วาโก้ล้วงลึก Insight คนรุ่นใหม่ ใช้สีสันและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อมัดใจผู้บริโภค

วาโก้ล้วงลึก Insight คนรุ่นใหม่ ใช้สีสันและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อมัดใจผู้บริโภค

ปัจจุบันภาพรวมตลาดชุดชั้นในผู้หญิงนั้นมีการเติบโตที่สูงขึ้นทุกปี ในขณะเดียวกันก็มีความท้าทายรวมถึงมีการแข่งขันที่สูงอย่างต่อเนื่องด้วย ทั้งในด้านราคา คุณภาพของสินค้า บริการ ดีไซน์ ไปจนถึงความสะดวกสบายในการเลือกซื้อ ทำให้หลายๆ แบรนด์ ทั้งแบรนด์เล็กและแบรนด์ใหญ่ต่างก็ต้องพยายามปรับตัวและพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง

ในฐานะผู้นำตลาดอย่างวาโก้ที่อยู่คู่สาวไทยมาถึง 52 ปี จึงพยายามพัฒนาแบรนด์ให้ก้าวทันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอยู่เสมอ การันตีได้จากรางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2011-2022 หมวด Underwear แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในหมวดชุดชั้นใน ถึง 11 ปีซ้อน ลองมาดูกันว่าในปีนี้วาโก้จะมีอะไรใหม่ๆ มาเซอร์ไพรส์เรากันบ้าง

Refresh Brand ด้วยการพลิกกลยุทธ์ พัฒนาสินค้าให้เข้ากับผู้บริโภค

ถ้าเปรียบวาโก้เป็นผู้หญิงสักคนหนึ่ง หลายคนคงมองวาโก้ว่าเป็นผู้หญิงวัยทำงาน อายุสัก 35 ปีขึ้นไป ที่มีบุคลิกเรียบ ง่าย และมีสไตล์การแต่งตัวแบบเน้น Functional มากกว่าความเป็นแฟชั่น

แต่ผลกระทบจากโควิด 19 ที่ต่อเนื่องและยาวนานนั้นส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปทั้งในเรื่องของรูปแบบสินค้าและราคา ทำให้วาโก้เองต้องพยายามพลิกกลยุทธ์ เปลี่ยนสาวใหญ่ให้กลายมาเป็นสาวที่ดูสดใส ทันสมัย และเข้าได้กับผู้หญิงทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่มากขึ้น

รักษาความเป็นผู้นำ ด้วยความเข้าใจ Insight ของกลุ่มเป้าหมาย

แม้การจะขึ้นมาเป็นผู้นำในฝั่งตลาดชุดชั้นในนั้นจะเป็นเรื่องยาก แต่การจะรักษาตำแหน่งไว้อย่างต่อเนื่องและยาวนานนั้นเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก 

เนื่องจากในปัจจุ​บัน​ไลฟ์ส​ไตล์​และเทรน​ด์การแต่งตัวและการใช้ชีวิตของผู้บริโภคโดยเฉพาะวัยรุ่นเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงหลังวิกฤตโควิด 19 วาโก้ก็เลยต้องการที่จะรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร เพราะไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างย่อมมีความต้องการที่แตกต่างกัน เพื่อจะได้ผลิตชุดชั้นในที่ตรงใจผู้บริโภค 

นั่นก็เลยเป็นที่มาของ Wacoal Mood คอลเลกชันนี้ โดยเริ่มต้นจากการชวนสาวๆ มาร่วมกิจกรรม “วาโก้ Survey…บราไหนที่ใช่ โดนใจวัย MOOD” ในพื้นที่แหล่งรวมวัยรุ่น​อย่างสยามสแควร์ เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและแบบที่ใช่ สีที่โดนใจ จากกลุ่มเป้าหมายกว่า 1,000 คน มาออกแบบเป็น Mood คอลเลกชันนี้ ปรับเปลี่ยนวิธีคิดให้เป็นแบบ Outside in ออกไปสำรวจความต้องการของลูกค้ากลุ่มใหม่ และนำ Pain Point เหล่านั้นมาออกแบบเป็นสินค้า เพื่อจะได้เข้าใจความต้องการของลูกค้าที่แท้จริง

