5G ดีอย่างไร? ทรู แบรนด์ผู้นำด้านการสื่อสาร ชวนคนไทยสัมผัสชีวิตอัจฉริยะ เนรมิตจินตนาการให้เป็นจริงด้วยเทคโนโลยีที่ครบวงจร #ComeTrue

Email LinkedIn Tweet Facebook ShareShare1.2k

เมื่อต้นปีผมเคยถูกสัมภาษณ์จากนิตยสารฉบับหนึ่งว่าคิดอย่างไรกับยุค 5G ที่กำลังจะมา ตอนนั้นผมตอบไปแบบภาพกว้างว่าเปรียบได้กับถนนทางหลวง 5 เลน ที่ทุกครั้งพอถนนใหญ่ขึ้นสองข้างทางก็จะเกิดการพัฒนาในหลายๆ ด้านตามมา ไม่ว่าจะเกิดปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่คู่กับอาคารร้านค้าก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า 5G ที่กำลังจะมาเมื่อต้นปีนั้นจะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่มาวันนี้ผมได้เห็นโฆษณาจาก True 5G ที่ทำให้เห็นภาพแบบชัดๆ ว่าอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้นจะทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายเพียงใด พอดูจบผมก็เลยเข้าใจทันทีว่า 5G ดีอย่างไร? เพราะก่อให้เกิดยุคใหม่ที่เรียกว่า Genius Generation ที่ทุกสิ่งรอบตัวล้วนอัจฉริยะ เพราะสามารถทำงานได้แบบอัตโนมัติในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนครับ

ต้องบอกก่อนว่าโฆษณาเรื่อง 5G ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่เห็นบ่อยๆ ก็คือเรามักจะเห็นแต่ภาพในจินตนาการที่ดูล้ำเกินจริงจนทำให้นึกภาพไม่ค่อยออกว่า ตกลงเจ้า 5G ที่ว่านี้มันเกี่ยวกับชีวิตเราอย่างไร แต่หนังโฆษณา 5G จาก True เรื่องนี้ทำให้เราเห็นภาพชีวิตในยุค Genius Generation จาก 5G แบบช็อตต่อช็อต และอยากจะบอกว่าหลายฉากที่ดูล้ำเกินจริงนั้นเกิดขึ้นจริงในประเทศไทยแล้ววันนี้ครับ

เมืองอัจฉริยะ

แน่นอนว่าแนวคิดเมืองอัจฉริยะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่น่าสนใจคือด้วยอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงในระดับ 5G นั้นต่างหากคือสิ่งที่จะทำให้เมืองอัจฉริยะเปลี่ยนจากแนวคิดกลายเป็นของจริงได้ เพราะหุ่นยนต์ในโฆษณาจะสามารถเดินปะปนบนท้องถนนได้ต้องใช้การประมวลผลภาพตรงหน้าด้วยความเร็วสูงขึ้นไปบนระบบ Cloud จากนั้นก็ต้องรับการประมวลผลกลับมาเพื่อให้หุ่นยนต์ดังกล่าวสามารถหลบลีกคนที่เดินไปมาหรือแม้แต่ไม่ชนกันเองได้ครับ

ยังรวมไปถึง Drone ส่งของแบบอัตโนมัติที่ไม่ต้องใช้คนบังคับแต่แค่ใส่พิกัดปลายทางเท่านี้มันก็สามารถพาสิ่งของที่เราต้องการส่งไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย ในหลายประเทศเริ่มมีการใช้ Drone ในการส่งของไปยังพื้นที่ห่างไกลหรือเดินทางลำบาก แต่ถ้าเป็นในเมืองก็อย่างที่เราเริ่มเห็นการเอา Drone มาใช้ส่ง Pizza กันบ้างแล้ว และก็นั่นแหละครับเจ้า Drone ต่างๆ จะสามารถบินได้โดยเสถียรและไม่ชนกับ Drone ตัวอื่นหรือต้นไม้ตรงหน้า ก็ต้องอาศัยการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรอย่างมากอย่าง 5G เช่นกัน

