วันนี้ปลื้มไปเจอไอเดียดีๆ เลยอยากเอามาเล่าให้ฟังกัน เป็นเรื่องเกี่ยวกับแอปเปิล จากฟาร์ม Stemilt แล้วเกี่ยวอะไรกับการ ‘ค้นหาตั๋วทองคำ’ นั้นก็เพราะว่าก่อนหน้าเขาได้ทำการตลาด โดยการส่งเสริมการขาย แอปเปิลพันธุ์ Raves ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในรัฐวอชิงตันค่ะ ซึ่งมันมีความน่าสนใจตรงที่แอปเปิล ของ Stemilt
ตอกย้ำกระแส Cryptocurrency ที่มาแรงขึ้นมากในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเภทคริปโตอย่าง NFT หรือ Non-Fungible Token ที่ตอนนี้เริ่มได้ยินชื่อของมันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แบรนด์อย่าง Bacardi ไม่รอช้า รีบรุกลงตลาด
อย่างที่เรารู้กันดีว่าธุรกิจเกือบทุกประเภทนั้นได้เริ่มเข้าสู่การทำ Digital Marketing อย่างจริงจังแล้ว แต่สำหรับวงการธุรกิจ B2B ในไทยอาจจะยังคิดหนัก เพราะโมเดลธุรกิจประเภทนี้ต้องอาศัยกระบวนการคิด และพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ จึงทำให้ผู้ประกอบการอาจจะรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจว่าการกระโดดเข้ามาในตลาดดิจิทัลนั้นจะได้ผลดีกว่าการส่งเซลล์ไปหาลูกค้าหรือเปล่า แต่ข้อมูลล่าสุดจากโครงการ Thailand Digital Outlook ของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินั้นระบุว่า
หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเริ่มดีขึ้น ในต่างประเทศเค้าก็เริ่มออกเดินทางไปไหนมาไหนกันแล้วค่ะ โดยเฉพาะกับการเดินทางแบบขับรถท่องเที่ยวภายในประเทศ ทำให้แบรนด์รถยนต์อย่าง Nissan เห็นโอกาสในการทำแคมเปญโปรโมตรถรุ่นใหม่ ด้วยการเกาะกระแสขับรถท่องเที่ยวแบบนี้ แต่จะแบรนด์เค้าจะทำอย่างไรนั้น มาดูกันเลยค่ะ ก่อนหน้านี้เพลินเคยเขียน Marketing Campaign ที่ทำ Execution ผ่านช่องทางที่เป็นแพลตฟอร์มบอกเส้นทางไปบ้างแล้ว
เรื่องของดวงต่างๆ ไม่ได้มีแค่คนไทยที่ชอบเสพนะคะ แต่ต่างประเทศเค้าก็ชอบเสพพวก Horoscope คำทำนายราศีอะไรพวกนี้เช่นกัน วันนี้เจอ Case Study น่ารักๆ สนุกๆ ของแบรนด์ Cadbury Twirl ที่มีการเอาเรื่องเหนือธรรมชาติมาเป็น Marketing
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ในยุค New Normal ที่เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันและคอยเสิร์ฟทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค ทำให้ ธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจ SME ต้องพยายามปรับตัวอย่างเร่งด่วนเพื่อตอบสนองให้ทันกับความต้องการของลูกค้าl แต่การแย่งชิงพื้นที่บนโลกออนไลน์ เพื่อให้มีตัวตนมีคนรู้จักและเข้าถึง คนจำนวนมากได้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก
รู้จักวิธี Lead Generation ต้อนคนแปลกหน้าให้มาเป็นลูกค้าดูเป็นโจทย์ที่ท้าทาย แต่ในฐานะนักการตลาด หรือ เจ้าของธุรกิจ คุณคิดว่าขายของให้กับคนแบบไหนง่ายกว่ากัน ระหว่างคนที่สนใจสินค้าและบริการของเราอยู่แล้ว กับคนที่ไม่เคยสนใจสินค้าเรามาก่อนเลย? แบมเชื่อว่าไม่ว่าใครก็ต้องตอบแบบแรก 100% ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วว่าขายให้คนที่มีความสนใจ ย่อมมีโอกาสปิดการขายได้ง่ายกว่า แต่ที่น่าแปลกใจก็คือเมื่อลองไปสอบถามหลายๆ
การตลาดครีมในประเทศเราต้องบอกว่าไหนจะ Counter Brand ไหนจะแบรนด์ SMEs ยังมีแบรนด์หิ้วจากต่างประเทศ ทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น เยอรมัน ฝรั่งเศส อเมริกา ออสเตรเลียมากมาย บอกเลยว่าแก่งแย่งลูกค้ากันในจุดขายเดิมๆ จนลูกค้าเลือกไม่ถูก เพราะการซื้อ Skincare ไม่เหมือนเครื่องสำอางที่มีอารมณ์อยากเสียเงินก็กวาดๆ มันลงกระเป๋าได้ วันนี้เพลินก็เลยจะมาแชร์กลยุทธ์ไอเดียของแบรนด์ Amareta ที่ ขายครีม แบบไม่ซ้ำใคร
มาดู Tactics ล่าสุดของแบรนด์เครื่องสำอางไทยเจ้าดังอย่างศรีจันทร์กันค่ะ เพราะล่าสุดแอบไปเห็นว่ามีการ Collab กับ Twitter Influencers หรือคุณเอริ (@eri_pmpm) ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Personal Color ที่มีประสบการณ์ตรงจากประเทศญี่ปุ่นในฐานะ Color
ก่อนเข้าเรื่องต้องขอถามก่อนเลยว่ามีใครที่ทุกวันนี้ไปไหนแล้วไม่ต้องเปิด Google Maps บ้างคะ? เพลินเชื่อเลยว่าต้องมีหลักๆ คือรุ่นเก๋า รู้เส้นทางหมดแล้วจนได้ขนานนามว่าเป็น Taxi แต่อีกกลุ่มที่เชื่อว่าเยอะมากๆ อย่างน้อยถ้าไม่เปิด Maps มานำทาง ก็เปิดก่อนออกเส้นทางเพื่อดูว่า ไปเส้นถนนไหนดีที่รถติดน้อยที่สุดใช่ไหมคะ? วันนี้เพลินเจอตัวเลขน่าสนใจจากทีม The Web Fixer ที่เค้าสรุปตัวเลขเกี่ยวกับ Maps ของอากู๋มาให้ เลยเอามาสรุปแล้วแชร์ให้นักการตลาดออนไลน์ฟังกันค่ะ จริงๆ กูเกิ้ลแมพส์เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทุกๆ ธุรกิจควรมี