สร้างรูปแบบการทำ Survey ใหม่ให้เตะตาวัยรุ่น

สำหรับการทำ Survey ของวาโก้ในครั้งนี้เป็นการทำ Survey ทั้งแบบ Offline ลงพื้นที่ไปยังกลุ่มเป้าหมายพร้อมกิจกรรมสนุกๆ เสริมด้วยการทำ Survey ผ่านทาง Online แต่รูปแบบการทำ Survey ที่การตลาดวันละตอนมองว่าแปลกใหม่และน่าสนใจก็คือการทำ Survey แบบออฟไลน์ ที่เปลี่ยนภาพจำจากการทำแบบสำรวจและขอความคิดเห็นด้วยกระดาษแผ่นเดียวแบบเดิมๆ มาเป็นการจำลองเหมือนเกมสนุกๆ เกมหนึ่งให้กลุ่มเป้าหมายได้เป็นผู้เลือก และมีส่วนร่วมในเกมนั้น 

โดยมีเหรียญให้ผู้ตอบแบบสอบถามไปหยอดในคำตอบที่รู้สึกว่าใช่ ถือว่าเป็นกิจกรรมการ Survey ที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ไม่น่าเบื่อ ไม่จำเจ และทำให้กลุ่มเป้าหมายยินดีที่จะให้ความร่วมมือ

ซึ่งในขณะเดียวกันวาโก้ก็ได้ใช้กิจกรรมนี้ในการมองหาคนที่มี Potential และตรงตามคอนเซ็ปต์สินค้า เพื่อเป็น Nano Influencer ด้วยการส่งตัวอย่างสินค้าไปให้ทดลอง เพื่อให้เกิดการบอกต่อกันในหมู่วัยรุ่นอีกด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย

โดดเด่น แตกต่าง แต่ตอบโจทย์

หลังจากการทำ Survey ทำให้แบรนด์เข้าใจ Pain Point และมุมมองของกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นต่อสินค้าของวาโก้มากขึ้นโดยคนกลุ่มนี้มองว่าสินค้าวาโก้นั้นมีดีไซน์ที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ และไม่ค่อยมีตัวเลือกที่วาไรตี้มากนัก

ทำให้วาโก้ตัดสินใจออกแบบและพัฒนาสินค้าใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Wacoal Mood: Do it your mood” โดยใช้ Insight จากการทำ Research บวกกับ Data เดิมที่มีอยู่ และ Know-how จากประสบการณ์ที่ยาวนานมาพัฒนาเป็นสินค้าใหม่ให้แตกต่างจากดีไซน์วาโก้แบบเดิมๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

ใช้ Emotional Marketing กระตุ้นความต้องการซื้อ

ปัจจุบันพฤติกรรมการซื้อชุดชั้นในของลูกค้านั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุหรือเพศ เสมอไป แต่สิ่งที่เป็นตัวกำหนดความต้องการซื้อในวันนี้คือ “ไลฟ์สไตล์” ต่างหาก

ดังนั้นวาโก้จึงได้ทำการปรับการแบ่งกลุ่มลูกค้าใหม่ จากเดิมที่เคยแบ่งกลุ่มตามช่วงอายุแล้วจึงออกแบบให้เหมาะกับวัย เปลี่ยนมาเป็นแบ่งกลุ่มลูกค้าตามไลฟ์สไตล์แล้วเพิ่มความเป็น “แฟชั่น” เข้าไป จนออกมาเป็นคอลเลกชันใหม่ “Wacoal Mood: Do it your mood” ภายใต้​คอนเซ็ปต์​ “Fun ทุก Mood…กู๊ดทุกฟิลลลล” ที่เน้นสีสันและธีมของชุดชั้นในที่เล่นโทนสี โดยใช้โทนสีสดสลับกับโทนสีอ่อน (Light Hue Balance) 

โดยใช้โทนสีสดตระกูล Hue เช่น ชมพูม่วง Acid Pink, เหลืองส้ม Radiant Yellow โทนสีอ่อน ตระกูล Light เช่น ม่วงอ่อน Purple Rose, เหลืองอ่อน Anise Flower, ฟ้าอ่อน Stratosphere ที่เป็นเทรนด์สีล่าสุด และมาจากการ Survey ซึ่งเป็นสีที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ

ซึ่งเมื่อสีเหล่านี้ผสมผสานกันเกิดเป็นความสนุก เป็นชุดสีที่นิยามคำว่า “ความทันสมัยของคนรุ่นใหม่” ได้อย่างลงตัว ทั้งให้ความรู้สึกเป็นอิสระ ไม่อยู่ในกรอบ ไม่ยึดติดจากสิ่งเดิม เปิดกว้างให้แสดงออกถึงความเป็นตัวตน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน รูปร่างแบบไหน สีผิวใด ทุกคนก็สามารถสนุกกับการ Mix & Match ได้ตามใจ