หรือแม้แต่การพูดคุยกับ AI ในมือถือก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าขาดซึ่งการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ตไร้สายที่ทั้งเร็วและเสถียร เพราะไม่งั้นกว่าเราจะได้คำตอบก็ต้องรอจนรำคาญใจ และก็อย่างที่เรารู้กันว่าผู้บริโภคยุคใหม่ในวันนี้นั้นรอไม่เคยได้ การช้าไปแค่ไม่กี่วินาทีก็สามารถทำให้เราหงุดหงิดใจจนไม่อยากใช้อีกต่อไปจริงมั้ยครับ

ส่วนเรื่องของ Augmented Reality ที่เราเห็นทับซ้อนกับของต่างๆ บนโลกจริงก็จะยิ่งเป็นจริงขึ้นกว่าเดิม ในหลายที่เริ่มมีการพัฒนาแอปที่แค่เอาเปิดกล้องมือถือส่องไปที่สินค้า เพียงเท่านี้เราก็จะเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ตั้งแต่รายละเอียดที่ตัวฉลากไม่ได้บอก หรือแม้แต่การรีวิวของลูกค้าก็ตาม จากเดิมเราอาจจะต้องสแกนแล้วรอสักหน่อย แต่ในยุค 5G ที่มาถึงแล้วทำให้แค่หยิบมือถือขึ้นมาส่องข้อมูลต่างๆ ก็ไหลมาประหนึ่ง Data ทั้งหมดอยู่แล้วโทรศัพท์มือถือเราแต่แรกเลยครับ

เมื่อเห็นฉากในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ในโฆษณาชุดนี้ก็ทำให้นึกถึงร้านสะดวกซื้ออัจฉริยะที่เริ่มแล้วใน 7-11 บางสาขา ซึ่งจะใช้ระบบ Facial Recognition ที่แค่เห็นหน้าเราในกล้องก็จะรู้แล้วว่าลูกค้าคนนี้เป็นใคร ผูกบัญชีกับ True Wallet อันไหนไว้ นั่นก็เท่ากับว่าแค่คุณเดินเข้าร้านก็สามารถหยิบของที่ต้องการ แล้วก็เดินออกจากร้านค้าไปได้เลย เพราะร้านค้าอัจฉริยะจะตัดเงินคุณผ่านบัญชีที่ลงทะเบียนไว้กับใบหน้าของคุณเท่านั้นเอง เป็นอย่างไรครับกับร้านสะดวกซื้ออัจฉริยะในยุค 5G ที่อะไรก็ดี๊ดีไปหมด

การเกษตรอัจฉริยะ

การเกษตรอัจฉริยะจาก 5G นั้นเกิดขึ้นจริงแล้วในประเทศไทยเรากับแปลงข้าวโพดอัจฉริยะหรือ Smart Crop ที่กลุ่มทรู จับมือกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น พัฒนาการเกษตรอัจฉริยะ เป็นการเอา 5G มาใช้กับอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ตั้งแต่ระบบตรวจจับสภาพอากาศ ระบบการควบคุมน้ำ และการใช้ Drone มาบินตรจสุขภาพของพืชผ่านการประมวลผลภาพของต้นพืชต่างๆ ด้วย AI รวมไปถึงการวัดคุณภาพของเมล็ดพันธุ์จากการเก็บเกี่ยว เรียกได้ว่าเป็นการประหยัดทรัพยากรมนุษย์แบบสุดๆ ทำให้มนุษย์เราสามารถขยับไปทำงานที่มีค่าได้มากขึ้นครับ

และก็รวมไปถึงการทำปศุสัตว์ในยุค 5G ที่จะสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพกว่าเดิมมาก เพราะเราสามารถใช้ระบบ Cow Monitoring ผ่านอุปกรณ์ที่ติดที่หูของวัว จากนั้นก็สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมไปจนถึงสุขภาพของวัวแต่ละตัวได้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่สามารถรู้รอบการผสมพันธุ์ได้ รู้รูปแบบการเคี้ยวเอื้องของวัวแต่ละตัวได้ว่าตัวไหนกำลังเคี้ยวผิดปกติหรือเปล่า หรือรู้ไปจนถึงอารมณ์ของวัวแต่ละตัว ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถวางแผนการดูแลไปจนถึงคาดากรณ์ผลผลิตที่จะได้จากการเลี้ยงวัว ทั้งหมดนี้ก็ด้วยการเก็บ Data จากวัวแต่ละตัวมาประมวลผลแบบ Real-time แน่นอนว่าต้องผ่านการเชื่อมต่อความเร็วสูงไร้สายในระดับ 5G จาก True นั่นเองครับ

ฟังดูแบบนี้อาชีพเกษตรกรหรือคนเลี้ยงวัวอาจจะกลายเป็นอาชีพหนึ่งที่คนเมืองอยากออกไปลองทำ ก็จากงานที่เคยยุ่งยากกลายเป็นง่ายขึ้นมาก แล้วไหนจะได้สัมผัสกับชีวิตธรรมชาติท้องทุ่งที่เหมือนพักผ่อนตลอดทั้งปีอีกล่ะครับ

สิทธิพิเศษอัจฉริยะ

อย่างที่บอกไปครับว่าอีกหน่อยเราอยากรู้อะไรแค่เปิดกล้องมือถือแล้วส่องไป เท่านั้นข้อมูลที่เราต้องการก็จะโผล่ขึ้นมาภายในเสี้ยววินาที เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ True 5G AR Application แล้วเหมือนกัน คือลูกค้าทรูสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์พิเศษมากมายด้วยการสแกนโลโก้ร้านหรือแบรนด์ที่จะช้อปก็จะได้รู้เลยว่าเรามีสิทธิพิเศษอะไรจากทรูรออยู่บ้าง

สรุปได้ว่าจากเดิมถ้าอยากรู้ว่าเรามีโปรอะไรอยู่บ้างก็ต้องเปิดแอปแล้วค้นหาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอ แต่ด้วย True 5G แค่หยิบมือถือมาสแกนที่โลโก้ก็จบได้ครบทุกโปรไม่พลาดแล้ว

การเชื่อมต่ออัจฉริยะ

ตั้งแต่เราต้องหยุดอยู่บ้านในช่วง Social distancing เพราะโควิด19 ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าจริงแล้วการประชุมทางออนไลน์ หรือการเรียนการสอน การพูดคุยแบบเห็นหน้าทางออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ผมคนนึงที่ต้องสอนหนังสือ 3 คณะผ่านออนไลน์ในช่วงกักตัวอยู่บ้าน ก็ต้องเสียเงินใช้แพลตฟอร์มต่างๆ เป็นเงินไม่น้อยเลยทีเดียว แต่วันนี้ทาง True เองก็เปิด VRoom ให้กับคนที่ต้องการประชุมออนไลน์ไม่ว่ากับเรื่องใดก็ตามสามารถเข้าถึงได้ฟรี คุณจะใช้เปิดคลาสเรียนก็ได้ จะใช้คุยรวมกลุ่มกับเพื่อนก็ได้ หรือจะจัดมีตติ้งกับแฟนๆ ทางออนไลน์ก็ได้สำหรับคนที่เป็น Influencer ครับ

และทั้งหมดนี้ก็คำตอบของคำถามที่คนส่วนใหญ่มักสงสัยว่า 5G ดีอย่างไร? 5G คืออะไร? และ 5G จะมาเมื่อไหร่? ตอนท้ายของโฆษณาชุดนี้ทาง True ตอบแล้วว่าพร้อมให้บริการแล้วทั่วประเทศ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เข้าสู่ยุค Genius Generation ชีวิตในยุคอัจฉริยะ ยุคที่ทุกสิ่งรอบตัวล้วนทำงานได้แบบอัตโนมัติ เหลือก็แค่เราจะเอา 5G ไปใช้อย่างไรเพื่อให้ชีวิต 5G ดีกว่าเมื่อวาน