เทรนด์ร้านอาหารยุคใหม่ ต้องฉลาดเก็บ Small Data ไปใช้อย่าง Smart ด้วย Wongnai POS

เทรนด์ร้านอาหารยุคใหม่ ต้องฉลาดเก็บ Small Data ไปใช้อย่าง Smart ด้วย Wongnai POS

เมื่อ Wongnai เผยเครื่องมือใหม่ Wongnai POS by FoodStody เพื่อให้ธุรกิจร้านอาหารทั้งน้อยใหญ่สะดวกสบายในการเก็บ Data ที่เคยปล่อยทิ้งขว้างมานานไปต่อยอดได้อย่างฉลาดหรือ Smart มากขึ้น ในยุค Data-Driven Everything ลองมาดูกันนะครับว่าธุรกิจร้านอาหารจะสามารถใช้ Wongnai POS by FoodStory ไปต่อยอดได้อย่างไร และในฝั่งคนที่สนใจเรื่อง Data จะเอา Data จาก Wongnai POS นี้ไปใช้งานอย่างไรได้อีกครับ

Data-Driven Restaurant

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

ถ้าใครที่ได้อ่านหนังสือ Data-Driven Marketing เล่มล่าสุดของผมจะได้เจอบทหนึ่งในเล่มที่พูดถึงธุรกิจร้านอาหารเอา Data จากการขายโดยเฉพาะ Data ที่ได้จากแพลตฟอร์ม Food Delivery ไปต่อยอดธุรกิจอย่างไรได้บ้าง เริ่มตั้งแต่ร้านอาหารบางร้านแค่เปลี่ยนมาลองขายเมนูใหม่จากครัวเดิมบนแพลตฟอร์ม Food Delivery ปรากฏว่าแป๊บเดียวยอดขายออนไลน์ของร้านที่ไม่มีหน้าร้าน หรือ Ghost Resturant ก็แซงหน้าร้านจริงที่มีหน้าร้านแถมยังเปิดมานานได้สบายครับ

ดังนั้นธุรกิจร้านอาหารในวันนี้จึงวัดกันที่ Data อย่างปฏิเสธไม่ได้ และปัญหาสำคัญคือเราจะเก็บข้อมูลที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วร้านได้อย่างไร ซึ่งทาง Wongnai ก็หาคำตอบนี้มาให้ด้วย Wongnai POS by FoodStory ที่เขาบอกว่าแพลตฟอร์มเดียวสามารถจัดการได้จบครบทุกอย่างที่ธุรกิจร้านอาหารต้องการครับ

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงล็อคดาวน์เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมาทำให้คนไทยแทบจะทุกคนต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตและทำทุกอย่างบนสมาร์ทโฟนเครื่องเล็กในมือให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะประชุมงานหรือเรียนหนังสือก็ตาม และหนึ่งในสิ่งที่คไทยเรียนรู้ได้เร็วมากนั่นก็คือการสั่งอาหารผ่านแอปหรือออนไลน์ ซึ่งก็คือ Food Delivery นั่นเองครับ

ในช่วง COVID-19 ทำให้ LINE MAN เองโตขึ้นถึง 3 เท่า แถมอาหาที่ขายดีในช่วงโควิดก็คืออาหารไทย อาหารอีสาน และก็อาหารจานเดี่ยวเป็นจานหลัก แต่พอประเทศไทยเริ่มคลายล็อคพฤติกรรมการกินของคนไทยก็ไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะจาก Data ของ Wongnai บอกให้รู้ว่าแม้จะคลายล็อคแล้วแต่คนก็ยังเลือกที่จะกินอาหารที่บ้านมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปกติก่อนโควิด

ไม่ว่าจะกินที่บ้านด้วยการทำอาหารกินเอง ด้วยการสั่งอาหารมากิน หรือแม้แต่การสั่งล่วงหน้าผ่านแอปไว้แล้วแวะไปรับเพื่อกลับมากินที่บ้านครับ

แถมลักษณะการกินก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยเน้นความอร่อยเป็นหลัก พอโควิดเข้ามาคนไทยก็หันมากินอาหารที่สะอาด ที่ปลอดภัย หรือที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นนั่นเองครับ สรุปได้ว่าอร่อยอย่างเดียวไม่พอแต่ต้องสะอาดและถูกสุขลักษณะด้วยนั่นเอง

แถมอัตราการเติบโตของ Food Delivery อย่าง LINE MAN เองก็ยังโตมากกว่า 50% ไม่ได้ตกลงไปเท่าเดิมในช่วงก่อนโควิด นั่นบอกให้รู้ว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยเรียนรู้แล้วว่าการสั่งอาหารผ่านแอปต่างๆ นั้นสะดวกสบายเพียงใด ดังนั้นคำถามสำคัญที่เจ้าของธุรกิจร้านอาหารทั้งหลายต้องถามตัวเองคือ ร้านเรา Delivery ยังโตในสัดส่วนเท่ากับค่าเฉลี่ยนี้อยู่มั้ย ถ้าโตกว่าถือว่าดี แต่ถ้าต่ำกว่านี้ต้องรีบปรับปรุงแล้วครับ

LINE MAN Food Delivery เจ้าเดียวที่ใช้ 2 Business Model

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

ข้อดีของการที่เอาร้านเข้าร่วมในแพลตฟอร์ม LINE MAN Food Delivery คือสามารถเลือกได้ว่าจะเอา GP Model หรือไม่ ถ้าไม่ชอบเสียค่า GP ให้ใครก็เลือกเข้าร่วมแบบไม่ต้องจ่ายค่า GP ก็ได้ไม่มีใครบังคับ

แต่ถ้าอยากได้ลูกค้ามากขึ้น ให้ลูกค้าเห็นง่ายขึ้น รวมไปถึงมีค่าส่งที่ถูกลงเพื่อทำให้ลูกค้าสั่งเร็วกว่าร้านอื่น ก็แค่เข้า GP Model 30% กับทาง LINE MAN เท่านั้นเอง

ส่วนตัวผมคิดว่าก็แฟร์ๆ ดีสำหรับทุกฝ่าย ถ้าไม่ชอบ GP ก็ไม่ต้องเลือกเพราะไม่มีใครบังคับ แต่ถ้าอยากให้ลูกค้าสั่งง่ายขึ้นก็แค่เลือก GP Model เพราะทาง LINE MAN เขาก็ต้องเอาไปชดเชยรายได้ที่หายไปจากค่าส่งที่ลูกค้าจ่ายน้อยลงนั่นเองครับ

และทาง LINE MAN Wongnai ก็เผย 4Ds Model ที่ธุรกิจร้านอาหารต้องเอาไปประยุกต์ใช้เป็นไกด์ทางรอดของร้านดังนี้ครับ

4Ds Model for Restaurant Business After COVID-19

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

ลองมาทำความเข้าใจทีละ D จาก Wongnai กันนะครับสำคัญต่อธุรกิจร้านอาหารในยุคหลังโควิดอย่างไรบ้าง

คนกินพร้อม Delivery แล้วร้านคุณมีหรือยัง?

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

Delivery ผู้บริโภควันนี้ล้วนพร้อมสั่งอาหารผ่านแอปแล้วจะมัวรออะไร ดังนั้นอย่ารอให้ถึงวิกฤตโควิดจนต้องล็อคดาวน์รอบหน้า ร้านใครยังไม่มีหน้าร้านทางออนไลน์บนแอป Food Delivery ต่างๆ คุณต้องรีบทำให้ร้านคุณมีตัวตนบนออนไลน์ได้แล้วครับ

และทาง Wongnai ก็บอกว่าถ้าคุณเลือกที่จะมาลงทะเบียนกับเขาจะไม่ต้องตรวจเอกสารใดๆ ให้วุ่นวาย ง่ายประหนึ่งสร้างแฟนเพจของตัวเองได้เลย หรือต่อให้โควิดไม่กลับมาและเราไม่ต้อง Lockdown ช่องทาง Food Delivery ก็สามารถสร้างยอดขายได้มากเป็นสัดส่วน 20-30% ของร้านได้เลยครับ

Deduct Cost รวม Data ทั้งหมดจบในจุดเดียว

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

เดิมทีร้านอาหารมักเก็บ Data แบบกระจัดกระจาย และนั่นก็มักเป็นอุปสรรคที่ทำให้การจะเอา Data ทั้งหมดที่มีมาวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจภาพรวมเป็นไปได้ยากจนท้อแล้วก็เลิกทำไปในที่สุด