นอกจากชุดชั้นในแล้ว ในคอลเลกชันนี้ทางวาโก้ยังเพิ่ม Product Line ของชุดนอนที่มีความหลากหลายและสะท้อนความเป็นแฟชั่นไม่แพ้กัน โดยมีทั้งรูปแบบกระโปรง กางเกงขาสั้น และกางเกงขายาว ที่สำคัญวาโก้ยังตั้งใจเพิ่มความสนุกให้กับการแต่งตัวมากขึ้นอีกขั้น ด้วยการออกแบบให้ชุดนอนนี้สามารถใส่ออกไปข้างนอก รวมถึง Mix & Match กับตัวชุดชั้นในได้อีกด้วย

การเพิ่มความเป็นแฟชั่นและรูปแบบชุดชั้นในให้มีความวาไรตี้มากขึ้นนั้น นอกจากจะทำให้กลุ่มเป้าหมายสนใจสินค้ามากขึ้นแล้ว ยังทำให้ลูกค้าเปลี่ยน Mindset ในการซื้อชุดชั้นใน จากที่เคยซื้อนานๆ ครั้ง ด้วยเหตุผลเพราะชั้นในเก่าหรือชำรุด ก็เปลี่ยนเป็นซื้อถี่ขึ้น โดยมีเรื่องของ Emotional มาเป็นตัวขับเคลื่อนในเรื่องความต้องการซื้อ

สวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้อง “สบาย” ด้วย

กุญแจสำคัญที่ทำให้แบรนด์วาโก้ยังคงยืนหนึ่งในใจผู้บริโภคได้ก็คือ “คุณภาพของสินค้า” ซึ่งแม้ว่า คอลเลกชัน Wacoal Mood: Do it your mood จะมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้ดูสดใสและสนุกสนานมากขึ้นอย่างไร แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งคอนเซ็ปต์ 3 สบาย คือ 

1.สบายกาย 

ด้วยเนื้อผ้านุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี พร้อมการตัดเย็บคุณภาพวาโก้ ที่มีประสบการณ์การตัดเย็บ และ Know-how มาตรฐานญี่ปุ่น

2.สบายใจ 

รูปแบบสินค้าที่ดึงเอาเสน่ห์ความสดใสของวัยรุ่นออกมาได้อย่างสนุกสนาน ไปได้กับทุก Mood ทุก Feel ทุก Lifestyle 

ด้วยสินค้าที่มีหลากหลายรูปแบบและสีสันสดใสให้ชุดชั้นในโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ทำให้สามารถ​หยิบ WACOAL MOOD: DO IT YOUR MOOD มา Mix & Match กับเสื้อผ้าในตู้ได้ตามใจ ทำให้การแต่งตัวในแต่ละวันสนุกยิ่งขึ้น​

3.สบายกระเป๋า 

สำหรับวาโก้คอลเลกชันนี้ได้มีการปรับราคาลงให้ถูกใจวัยรุ่น​ โดยเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้ แต่แน่นอนว่ายังคงไว้ซึ่งคุณภาพมาตรฐานวาโก้

เพิ่มช่องทางขาย​ และใช้กลยุทธ์​ในการสื่อสารแบบ​ 360 องศา

ไม่เพียงแต่มีการพัฒนาในด้านผลิตภัณฑ์​เท่านั้น​ แต่งานนี้วาโก้คิดมาแบบรอบคอบอย่างรอบด้านทั้งในเรื่องช่องทางการขาย​ รวมไปถึงช่องทางการสื่อสาร​ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์​สไตล์​ของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

ช่องทาง​การ​ขาย​ 

สำหรับ​ช่องทาง​ออฟไลน์ที่จำหน่ายชุดชั้นใน Wacoal New Mood  มีทั้ง​วาโก้ช็อปและเคาน์เตอร์วาโก้ ในสาขาที่ร่วมรายการ โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นนักเรียน นักศึกษา เช่น วาโก้ช็อปสาขาสยามสแควร์วัน, สาขาเทอร์มินอล 21 อโศก และสาขา MBK เป็นต้น และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมียอดขายค่อนข้างสูง เช่น เคาน์เตอร์วาโก้สาขาสยามพารากอน สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ สาขาเซ็นทรัลชิดลม และสาขาเอ็มโพเรียม เป็นต้น 

นอกจากนี้ทางวาโก้ยังมี Pop Up Store ที่มาพร้อมกับกิจกรรม “กล้าท้าลอง” เพื่อเปิดโอกาสให้สาวๆ ได้สัมผัสและทดลองสินค้า รวมถึง​การรับสิทธิพิเศษจากวาโก้ตามสโลแกน “Fun ทุก Mood…กู๊ดทุกฟิลลลล” ​ด้วย

นอกจากจะชอปปิ้งใน Platform Marketplace เช่น FACEBOOK : WACOAL THAILAND, FACEBOOK : WACOAL MOOD หรือ Shopee Lazada และ JD central แล้ว 

สำหรับคอลเลกชันนี้ทางวาโก้ยังเพิ่มโอกาสทางการขาย เจาะกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด โดยการไป Collab กับ POMELO เพิ่มช่องทางการขายเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า ช้อปวาโก้ได้ที่ POMELO ONLINE แถมยังสามารถทดลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ (Try & Buy) ได้ด้วย

เพียงกดสั่งสินค้าวาโก้ผ่านออนไลน์และเลือกสาขา Pomelo ใกล้บ้าน เพื่อทดลองสวมใส่ที่ร้าน ถ้าชอบและใช่ก็จ่าย หรือยังไม่ถูกใจก็คืนสินค้าที่ Pomelo สาขานั้นๆ ได้เลย​ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมการชอปปิ้งของสาวๆ อย่างครอบคลุม 

ช่องทางการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ 

มีการจัดทำการโฆษณา​ประชาสัมพันธ์​ผ่าน LED Billboard เช่น ห้างเซ็นทรัล เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ และตามหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ พัทยา พระราม 4 เป็นต้น

ด้วย Traffic ที่กลับมาคึกคักของห้างสรรพสินค้า สื่อ LED ภายในห้างจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการใช้สื่อโรงภาพยนตร์และลานโบว์ลิ่ง แหล่งรวมของวัยรุ่นอีกด้วย 

นอกจากนี้ยังมีการใช้สื่อใหม่เอาใจวัยรุ่น ในรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามูฟมี (MuvMi) ซึ่ง​เป็นบริการเรียกรถผ่าน Mobile Application เพื่อใช้เดินทางเฉพาะย่าน ของกลุ่มคนเมือง กลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของวาโก้ รวมถึงประชาสัมพันธ์​ผ่านกิจกรรม Road Show ที่เป็น Wacoal Mood Mobile ไปตามหาวิทยาลัยชั้นนำ​ เพื่อเพิ่มสีสันความสนุกให้กลุ่มนักเรียน นักศึกษา รวมถึงช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น 

ไม่เพียงเท่านี้ทางวาโก้ยังมีการใช้​ Nano Influencer, KOL และกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่อยู่ในฐานข้อมูลร่วม Survey สินค้า และได้รับความยินยอม​ ในการช่วยสร้าง​ Awareness​ ให้กับแบรนด์ อีกทั้งยังมีการใช้ Fashion Icon อย่าง 7 สาว 4EVE วงเกิร์ลกรุ๊ปมาแรงของไทย ที่เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ เพื่อสื่อสารผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นศิลปินที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ

เรียกได้ว่าวาโก้นั้นทำการสื่อสารได้แบบรอบด้าน​ผ่านการทำ IMC หรือ​ Integrated Marketing Communication แบบครบวงจร ทั้งบน Social​ Media​ และสื่อ​ Out​ of​ Home​ การ Display ที่มีสีสัน ณ จุดขาย เพื่อเจาะกลุ่มและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย​ได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว

การที่วาโก้ใส่ใจผู้บริโภคและพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานและคุณภาพของสินค้า เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าให้ดีที่สุดนั้น ทำให้การตลาดวันละตอนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวาโก้ยังคงครองแชมป์เป็นเจ้าตลาดและยังคงเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจสาวไทยมาอย่างยาวนาน 

สำหรับคอลเลกชัน Wacoal Mood: Do it your mood นี้จะวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้แล้ว สาวๆ คนไหนที่สนใจอยากไปสอยมาไว้ติดตู้สัก 3-4 ตัว ก็สามารถหาซื้อมา Mix & Match ได้ตามช่องทางต่างๆ ที่บอกไว้ด้านบนนะคะ

Bambinun*

Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน ที่หลงรักการเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือ พอๆ กับการกินของอร่อย และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเป็นทาสแมว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *