E-Sports ในวันนี้ไม่ใช่แค่เทรนด์เท่ห์ๆอีกต่อไป แต่กลายเป็นสื่อใหม่ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่มาก และกลุ่มคนที่เล่นเกมในวันนี้ก็ไม่ได้มีแค่เด็ก แต่กลายเป็นกลุ่ม Millennials ที่เริ่มโตขึ้นแถมยังมีกำลังซื้อสูงไม่น้อย จนทำให้ Luxury Brand อย่าง Louis Vuitton ต้องเอาลวดลาย Louis
มาถึงตอนที่ 3 ของบทความชุด Hyper-Personalization ในตอนแรกเราพูดถึงเรื่องความต่างระหว่าง Personalization กับ Hyper-Personalization รวมถึงว่า Hyper-Personalization นั้นสำคัญอย่างไร แล้วในตอนที่ 2 เราพูดถึง Case
Social Plates เป็นอีกหนึ่ง Digital Idea ที่ Disrupt Digital Behavior จาก Bru น้ำแร่หรูที่จับคู่กับร้านอาหารหรูทั่วกรุงเบลเยียม เพื่อสะกิดให้คนถ่ายรูปอาหารแค่พอประมาณ แล้วหันไปใช้เวลากับคนข้างๆให้มากขึ้น Instagrammable
เมื่อผงซักฟอกในวันนี้สะอาดแทบไม่ต่างกัน แบรนด์เลยต้องหาทางบอกเล่าความสะอาดในรูปแบบใหม่ ใหม่ขนาดที่ว่าต้องทำให้คนทึ่งกับความสะอาดในแง่มุมนั้นก่อนใครจะเคลมไปครับ Vanish ผงซักฟอกเข้มข้นความสะอาดสูงที่มีไอเดียโชว์พลังความสะอาดในมุมใหม่ที่ไม่เหมือนใคร เพราะแม้แต่ผ้าที่ถูกเอามาให้เด็กระบายสีแบบจัดเต็มยังสามารถซักให้ขาวสะอาดเหมือนใหม่ได้ จนดูไม่รู้เลยว่าเคยผ่านการระบายสีสันกันมาแล้วกี่ครั้งครับ Vanish Endless Stories เป็นไอเดียเรียกว่า Creative demonstration ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องทึ่ง และไม่ใช่แค่ทึ่งแบบไร้เหตุผล
ในยุค Cashless Society เราจะสอน Gen Z ในเรื่องการเงินอย่างไรในวันที่นิยามคำว่าเงินไม่ใช่ ธนบัตร หรือเหรียญเงินอีกต่อไป แต่เงินในวันนี้กลายเป็นแค่ตัวเลข digital ไปหมดแล้ว Gen Z หรือคนรุ่นใหม่และวัยรุ่นในวันนี้ไม่ได้เก็บเงินในกระปุกออมสินเหมือนคนรุ่นก่อนแต่อย่างไร
ในบทที่แล้วที่เราพูดคุยกันว่าทำไมธุรกิจหรือแบรนด์ในวันนี้ควรต้องรีบเริ่มทำการตลาดแบบ Hyper-Personalization และความต่างระหว่าง Personalization กับ Hyper-Personalization นั้นต่างกันอย่างไร ตอนนี้เราจะมาดูกันว่ากรณีศึกษาจาก 4 แบรนด์ดังระดับโลก อย่าง Amazon.com Starbucks Spotify และ
![[ux writing] Grab! มัดใจลูกค้าด้วยการเขียนบันทึกจาก Data ลูกค้า](https://www.everydaymarketing.co/wp-content/uploads/2020/01/1_lYlUNQAUghUPiCRxF8ZOqQ-1.png.webp)
เคยมั้ย? ใครสักคนที่จำเรื่องของเราได้ เรื่องที่แม้แต่ตัวเราเองยังจำไม่ได้เลย วันนี้เรามาดูเทคนิคจากแอปสั่งอาหารชื่อดัง ที่ฉลาดใช้ข้อมูลมาเขียนเป็นบันทึกสั้นๆเพียง 4–5 หน้า แต่อ่านแล้วรู้สึกน่าร้ากกก บ่ายวันใกล้สิ้นปี ขณะนั่งเบื่อๆอยู่ในรถ เลยลองเปิดแอปสั่งอาหารมาดูเล่น มือก็เลื่อนไถมาดูโปรโมชันใหม่ๆว่ามีอะไรบ้าง เอ๊ะ! มีแคมเปญอะไรดูไม่คุ้นขึ้นมา ไหนๆลองเข้าไปดูกันหน่อยยย
ว่ากันว่าการตลาดที่ดีคือการสร้างความประทับใจให้คนไม่รู้ลืม โดยเฉพาะในยุค Attention economy ที่ทุกแบรนด์ต่างก็พยายามแย่งชิงความสนใจจากผู้บริโภคมากที่สุด ดังนั้นแบรนด์ไหนที่สามารถทำให้คนประทับใจได้ขั้นสุดก็ย่อมจะกลายเป็นแบรนด์ที่ฝังไปในใจคนๆ นั้นไปอีกนาน และยิ่งทุกครั้งที่ได้กลับมาเห็นภาพความประทับใจนั้นก็ยิ่งเป็นการสะกิดต่อมความจำให้ความรู้สึกที่เรียกว่า Brand love กลับมาอีกครั้งครับ ก็เหมือนกับที่ True ทำ Memorable
YouTube แพลตฟอร์มของเครื่องสร้างเงินสำหรับคนที่ขยันทำวิดีโอแล้วอัพโหลดขึ้นไป เพราะโมเดลการสร้างรายได้ของ YouTube คือทุกครั้งที่มีคนเข้ามาดูคลิปคุณแล้วมีโฆษณาโผล่ขึ้นก่อนเข้าคลิป ทุกครั้งที่แสดงผลหรือมีคนดูทาง YouTube จะแบ่งรายได้ให้คุณส่วนหนึ่ง และด้วยกลไกการสร้างรายได้ที่ตรงไปตรงมานี้ส่งผลให้บรรดา YouTuber พยายามสร้าง content หรือเนื้อหาต่างๆอัพโหลดขึ้นไปอยู่ตลอดเวลาเพื่อโกยยอดวิวให้มากที่สุดครับ ดังนั้นถ้าคุณเป็น YouTuber
#ComeOnIn แคมเปญการตลาดของสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คชื่อดัง The Sydney Opera House ในประเทศออสเตรเลีย ที่ต้องการเชิญนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กว่า 99% ที่เอาแต่ยืนถ่ายรูปอยู่ข้างนอกแต่ไม่เคยเดินเข้าไปข้างใน จากปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Bystander effect (เอาแต่ยืนดูอยู่ข้างนอกแล้วก็ไป) ด้วยการใช้