ดังนั้นถ้าเราสามารถเอา Data ทั้งหมดมารวมกันไว้ในที่เดียวแล้วเอาไปวิเคราะห์ต่อได้ง่าย ก็จะทำให้ธุรกิจร้านอาหารทั้งหลายรู้ว่าจุดอ่อนหรือจุดแข็งของตัวเองอยู่ตรงไหน แล้วก็จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและถูกจุด หรือจะเสริมจุดแข็งก็ทำได้อย่างถูกต้องเช่นกัน

Do Inventory เพราะการลดต้นทุนคือการทำกำไรที่ง่ายที่สุด

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

ธุรกิจส่วนใหญ่มักพยายามมองหาการเพิ่มรายได้จากภายนอก แต่ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการเพิ่มรายได้จากภายในนี่แหละคือการทำกำไรที่ง่ายที่สุด เพราะคุณไม่ต้องไปวิ่งหาลูกค้าใหม่ที่ไหนให้ลำบาก แค่ต้องรู้ก่อนว่าต้นทุนตรงไหนที่เสียเปล่าและสามารถแก้ไขได้

ดังนั้นการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบที่ฉลาด คืออีกหนึ่งทางรอดสำคัญของธุรกิจร้านอาหารนับจากนี้ครับ

Drive Cashless ลดการรับเงินสดก็เท่ากับเพิ่มกำไร

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนยุคใหม่ในวันนี้เงินหลักสิบก็โอนจ่ายกันหมดแล้ว แต่ก่อนเราเคยเชื่อว่าการโอนจ่ายต้องเป็นยอดหลักร้อย แต่เชื่อมั้ยครับว่าวันก่อนผมนั่งแท็กซี่เข้าบ้านแค่ไม่กี่สิบบาทแล้วเงินไม่พอ ผมยังขอเลขบัญชีแท็กซี่เพื่อโอนจ่ายแทนเลย

ดังนั้นร้านอาหารในวันนี้ต้องพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ Cashless Society อย่างเต็มตัว และข้อดีของการไม่รับเงินสดคือลดต้นทุนของเวลาที่พนักงานต้องมานับเงินทั้งหมด จากนั้นก็เอาไปฝาก ซึ่งรวมๆ แล้วก็เป็น man hours ไม่น้อยเลยนะครับในแต่ละปี สู้เอาเวลาเหล่านี้ไปให้พนักงานดูแลลูกค้าให้ดีขึ้น หรือให้พวกเขาได้พักมากขึ้นเพื่อที่จะกลับมาบริการลูกค้าที่มีอย่างยิ้มแย้มมากกว่าเดิมนั่นเองครับ

และอีกหนึ่งข้อดีที่ดีที่สุดของการที่ร้านจะไม่รับเงินสดคือลดปัญหาการขโมยหรือเงินหาย เพราะในเมื่อไม่มีเงินสดผ่านมือโอกาสเงินหายก็จะหายไปแต่เงินรายได้จากลูกค้าเข้ากระเป๋าเจ้าของร้านเต็มๆ ครับ

และนั่นก็เลยทำให้ Wongnai เปิดตัว Total Restaurant Solution เครื่องมือสำหรับร้านอาหารในยุค New Normal หลังโควิด และที่สำคัญคือเป็นการสร้าง Ecosystem ของ LINE MAN Wongnai ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นจนยากที่ธุรกิจอื่นจะมาเจาะเอาลูกค้าไปได้ง่ายๆ

Wongnai Ecosystem จากหน้าร้านสู่หน้าแอป จากหน้าแอปสู่อาหารในมือลูกค้า และก็วนกลับมาเป็น Data ให้หน้าร้านอีกครั้ง

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

เพราะวันนี้ LINE MAN Wongnai บอกว่าต่อไปนี้ร้านไหนอยากเปิดร้านอาหารทางออนไลน์กับแพลตฟอร์ม LINE MAN ก็ง่ายๆ แค่เข้าไปกดสร้างร้านค้าและอัปรูปภาพเมนูอาหารพร้อมรายละเอียดราคาด้วยตัวเองได้เลย

ทันทีที่อัปเสร็จปุ๊บร้านของคุณก็จะไปปรากฏใน Wongnai และ LINE MAN ทันที นั่นก็หมายความว่าลูกค้าพร้อมสั่งร้านคุณได้ทันทีถ้าคุณเอาไปโปรโมตให้ลูกค้ารู้ว่าร้านคุณสั่งผ่าน LINE MAN ได้แล้วนะ

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

แถมระบบการบริหารจัดการร้านอาหารของ Wongnai เองก็ยังควบรวมไปถึงการทำระบบสมาชิกลูกค้าไม่ว่าจะสะสมแต้มแบบ Loyalty Program หรือ CRM ก็ตาม จากเดิมที่เคยต้องกระจัดกระจายไปใช้แอปอื่นในการสะสมแต้ม มาวันนี้ทุกอย่างครบจบในระบบเดียวครับ

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

แถมพวกเขายังทำไปถึงระบบการบริหารจัดการวัตถุดิบหลังร้านให้เจ้าของร้านด้วยซ้ำ ทำให้ต่อไปนี้เจ้าของร้านสามารถรู้ได้ว่าอะไรใกล้จะหมดเพื่อจะได้ไปรีบเติม หรือสามารถวิเคราะห์ได้ว่าแท้จริงแล้วเรามี Waste ของวัตถุดิบที่ตรงจุดไหนบ้าง ซึ่งก็กลับไปที่การเพิ่มรายได้ของร้านเราโดยไม่ต้องหาลูกค้าเพิ่ม แค่ลดต้นทุนที่เสียเปล่าให้ได้เท่านั้นเอง

อีกข้อนึงที่ผมชอบของระบบบริหารจัดการร้านอาหารในยุค New Normal ของ Wongnai นี้ก็คือต่อไปนี้เจ้าของร้านหรือคนที่เกี่ยวข้องสามารถดูข้อมูลยอดขายรายวันได้ผ่าน LINE ไม่ต้องเปิดคอมดู Excel ใดๆ ให้วุ่นวาย ก็ไหนๆ คนไทยก็ติด LINE กันทุกคนอยู่แล้วหนิ

และท้ายสุดของงานในวันนี้ที่เป็นพระเอกของเรื่องก็คือพวกเขาเปิดตัวเครื่องมือการเก็บ Data สำหรับธุรกิจร้านอาหารให้เป็นเรื่องง่ายด้วย Wongnai POS by FoodStory ครับ

Wongnai POS by FoodStory รวมทุก Data ในร้านอาหารที่เคยกระจายไว้ในที่เดียว

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

เครื่อง POS หรือ Point of Sale นี่แหละครับคือหัวใจสำคัญของทั้งหมด ซึ่งทาง Wongnai ออกแบบมาให้ดูสวยงามน่าใช้ มีหน้าจอสองด้าน ที่สำคัญคือเขาบอกเจ้าของร้านไม่ต้องซื้อในราคาแพงหลายหมื่น แต่สามารถเลือกจ่ายเป็นรายเดือนเริ่มต้นที่ 650 บาทต่อเดือนในสัญญาการใช้ 1 ปีครับ

เจ้าเครื่องนี้ทำให้การเก็บ Data ในร้านอาหารที่นับว่าเป็น Small Data มากมายมาไว้ในที่เดียวและเปลี่ยนให้ Smart ทำให้เจ้าของร้านได้เห็นภาพรวมที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน หรือแม้แต่จะแยกดูข้อมูลการขายของแต่ละสาขาเพื่อนำไปวิเคราะห์ต่อว่าสาขานี้ควรจะเพิ่มสินค้าหรือบริการอะไรเข้าไป

เพราะถ้าเราไม่เอาข้อมูลมาดูและวิเคราะห์เราก็จะยังคงเดินหน้าทำธุรกิจแบบไม่รู้ว่ากำลังไปในทิศทางไหน แต่ถ้าคุณรู้จักแบ่งเวลามาดู Data และวิเคราะห์มันสักหน่อยการเดินหน้าของคุณก็จะไปได้ถูกทิศและทำให้ธุรกิจก้าวหน้าจริงๆ ไม่ใช่เดินวนอยู่กับที่เหมือนที่เคยเป็นมาครับ

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

ซึ่งทาง Wongnai ก็บอกว่าตอนนี้มีร้านอาหารทั่วประเทศไทยกว่า 20,000 ร้านใช้เครื่อง Wongnai POS by FoodStory แล้ว ซึ่งหลายร้านจากโลโก้ในรูปก็จะเห็นว่าเป็นร้านที่เรามักคุ้นเคยทั้งนั้น ส่วนตัวผมก็แนะนำให้คุณใช้เจ้าเครื่องนี้เหมือนกันครับ

เพราะ Small Data เมื่อนำมารวมกันก็ทำให้ธุรกิจโตแบบ Smart ได้

Data-Driven Restaurant กับ Wongnai POS by FoodStory เครื่องมือเก็บทุก Small Data ที่กระจายทั่วร้านอาหารให้เอาไปต่อยอดอย่าง Smart

ธุรกิจเล็กๆ มักคิดว่า Data เป็นเรื่องไกลตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว Data เป็นเรื่องที่อยู่รอบตัวและอยู่ในตัวเราทุกคนในทุกวันไปแล้วครับ การสั่งอาหารทางออนไลน์ก็เป็นการสร้าง Data ขึ้นมา หรือการที่ลูกค้าเดินเข้ามาเพื่อสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรบางอย่างเจ้าของธุรกิจที่ฉลาดต้องไม่รับแค่เงินแต่ต้องรับเอา Data ลูกค้าแต่ละคนมาต่อยอดด้วยครับ

เพราะถ้าเราเอา Transaction Data มาวิเคราะห์ดีๆ เราจะรู้ได้เลยว่าเราต้องปรับ Business Strategy ของร้านไปในทิศทางไหน ถ้าร้านนี้ขายเมนูร้อนดีเราควรเพิ่มเมนูเย็นหรือเค้กที่กินคู่กับเมนูร้อนมากขึ้นกันแน่ แล้วถ้าอีกสาขานึงเมนูปั่นกลับขายดีมากแต่ไม่เคยขายเมนูร้อนได้เลย เรายังจะต้องสต็อกวัตถุดิบในการทำเมนูร้อนไว้ให้เปลืองต้นทุนอยู่หรือเปล่า?

ทั้งหมดนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นเลยถ้าเราไม่เอา Data ที่มีมาวิเคราะห์ แต่การจะวิเคราะห์ Data ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีเครื่องมือในการเก็บหรือ Collect Data ทั้งหมดมาไว้ในที่ๆ เราเข้าถึงและใช้งานได้ง่ายครับ

ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นโอกาศจากเครื่อง Wongnai POS นี้คือเราสามารถ Export Data ทั้งหมดออกมาเป็น Excel ได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าร้านไหนพอจะมีทุนในการทำ Data Analytics เพิ่มอีกหน่อย(หลักแสนก็ทำได้แล้ว) ก็จะเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าหรือแม้แต่ความต่างของลูกค้าในแต่ละสาขาได้ไม่ยากเลย

ดังนั้นในยุค Data แบบนี้ผมไม่อยากให้คุณปล่อย Data ที่ควรจะเป็นของคุณหลุดลอยไหลไปตามอากาศ รีบหาวิธีในการเก็บมา และก็ต้องอย่าลืมหาเวลาในการวิเคราะห์ด้วยนะครับ

สุดท้ายนี้ถ้าร้านอาหารไหนที่สนใจการเอา Data ที่มีมาวิเคราะห์แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เข้ามาปรึกษาได้ที่เพจการตลาดวันละตอน หรืออีเมลมาคุยกันที่ [email protected] ได้ครับ

ผมคิดว่า Data จาก POS ของ​ Wongnai น่าจะเอาไปต่อยอดวิเคราะห์หา Insight ได้ไม่มากก็น้อย การที่คุณรู้ว่าที่ผ่านมาคุณเดินผ่านอะไรมาบ้าง ทำให้คุณวางแผนธุรกิจในปีหน้าที่น่าจะยากกว่าทุกปีที่ผ่านมาได้ดีขึ้นครับ

Wongnai Data Services พร้อมเปิดดาต้าไลฟ์สไตล์ ให้ธุรกิจที่สนใจไปต่อยอด

อ่านบทความที่เกี่ยวกับ Wongnai ในการเอา Data มาใช้และต่อยอดต่อ > https://www.everydaymarketing.co/business/data/wongnai-data-services/

Nattapon Muangtum

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน