่ฉลาดและลึกลับที่สุด ทำให้เหมาะสำหรับธุรกิจที่นำเสนอบางสิ่งที่แตกต่างล้ำสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี

ส่วนสีชมพูนั้นอาจจะดูเป็นตัวเลือกที่คาดไม่ถึงสำหรับการนำเสนองาน แต่บอกเลยว่านี่เป็นคู่สีที่เหมาะสม ลงตัว และสมบูรณ์แบบ เพราะสีชมพูนั้นจะเป็นสีที่ช่วยดึงเอาพลังงานและ ความกระตือรือร้นแบบคนรุ่นใหม่ ให้ออกมาได้ในที่สุด

7. สีที่สื่อถึงความเรียบหรูดูดี

ถ้าคุณกำลังเสนอขายให้กับแบรนด์ระดับไฮเอนด์แล้วล่ะก็ ลองปรับโทนสีของการนำเสนอของคุณด้วยสีที่หรูหราและมีระดับ อย่างการใช้โทนสีสีม่วงแดง สีแดง และสีทองหม่น เข้ามาเป็นสีหลัก ก็จะสามารถช่วยยกระดับงานของคุณให้ดูเรียบ หรู ดูดีขึ้นได้อีกเป็นกอง

นอกจากเทรนด์สี 2023 เหล่านี้จะสามารถใช้กับกลุ่มสินค้าระดับ Luxury แล้ว พาเลตนี่ยังเหมาะสำหรับภาคการบริการ การท่องเที่ยวหรือสินค้าฟุ่มเฟือยได้อีกด้วย 

8.สีที่ดึงดูดสายตาให้โฟกัสในสิ่งที่กำลังนำเสนอ

ถ้าเรามีข้อมูลที่สำคัญที่ต้องการให้ผู้เข้าร่วมประชุมโฟกัส หรือมีข้อความใดข้อความหนึ่งที่คุณต้องการให้ผู้ดูจดจำ แบมแนะนำให้ลองใช้งานชุดสีที่ส่งเสริมการดูและการจำ แบบไม่ต้องพยายามมากก็สามารถดึงดูดให้คนจดจ่ออยู่กับการนำเสนอของเราได้

เทรนด์สีที่ว่านั้นก็คือพลังของสีน้ำเงินและสีเขียวเป็นสองสีที่เกี่ยวข้องกับการปรับโฟกัสและสมาธิได้มากที่สุด โดยอาจจะใช้สีแนวสีเขียวหัวเป็ดช่วยเบลน 2 สีนี้ให้ดูกลมกลืมกันมากขึ้น

จากนั้นลองเติมสีส้มอิฐเข้าไปเล็กน้อย เพื่อกระตุ้นให้ภาพรวมของการนำเสนอดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

9.สีที่ช่วยส่งเสริมประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

ถ้าพูดถึงประเด็นในด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนคงไม่มีสีไหนที่ดีไปกว่าสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ อย่างสีเขียวใบไม้ สีเขียวอ่อนเหมือนใบไม้ที่เริ่มผลิใบ และสีเขียวของนกเป็ดน้ำ

พาเลตสีเหล่านี้ จะทำให้เรารู้สึกเป็นมิตรกับธรรมชาติ รู้สึกสดชื่นสบายตา และช่วยให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

แต่ถ้าอยากให้งานนำเสนอของคุณ เชื่อมโยงกับประเด็นสิ่งแวดล้อมแต่ในขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกว่าเป็นงานนำเสนอที่ทันสมัย แบมแนะนำให้ลองเพิ่มสีขาว chalk White เข้าไป ก็จะช่วยให้ความรู้สึกที่ดูร่วมสมัย และขับความเป็นสีธรรมชาติได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

10.สีที่ช่วยให้คนเปิดใจง่ายขึ้น

การทำให้คนเปิดใจยอมรับเป็นขั้นตอนที่ไม่ง่ายเลย แต่เราสามารถใช้สีเป็นตัวเปิดทางและกระตุ้นให้คนรู้สึกเปิดใจและเปิดรับในสิ่งที่คุณกำลังจะนำเสนอได้โดยไม่รู้ตัว

โดยสีส้มและสีชมพู จะช่วยเพิ่มความโดดเด่น ให้กับงานนำเสนอของคุณ ในขณะที่สีเขียวViridian และน้ำเงิน Reflex Blue จะช่วยเบรกความสดใส เพิ่มความเคร่งขรึม และช่วยทำให้งานของคุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้น แต่ก็ไม่ทำให้ดูจริงจังจนเกินไป

จะเห็นได้ว่าการจะนำเสนองานในแต่ละครั้งนั้น นอกจากต้องสรุปเนื้อหาให้แม่นเป๊ะแล้ว การใส่ใจในเรื่องของสีและองค์ประกอบต่างๆ ก็ช่วยปรับมู้ดเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมได้เช่นกัน

เพราะฉะนั้น ในการนำเสนองานครั้งถัดไป ถ้าไม่อยากให้พลาด ก็อย่าลืมเอาพาเลตสีที่แบมแนะนำไปลองใช้ดูนะคะ

10 Color Trends & Psychology 2023 รวมเทรนด์สีปีนี้และจิตวิทยาเบื้องหลังจาก Shutterstock

สำหรับใครที่อยากติดตามเทรนด์สี 2023 เพิ่มเติม สามารถติดตามอ่านได้ในบทความ >> สรุป 7 Color Trends 2023 รวมเทรนด์สีปีหน้า จากรายงาน TCDC

ในบทความหน้าแบมจะมีอะไรมาอัปเดตอีกบ้าง สามารถติดตามได้ผ่านเพจการตลาดวันละตอน รวมถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนนะคะ

ที่มา

Bambinun*

Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน ที่หลงรักการเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือ พอๆ กับการกินของอร่อย และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเป็นทาสแมว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *