แคมเปญการตลาดด้าน Data-Driven ที่จะเล่าให้ฟังในวันนี้ คือการปรับแต่งโฆษณาด้วยระบบ Programmatic ตามความสามารถในการ Delivery ของ McDonald’s ที่ประเทศสิงค์โปรที่ลดเสียงต่อว่าจากอาหารส่งช้าของพื้นที่ๆ มีออเดอร์เข้ามาพร้อมกันมากมาย และเอางบที่ลดไปเพิ่มให้กับพื้นที่ๆ ยังมีพนักงานส่งนั่งว่างอยู่มากมายให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพไม่ Overload ครับ
Category: Digital
การตลาดแบบ Personalization ไม่ได้จำกัดอยู่กับแค่คน แต่ยังสามารถเอาไปใช้กับ Pet สัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขก็ยังได้ผลดีไม่แพ้กันครับ เหมือนที่ Puppo แบรนด์อาหารสุนัขแบบสมัครสมาชิกที่มีจุดขายคือพวกเขาทำอาหารสุนัขแบบ Personalized Pet Food เพราะพวกเขาเข้าใจว่าสุนัขแต่ละตัวต้องการอาหารที่แตกต่างกัน พวกเขาเลยทำ Personalized
Coty Inc. ธุรกิจความงามยักษ์ใหญ่ที่ร่วมกับบริษัทในเครือผู้ผลิตทำการตลาดจัดจำหน่ายและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามทั่วโลก โดยแบ่งดำเนินการในสามส่วนคือ 1.Luxury จะมีผลิตภัณฑ์น้ำหอมและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางผ่านร้านค้าปลีกหลายแห่งรวมถึงน้ำหอมห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลอดภาษี 2. The Consumer Beauty โดยผ่านไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าระดับกลาง 3. Professional
EPนี้ ผมอยากออกแบบชุดเทคโนโลยีการตลาด หรือที่เรียกกันว่า Martech Stacks ด้วยงบประมาณ 50ล้านต่อปี โดยการใช้ Technology suit จากบริษัทชั้นนำต่างๆมาประกอบเพื่อให้ทุกท่านเห็นภาพว่า ด้วยการลงทุนระดับนี้ เราจะได้ประโยชน์ด้านการตลาดแบบไหนบ้าง
สาวๆหลายคนคงทราบดีว่า Sephora เป็นธุรกิจค้าปลีกที่รวบรวมเครื่องสำอางค์และสกินแคร์ต่างๆไว้ในที่เดียวซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยมี 1,900 สาขาทั่วโลก ใน 29 ประเทศ ซึ่งกว่า 200 ร้านนั้น ตั้งอยู่ในแถบเอเชียแปซิฟิกในหลายประเทศเช่น ออสเตรเลีย จีน
Re-Targeting โฆษณาออนไลน์ที่คนส่วนใหญ่บอกว่ารำคาญ โดยเฉพาะโฆษณาประเภทแบนเนอร์ที่คอยตามหลอกหลอนไปทุกเว็บนานๆ นี่ยิ่งทำให้คนอย่างเรารำคาญเข้าไปใหญ่จริงมั้ยครับ วันนี้ผมมีเคสแคมเปญการตลาดที่ฉลาดในการทำโฆษณาแบบ Re-Targeting Creativity ที่คอยตามเราไปทุกเว็บเหมือนเดิมให้คนไม่รำคาญอีกต่อไป กับแคมเปญที่ชื่อว่า Web Companions ของ Austin Humane Society
นี่คือแคมเปญการตลาดในยุค Data-Driven Marketing Campaign ที่แม้จะมีงบการตลาดน้อยกว่ามากแต่ก็มีประสิทธิภาพมากกว่าเยอะ เมื่อยาแก้ไอ Prospan มีงบการตลาดไม่มากพอจะสู้คู่แข่งแบรนด์ใหญ่ พวกเขาเลยใช้ Data ที่หลากหลายเข้าสู้ผ่านแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า Don’t Ignore a Cough
ใครจะไปคิดครับว่าถ้าแบรนด์มา Live แค่ครั้งเดียวจะมีคนให้ความสนใจ จนหน้าเพจของแบรนด์เกิด engagement กันอย่างคึกคัก ดึงทั้งลูกเพจเก่า-ใหม่เข้ามาดูได้อย่างน่าสนใจ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วจากมหกรรม Live มาราธอนกับงาน LEO Fest From Home ที่เขาประกาศจัดงาน
Sephora หรือ Retail เครื่องสำอางในเครือของบริษัทยักษ์ใหญ่ LVMH ที่หลังจากมาเปิดตัวในไทย ก็ทำเอาสาวๆ เข้า-ออกร้านกันเพียบ เพราะนอกจากร้าน Retail นี้จะเป็นคลังแสงเครื่องสำอางสำหรับสาวๆ แล้ว ตัวแบรนด์เองยังมีการใส่ใจเรื่องของการมอบประสบการณ์การซื้อที่ดีจนลืมไม่ลงให้กับลูกค้าด้วยค่ะ ปัจจุบันธุรกิจ Retail นี้มีร้านค้าปลีกอยู่ที่ประมาณ 2,300 สาขาทั่วโลก และยังมีคนเข้าเว็บไซต์ออนไลน์กว่า 2.3
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำเหยียดผิว GO BACK TO AFRICA กันสักนิดว่าคืออะไรค่ะ ที่ผ่านมา เพลินเชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยินคำด่ายอดฮิต ที่ตอนนี้ถ้าใครยังใช้ประโยคนี้อยู่ คงต้องโดนตราหน้าว่า เป็นพวกเหยียดเชื้อชาติแน่ๆ นั่นก็คือคำว่า “ลาวมากอะ” หรือ “อย่าลาวได้ปะ” ที่นัยยะจริงๆ คือ ‘เสี่ยว’ หรือเชยสะบัดจนน่าอายค่ะ ซึ่งประโยคต่อว่าที่มีชื่อประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องคล้ายๆ กันนี้