Marketing Case Study จากบ้านเราเอง – วิธีช่วยลดอุณหภูมิกลางแจ้งให้ ‘เกษตรกร’
การตลาดวันละตอนมักนำ Case study ที่เกี่ยวกับการตลาดดี ๆ และน่าสนใจมาแชร์ให้กับทุกคนได้อัปเดตไอเดียกันเสมอ แต่ครั้งนี้จะพิเศษซักหน่อย เพราะเป็นเคสจากบ้านเราเอง ที่หลายเว็ปไซต์การตลาดต่างประเทศแชร์กันเยอะมาก บอกตามตรงเลยว่านุ่นรู้สึกดีใจที่ได้หยิบเล่าให้ฟังในบทความนี้สุด ๆ ค่ะ
นั่นคือแคมเปญ Shelter Signboard 2022 ที่จัดโดย ปุ๋ยตรามงกุฎ ฟังก์ชั่นหลักของน้องคือสามารถสวมไว้บนหลัง เพื่อช่วยบังแดดให้แก่กลุ่มลูกค้าหลักคือเกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ที่ต้องทำงานท่ามกลางแสงแดดและความร้อนระอุของประเทศไทย แค่ทุกวันนี้เราออกจากบ้านไม่กี่นาทีก็ลมจะจับแล้ว พี่น้องเกษตรกรต้องอยู่กลางแจ้งหลักชั่วโมงจะขนาดไหนล่ะเนี่ย
ที่มาที่ไปของ Shelter Signboard 2022
ว่าด้วยประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลก มีเกษตรกร (ชาวนา) ทำงานปลูกข้าวกว่า 4 ล้านคนทั่วประเทศ ต้องทำงานกลางแจ้งรวม 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในอุณหภูมิที่สูงถึง 44.6°C ส่งผลให้มีเกษตรกรราว 38 รายเสียชีวิตจากโรคลมแดดค่ะ
แบรนด์เล็งเห็นปัญหาและต้องการสร้าง Solutions ให้แก่ชาวเกษตรกร รวมทั้งเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อเกษตรกร สามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าแบรนด์เข้าใจลูกค้าเป็นอย่างดี ว่าทำงานกลางแจ้ง และต้องอาศัยอะไรบังแดดซักหน่อยโดยที่ต้องไม่เกะกะการทำงาน Shelter Signboard จึงถูกออกแบบมาเป็นลักษณะสีสะท้อนแสงเปลี่ยนทิศทางการแผ่รังสีแสงอาทิตย์ ช่วยลดความร้อนได้ 3-4°C เลยทีเดียว
นอกจากนี้บน Shelter Signboard ยังดีไซน์ที่เห็นแล้วเผลอยิ้มออกมา เช่น ข้อความดีดีที่ให้กำลังใจคนทำงาน หรือเชื่อมโยงกับการใช้งานจริง เช่น ออกแดด เพื่อออกรวง | ย่อดำ ย่อเกี่ยว ไม่ย่อท้อ เรียกได้ว่ารวบรวมข้อความเชียร์และขอบคุณสำหรับการทำงานหนักไว้หลากหลายประโยคเลย แน่นอนว่าในทางการตลาด Shelter Signboard ไม่ต้องขาดโลโก้ของแบรนด์เพื่อใช้ PR ฟรีต่อไปได้เรื่อย ๆ
นอกจากนี้ป้าย Shelter กลายเป็นของขวัญหรือกำนัลที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในชุมชนเกษตรกร ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยถูกเผยแพร่ออกไปทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์เลยค่ะ นอกจากนี้แคมเปญดี ๆ ของตรามงกุฏยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกษตรกรรายอื่นๆ สร้างป้าย Shelter Signboard ของตนเองเพื่อลดปัญหาการทำงานด้านการเกษตรด้วยนะคะ
เป็นแนวทางใหม่ในการมองนวัตกรรม นั่นคือ เป็นโซลูชันใหม่ที่เรียบง่าย แต่ได้รับความช่วยเหลือและตอบรับจากผู้ใช้จริงอย่างแท้จริง
คุณภาคย์ วรรณศิริ Chief Creative Officer ของ Wunderman Thompson Thailand
นุ่นคิดว่าแคมเปญนี้เป็นตัวอย่างที่ดีมากหากเราต้องการสร้างมากกว่าการรับรู้แบรนด์ค่ะ หากสามารถทำการตลาดไปพร้อมกับสนับสนุนชุมชนเกษตรกรในท้องถิ่นได้ขอให้อย่างลังเลเลย เพราะผู้บริโภคตอนนี้จดจำแบรนด์ได้ดี มีภาพชัด รวดเร็ว อิงข้อมูลที่แท้จริงได้ชัวร์กว่าสมัยก่อนมาก ถ้าทำดีก็ได้ใจยาว ๆ สำหรับบางแบรนด์ แต่เป็นทางตรงข้ามล่ะก็รถทัวร์จอดยาว ๆ เช่นกันค่ะ
สรุป Marketing Case Study Shelter Signboard 2022
ถึงแม้ว่าแคมเปญนี้จะเริ่มเปิดตัวจริง ๆ ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ก็ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด จนต้นปี 2022 นี้ได้ต่อยอดแคมเปญทำให้มีการผลิต Shelter ไปแล้วมากกว่า 20,000 ชิ้นเรียบร้อย
และด้วยแคมเปญนี้จัดทำขึ้นพร้อมกับครีเอทีฟเอเจนซี่ Wunderman Thompson Thailand เริ่มต้นด้วยการแจกป้าย 20,000 ป้ายให้กับเกษตรกรทั่วประเทศภายใน 1 เดือน เค้าก็ได้จัดให้ตัวแทนฝ่ายขายจากตรามงกุฏลงพื้นที่ทักทายเกษตรกร พร้อมสาธิตและให้ความรู้การใช้ป้ายสถานสงเคราะห์เหล่านี้ไปพร้อม ๆ กันเลย ดีมากใช่ไหมคะ~ ทั้งหมดทั้งมวลคือ zero media budget แต่ได้ Free PR กลับไปราว ๆ 10 ล้านบาทเลย ซึ่งสื่อต่างประเทศต่างก็ให้ความสนใจเป็นอย่างดีอีกด้วย ฟรี PR ทั่วโลกแบบนี้ถือว่าแคมเปญของปุ๋ยตรามงกฏประสบความสำเร็จอย่างดีเลยค่ะ
ถ้าชอบให้นุ่นนำเคสการตลาดดี ๆ แบบนี้มาแชร์อีกอย่าลืมกดแชร์และคอมเมนต์ให้กำลังใจได้ที่โพสต์ของการตลาดวันละตอนนะคะ และ อย่าลืมติดตามแฟนเพจ รวมไปถึง Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนกันนะคะ ^^
อ่านบทความเกี่ยวกับ Marketing Case Study เพิ่มเติมได้ที่ > https://www.everydaymarketing.co/?s=Case+Study
และสุดท้ายนุ่นขออนุญาตฝากทุกคนมาติดตามสถานการณ์ #ม็อบชาวนา ด้วยกันนะคะ
