วันนี้ลงทุนได้กี่วิธีบ้าง

วันนี้ลงทุนได้กี่วิธีบ้าง
ลงทุนได้กี่วิธีบ้าง 2024

วันนี้ลงทุนได้กี่วิธีบ้างในปี 2024 ที่เศรษฐกิจมีสภาวะที่ยังไม่แน่นอน ควันหลงจากปี 2023 เกิดทั้งโรคระบาดจากโคโรนาไวรัส สงครามรัซเซีย-ยูเครน รวมไปถึงการล้มเป็นโดมิโนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน ที่ทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีการปรับราคาสูงขึ้น

อัตราเงินเฟ้อทั่วทั้งโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าของเงินสดที่เราถืออยู่นั้นมีมูลค่าลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ ทำให้เราต้องมีการโยกย้ายเงินไปลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อในระยะยาว

ซึ่งปัจจุบันการลงทุนก็มีหลากหลายประเภทที่น่าสนใจและให้ลองไปศึกษา ขึ้นอยู่กับความสนใจและชำนาญของแต่ละบุคคล แต่ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงแน่นอน ดังนั้นเราก็ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง เพราะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ข้อดีและเหตุผลที่เราควรลงทุน

เหตุผลที่เราควรลงทุนนั่นก็คือ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ ถ้าสมมติว่าวันนี้เรามีเงินในธนาคารที่ 1 ล้านบาท อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3.5% ต่อปี ภายในปีข้างหน้า เงิน 1 ล้านของเราจะมีมูลค่าลดลง เพราะด้วยจำนวนเงินเท่าเดิม เราสามารถซื้อของได้น้อยลง

เนื่องจากผลตอบแทนของเงินฝากธนาคารในปัจจุบันอยู่ที่ 0.25% – 1.5% ต่อปี โดยอย่างยิ่งในสภาวะที่เกิดสงครามเช่นนี้ ราคาข้าวของเครื่องใช้มีการปรับราคาขึ้นอยู่ในระดับที่สูงมาก ทั้งราคาเนื้อ หมู หรือแม้กระทั่งน้ำมัน เราจึงควรลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ให้ได้ผลตอบแทนให้ได้มากขึ้น มากกว่าดอกเบี้ยจากการฝากเงินกับธนาคาร

ซึ่งการลงทุนจะผลักดันการเติบโตทางการเงินและให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่จะได้รับ ” High Risk High Expected Return ” ซึ่งแปลว่า อะไรก็ตามที่เสี่ยงมาก ความคาดหวังต่อผลตอบแทนก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย

เพราะผลตอบแทนที่จะได้คือ การชดเชยเวลา เพื่อที่จะได้รับเงินมากขึ้น และสามารถใช้ในการบริโภคมากขึ้น โดยวัตถุประสงค์หลักของเราคือต้องการผลตอบแทนมากกว่าเงินเฟ้อ และมูลค่าสินทรัพย์คงที่ แต่ได้ผลตอบแทนสูง

ซึ่งในปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีความทันสมัยและช่วยให้เราลงทุนได้ง่ายมากขึ้น เราจึงเข้าถึงการลงทุนได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ถ้าหากเราสามารถเลือกใช้เครื่องมือได้อย่างถูกต้อง ก็จะทำให้เราสามารถศึกษาข้อมูลได้อย่างละเอียดและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเบื้องต้นได้ รวมถึงสามารถวางแผนรับมือความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ดี

ตัวอย่างการลงทุนในยุคปัจจุบัน

เมื่อนึกถึงการลงทุน การลงทุนอันดับแรก ๆ ที่ทุกคนพูดถึงและเป็นที่นิยมนั่นก็คือ

1. หุ้น เนื่องจากหุ้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว สามารถเริ่มต้นด้วยจำนวนยอดเงินที่น้อยได้ มีการจ่ายปันผลสำหรับหุ้นบางตัว ทำให้ยังมีเงินสดไหลเข้ามาแม้เราจะเกษียณไปแล้วนั่นเอง รวมไปถึงยังมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. เป็นผู้ดูแลตลาดหุ้น

ทำให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่า มีคนควบคุม กำกับดูแลให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่ตั้งไว้นั่นเอง เหมาะกับคนทั่วไปที่ต้องการลงทุนและรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางจนถึงสูง ต่อมาเป็น การลงทุนใน สกุลเงิน หรือที่คนไทยเรียกว่า

2. Forex นั่นเอง ถือเป็นตลาดที่มีมูลค่าการเทรดสูงที่สุดต่อวัน มีมูลค่าการเทรดใหญ่กว่าตลาดหุ้นถึง 25 เท่า มีความเสี่ยงที่สูงกว่า เป็นการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ประเภทต่าง ๆ เช่น สัญญาฟิวเจอร์ สัญญาฟอร์เวิร์ด ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิง ไม่ว่าจะเป็นสกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ รวมไปถึงน้ำมัน ทองคำ เป็นต้น เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับที่สูง มีการรับฟังข่าวสารอยู่ตลอดเวลา

3. อสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของคอนโด บ้าน ที่ดิน ซึ่งสามารถหากำไรได้จากทั้งการเกร็งกำไรของราคาสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น หรือจะเป็นในรูปแบบของรายได้ค่าเช่าที่สามารถปล่อยเช่าให้กับบุคคลที่สนใจจะมาทำธุรกิจในพื้นที่ของตน

ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีเงินก้อนในการลงทุน และมีความรู้เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มีความเข้าใจเกี่ยวกับทำเล ซึ่งอาจจะทำเป็นธุรกิจ Aribnb เป็นการปล่อยที่พักให้กับนักท่องเที่ยว การลงทุนในคอนโด อาจจะได้กำไรจากการขายหรือได้รายได้จากการปล่อยเช่าที่พัก การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ

ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ทำเล, ความนิยมของตลาด, และภาวะเศรษฐกิจท้องถิ่น และควรให้ความสำคัญกับการจัดการและการตลาดเพื่อให้ลงทุนของคุณมีผลสำเร็จ

โดยมีเคสตัวอย่างที่น่าสนใจอย่าง แสนสิริ ที่ในปัจจุบันเป็นที่รู้จักในรูปแบบบ้านและคอนโดมิเนียม สามารถทำผลกำไรสุทธิได้ 3,202 ล้านบาท(อ้างอิงข้อมูลปี 2566) อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนถึง 17.80 %

4. ทองคำ ถือเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในการลงทุนในสังคมไทยมาอย่างยาวนาว เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตของเราได้ มีความผันผวนตามสถานการณ์ของโลก เหมาะกับคนที่สามารถรับความเสี่ยงจากราคาที่ขึ้นลงได้ ไม่ได้ต้องการเงินปันผล รวมถึงยังสามารถดูแลและเก็บรักษาทองไว้ได้ ไม่เกิดการสูญหาย

5. Crytocurrency เป็นเงินดิจิทัลที่ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนเสมือนเงินปกติทั่วไป ซึ่งคุณสมบัติคือ อยู่ในระบบ ไม่มีตัวตนหรือจับต้องได้ สามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆได้นอกเหนื่อจากเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนแล้วแต่ชนิดของเหรียญ

ซึ่ง Crytocurrency ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนได้แก่ Bitcoin ซึ่งถือเป็นสกุลเงินอันดับ 1 ที่มีมูลค่าสูงที่สุด Ethereum, Cardano รวมไปถึงเหรียญสัญชาติไทยที่เกิดจากบริษัทในประเทศไทย อย่างเช่น  BitKub Coin หรือ Coin JFIN เหมาะกับคนที่มีความรู้เกี่ยวกับด้าน Block Chain เป็นอย่างดี สามารถรับความเสี่ยงได้สูง และยังต้องมีการติดตามข่าวสารของเหรียญที่ลงทุนอยู่อย่างสม่ำเสมอ

6. การลงทุน ใน Start-up เป็นบริษัทหรือธุรกิจที่อยู่ในระนะเริ่มต้น มีลักษณะที่นำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการ ด้าน นวัตกรรมและมีความคิดสร้างสรรค์ โดยมักจะมีการใช้เทคโนโลยีหรือแนวคิดที่ไม่เคยมีมาก่อน เหตุผลหลักที่นำไปสู่การก่อตั้ง Start-up มักเกิดจากความต้องการแก้ไขปัญหาหรือการพัฒนาบริการใหม่ที่สามารถตอบสนองต่อตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

เหมาะสำหรับนักลงทุนรายย่อย, Venture Capitalists, หรือการใช้แพลตฟอร์ม Crowdfunding เพื่อระดมทุนในระยะเริ่มต้น ในการลงทุนธุรกิจนี้ มีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสสร้างกำไรได้มหาศาลเช่นกัน

โดยมีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และมีผลการเติบโตที่รวดเร็ว เช่น Grab ที่เป็นผู้ให้บริการแท็กซี่ และยังคงขยายธุรกิจออกไปในด้านการขนส่งคน สิ่งของ และอาหารหรือ Food Delivery

แอปที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่คุณควรมีติดเครื่องไว้

  1. Streaming – แอปที่สามารถให้เราลงทุนในหุ้น รวมถึง​ ETF ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ติดตามข่าวสารและราคาของหุ้นที่คุณสนใจได้อย่าง realtime
  2. Binance เป็นแอปที่สามารถให้เราลงทุนได้ใน Crytocurrency เป็นกระดานเทรด Cryto อันดับ 1 ของโลกที่ให้เราได้เข้าไปแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลผ่านกระดานเทรด
  3. Investing ป็นแอปที่รวบรวมข่าวสารและราคาของสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งหุ้น Crytocurrency ทองคำ สกุลเงิน รวมไปถึงกองทุนได้อีกด้วย

สรุป

วันนี้ลงทุนได้กี่วิธีบ้างในปี 2024 อาจจะไม่ได้มีความแตกต่างจากปีที่แล้วมากนัก แต่การลงทุนหรือการเข้าถึงการลงทุนมันไม่ใช่เรื่องยากและไกลตัวของเราอีกต่อไป เนื่องด้วยความง่ายของการเข้าถึงเครื่องมือการลงทุน

การมีเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการลงทุนและติดตามข่าวสารในปัจจุบัน ทำให้เราสามารถลงทุนได้จากที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีอุปกรณ์ในการเข้าแอปและสัญญาอินเทอร์เน็ต

การลงทุนของคุณก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย แต่คุณต้องไม่ลืมเสมอว่า ควรศึกษาหาความรู้ก่อนการลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินก่อนตัดสินใจ

อ้างอิง

อ้างอิง 1, อ้างอิง 2, อ้างอิง 3, อ้างอิง 4, อ้างอิง 5

หากสนใจอ่านบทความเพิ่มเติมของผู้เขียน สามารถกดที่ตรงนี้ได้เลย

Brainbruch

Analyst คนนึงที่ชื่นชอบการหาความรู้ใหม่ ๆ และอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้ลองอ่านกันครับ!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *