ทำไมถึงต้องมี Instagram Shop?

ยุคนี้การ Shopping ผ่าน Social Commerce เป็นเรื่องปกติไปแล้ว โดยเฉพาะหลังการกักตัวเนื่องจาก COVID19 ที่ทำให้คนไทยหลายๆ คนได้เรียนรู้วิธีการช้อปปิ้งออนไลน์กันเพิ่มขึ้น ร้านและแบรนด์ต่างๆ เองก็เช่นกัน หลายร้านปรับตัวเข้าสู่ออนไลน์เพิ่มขึ้น ขายของผ่าน Marketplace บ้าง และช่องทางที่พลาดไม่ได้เลยคือ Social Commerce อย่าง Facebook หรือ Instagram Shop ค่ะ

ซึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลเกือบทุกแพลตฟอร์มต่างก็มีการปรับ Features มากมาย เพื่อรองรับพฤติกรรมการซื้อของผ่านออนไลน์กันทั้งนั้น ซึ่งนอกเหนือจาก Facebook ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ วัยทำงาน ไปจนถึงรุ่นคุณแม่ คุณยายแล้ว ก็ช่องทาง Instagram เนี่ยแหละที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่หลายๆ แบรนด์เลือกใช้ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ ยิ่งถ้าเป็นร้านแม่ค้า พ่อค้าออนไลน์ที่เพิ่งหัดขายของละก็ ช่องทางแรกคงหนีไม่พ้น ไอจีแน่นอนค่ะ

ข้อดีของการโพสต์ภาพขายของบน Instagram อย่างนึงเลยก็คือ การมองเห็นและเลือก Shop นั้น ทำได้ง่ายกว่า Facebook และสื่อโซเชียลอื่นๆ อยู่มาก เพราะถ้าเราลงขายใน Facebook หรือ Twitter โพสต์มักจะเรียงตัวเป็นแนวดิ่ง ที่จะค่อยๆ จมลงๆ เวลาลูกค้าใหม่ที่ไม่ได้ติดตามเพจเราตลอดเข้ามา ก็จะค้นหาสินค้าของเราได้ยาก มองหาได้แค่ Recent posts ไม่กี่อันต้นๆ ค่ะ แต่นี่ยังไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำไมคุณถึงควรทำขายของผ่าน Instagram เพราะไอจีมีฟีเจอร์ Shop ที่ทำให้การขายของมันดีและน่าช้อปกว่าเดิมค่ะ

1. Experience ของลูกค้าที่ดีขึ้น

อย่างที่บอกว่าการช้อปปิ้งบนไอจีนั้นง่ายกว่าที่อื่น แต่การมี Shop บนไอจีนั้นทำให้การติด Tag สินค้าและการซื้อของนั้นง่ายยิ่งเข้าไปอีก เพราะเวลาที่เรามี List ขายของหลายอย่าง แต่เราลงรูปแค่สินค้า SKU เดียว เราก็จะสามารถ Tag สินค้าเฉพาะ SKU เดียวนั้นได้ หรือคละกับ SKU อื่นๆ ที่อยู่ในเฟรมได้ ดังนั้นการช้อปปิ้งในฝั่งลูกค้าก็ง่ายขึ้นหลายเท่าตัว เพราะลูกค้าจะไม่จำเป็นต้องไปนั่งหาว่าสินค้าตัวนี้นั้น คือสินค้าตัวไหนกันแน่ในร้านหรือแบรนด์ของเราค่ะ

นอกจากนั้นการติด Tag ยังสามารถ Link ไปที่รายชื่อสินค้านั้นได้เลย ทำให้ลูกค้าสามารถรู้ราคาและ Check out ได้เลยทันทีด้วย และการทำทุกอย่าง ตั้งแต่ Search > Attention จนไปถึง Ask และ Action ได้ในแพลตฟอร์มเดียว ก็จะทำให้ Friction และ Drop out rate น้อยลงด้วยค่ะ 

2. การทำการตลาดแบบ Direct-to-Consumer

สมัยนี้เวลาที่คนต้องการอะไร หรือสนใจอะไร คนก็มักจะมาหาสินค้าเหล่านั้นผ่าน Instagram ก่อนเป็นหลัก มากกว่าการเข้าผ่าน Website หรือหน้าบ้านของแบรนด์ด้วยซ้ำ เพราะมันคือสถานที่ที่ลูกค้าจะเข้าไปเพื่อเสพทั้งสินค้าและ Mood ของแบรนด์โดยรวมว่าถูกจริตกับเราหรือเปล่า ถ้าใช่ละก็ Process ของการตัดสินใจก็จะสั้นลง เพราะในไอจีก็จะมีทั้ง comment หรือ hashtags มากมายให้เรา Browse ต่อ จนเกิดเป็นระยะทางที่สั้นลง ไม่ต้องออกไปข้างนอกแพลตฟอร์มให้ยุ่งยากอีก

และอย่างที่บอกคือ การที่เราสามารถทำ Direct-to-Consumer Marketing แบบนี้ ก็จะสามารถช่วยเสริม ROI หรือ Return on investment ได้ ไม่ว่าจะด้วยความสะดวกสบายที่ซื้อง่าย Check out ง่ายแล้ว Shop ของไอจียังสามารถ Record ชื่อ-ที่อยู่และรายละเอียดการส่งสินค้าเอาไว้ให้อัติโนมัติ ทำให้เวลาที่ลูกค้าสั่งสินค้าผ่าน Shop ของเราก็ไม่ต้องพิมใหม่หลายๆ รอบแล้วค่ะ

3. กระตุ้นการซื้อและตัดสินใจได้ทันที

อย่างที่บอกว่าทั้งการติด Tag และราคาที่พร้อม Check out ก็สามารถกระตุ้นความอยากได้เร็วขึ้น เหมือนที่เค้าบอกว่าเวลาที่เราจะตีเหล็ก ก็ให้เราตีตอนมันร้อนๆ ดังนั้นหากเรา Shortcut ระยะทางการตัดสินใจของลูกค้าด้วย IG Shop แล้วละก็ ความสะดวกสบายนี้ก็จะช่วยให้ลูกค้าที่เกิดความอยากแล้ว สามารถกดซื้อ ปิดยอดได้เร็วขึ้นเช่นกันค่ะ

ดังนั้นใครที่เข้าข่ายเปิดร้าน Shop บนไอจีได้ อย่าลืมรีบไปตั้งค่าให้พร้อม เพื่อให้ลูกค้าสามารถ Shop และตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง และถ้าเป็นไปได้ เพลินอยากแนะนำให้มีคนพร้อมคุย ตอบลูกค้าผ่าน Inbox ในไอจีได้ด้วยเลย ทั้งนี้ก็เพื่อลด Process ขั้นตอนและ Dropout rate ที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนหรือย้ายแพลตฟอร์มจากไอจีไปแอปแชทอื่นๆ หรือเว็บไซต์เป็นต้นค่ะ อ่านเสร็จแล้วอย่าลืมลงมือเลยนะคะ

ส่วนใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับ Instagram Trends เพิ่ม คลิกตรงนี้ได้เลยค่ะ

Source: analisa.io/blog