Nothing Phone เทคโนโลยีที่โทรได้ สมาร์ตโฟนดีไซน์สุดล้ำและมีเอกลักษณ์

Nothing Phone เทคโนโลยีที่โทรได้ สมาร์ตโฟนดีไซน์สุดล้ำและมีเอกลักษณ์

“Nothing Phone เจาะทุก Insight เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด”

ไม่มีใครที่ปฏิเสธได้เลยว่า สมาร์ตโฟน คือปัจจัยที่ 6 ในชีวิต หากขาดไป 1 วัน คงได้ลงไปนอนดิ้นตายแน่นอน และหนึ่งในนั้นก็รวมเบนซ์ด้วยค่ะ เพราะทั้งชีวิตของเบนซ์อยู่ในนั้นเลย ตั้งแต่ตื่นนอน-ไปจนถึงนอนหลับ แม้ว่าจะทราบกันดีว่ามีไม่กี่แบรนด์ที่ครองตลาดนี้ แต่ก็ยังมีสมาร์ตโฟนที่มีกลยุท์ตอบโจทย์ Insight ของลูกค้ากลุ่มที่หลงไหลเทคโนโลยี และเฟรนลี่กับผู้ใช้อย่าง Nothing Phone เพราะในยุคนี้กลุ่มผู้บริโภคหันมา เลือกซื้อสินค้าที่มีความเฉพาะกลุ่มมากขึ้นเช่น สินค้ารักษ์โลก เทคโนโลยีที่มีความเฉพาะอย่าง เพื่อตอบสนอง Lift style ให้กับตนเอง

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 – Nothing ประกาศเปิดตัว Phone (2) ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นที่ 2 ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ซึ่งได้แนวคิดจาก Insight ของลูกค้าสำหรับการใช้งานสมาร์ตโฟนอย่างชาญฉลาดมากขึ้นโดยนำเสนอ Glyph Interface ใหม่ที่ด้านหลัง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลดการโต้ตอบบนหน้าจอโดยการลดเวลาเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Nothing OS 2.0 ที่ปรับปรุงใหม่ซึ่งมาจากยูทิลิตี้

และออกแบบมาเพื่อลดสิ่งรบกวน และยังมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วในเวลาเดียวกัน แต่ยังคงความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของ Nothing Phone (2) ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon® 8+ Gen 1 ระดับแนวหน้า และยังมอบประสบการณ์ สมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยกล้องคู่ 50MP อันทรงพลังพร้อมอัลกอริทึมขั้นสูงสำหรับการถ่ายภาพที่สมจริงและจอแสดงผล LTPO OLED ขนาด 6.7 นิ้วที่สวยงามน่าทึ่ง

Carl Pei ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Nothing กล่าวว่า “เรานำเสนอฟีเจอร์ชั้นยอดในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการใช้งานสมาร์ตโฟนอย่างตั้งใจมากขึ้น ผ่านนวัตกรรมการออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์” และยังกล่าวอีกว่า “สมาร์ตโฟนเป็นเครื่องมือสำคัญในชีวิตของเรา แต่มันกลายเป็นสิ่งรบกวนสมาธิมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราอยู่กับปัจจุบันน้อยลงและมีความคิดสร้างสรรค์น้อยลง”

สมาร์ตโฟน ที่มีรูปแบบเอกลักษณ์ อยู่ไกลแค่ไหนก็รู้ว่า Nothing Phone

Nothing ออกแบบสมาร์ตโฟน รุ่นใหม่ อย่างพิถีพิถันด้วยความใส่ใจในรายละเอียด ที่นำเสนอความงดงามที่เพิ่มมากขึ้น โดยวิธีการออกแบบที่สอดคล้องและสมมาตร และคำนึงถึงรูปทรง สี ตำแหน่ง และพื้นผิวของแต่ละส่วนประกอบ นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์การใช้งานจริงตามหลักสรีรศาสตร์ด้วยเฟรมกลางที่บางลง 1 มม. และกระจกด้านหลังที่นูนขึ้น

ลดการโต้ตอบบนหน้าจอ มีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น

หลักสำคัญของการออกแบบสมาร์ทโฟน Nothing คือ Glyph Interface ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันมากขึ้น ลดการโต้ตอบบนหน้าจอ ผู้ใช้สามารถกำหนดลำดับแสงและเสียงส่วนบุคคลให้กับผู้ติดต่อแต่ละคน และแต่ละแอปได้ เพื่อรับรู้การแจ้งเตือนที่สำคัญ

Nothing ปรับปรุง Glyph Interface อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการเพิ่มจำนวนส่วน LED เพื่อให้สามารถปรับแต่งและใช้งานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น ตรวจสอบระดับเสียง และจับเวลา ขณะที่การแจ้งเตือน Essential Glyph ช่วยให้ผู้ใช้ไม่พลาดสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากผู้ติดต่อหรือแอปที่เลือกไว้ ไฟ LED ในส่วนด้านขวาบนจะสว่างอย่างต่อเนื่องจนกว่าผู้ใช้จะรับรู้

Nothing OS ที่ขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาที่จะลดสิ่งรบกวนและส่งเสริมการใช้สมาร์ทโฟนด้วยความตั้งใจ พร้อมมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและราบรื่นให้กับผู้ใช้งาน

Nothing OS 2.0 ช่วยให้ผู้ใช้มีความตั้งใจมากขึ้นโดยการลบสัญลักษณ์และปรับให้มีความดึงดูดมากขึ้น ด้วยเลย์เอาต์ขาวดำใหม่และการลบป้ายกำกับแอป Nothing ออกแบบหน้าจอหลักและหน้าจอล็อกใหม่ด้วยวิดเจ็ต ให้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันหลักได้โดยไม่ต้องเปิดแอป และยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการออกแบบกริด ขนาดวิดเจ็ต และธีมสีได้ 

มีเลย์เอาต์โฟลเดอร์และภาพปกใหม่ให้เลือกอีกมากมาย

Nothing มุ่งมั่นมอบประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้น โดยได้ทำการปรับซอฟต์แวร์ให้เหมาะสม ซึ่งทำให้ความเร็วในการเปิดแอป เร็วขึ้นถึงสองเท่า สามารถปรับแต่งการเปลี่ยนภาพและภาพเคลื่อนไหวได้กว่า 500 รายการ

การอัปเกรดกล้องที่ทรงพลัง

Phone (2) มอบประสบการณ์กล้องสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่สุด ด้วยกล้องหน้า 32MP และระบบกล้องหลังคู่ที่มีเซ็นเซอร์ 50MP ขั้นสูงสองตัว พร้อมเซ็นเซอร์หลักที่ได้รับการอัปเกรดเป็น Sony IMX890
และมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลกล้องมากกว่ารุ่นก่อนถึง 4,000 เท่า ระบบประมวลผลสัญญาณภาพ (ISP) 18 บิตขั้นสูง ส่งผลให้ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอมีความแม่นยำ และด้วยการบันทึกข้อมูลที่เพิ่มขึ้นสามเท่า ฟังก์ชัน HDR ขั้นสูงจะใช้เฟรมแปดเฟรมโดยมีระดับแสงที่แตกต่างกันภายในโดเมน RAW ของเซ็นเซอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถรักษารายละเอียดที่ซับซ้อนในแต่ละเฟรมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม และรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างภาพที่ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนจริงที่สุด

และ Motion Capture 2.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI ขั้นสูง จะช่วยอำนวยความสะดวกในการระบุวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ และรับประกันการโฟกัสที่แม่นยำในรายละเอียดที่สำคัญทั้งหมด เพื่อประสบการณ์การใช้งานกล้องที่ดียิ่งขึ้น และยังสามารถบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียด 4K ที่ 60fps ในกล้องหลังหลัก ประสบการณ์นี้ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยโหมดแอ็คชั่น เพื่อให้มั่นใจถึงการถ่ายทำที่ราบรื่นแม้ในขณะเดินทาง มี EIS (ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์) และ OIS (ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล) ในตัว นอกจากนี้กล้องด้านหน้ายังช่วยให้สามารถบันทึกภาพตัวเองได้อย่างน่าหลงใหลด้วยความละเอียด 1080P ที่ 60fps

สุดล้ำ กับประสิทธิภาพระดับพรีเมียม

มอบประสบการณ์เหนือระดับ อัดแน่นด้วย Snapdragon® 8+ Gen 1 และแบตเตอรี่ 4700 mAH ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานแก่ผู้ใช้ และสามารถชาร์จแบบ ไร้สายได้ได้อย่างรวดเร็ว โดยให้พลังงานถึง 50% ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที

จอแสดงผลระดับพรีเมียมที่สุด LTPO OLED แบบไร้ขอบขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรชที่ปรับได้ตั้งแต่ 120hz ถึง 1z เพื่อให้แน่ใจว่ามีการใช้พลังงานที่เหมาะสมและประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่กระทบกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่

nothing-phone-thailand-marketing

สมาร์ตโฟน ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนในอนาคต

  • นับเป็นการสะสมและรวบรวมความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนสามารถลด CO2 ลงได้ 5 กก. ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Nothing ที่มีต่อความยั่งยืนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความคิดริเริ่มที่สำคัญดังต่อไปนี้มีส่วนทำให้เกิดความสำเร็จในครั้งนี้
  • กรอบตรงกลาง ปุ่ม และปลายถาดซิมทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%
  • 80% ของชิ้นส่วนพลาสติกทำจากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุชีวภาพ
  • ดีบุกรีไซเคิล 100% ใช้กับแผงวงจร 9 แผ่น
  • ฟอยล์ทองแดงรีไซเคิล 100% ใช้สำหรับแผงวงจรหลัก
  • เหล็กรีไซเคิลกว่า 90% ใช้สำหรับชิ้นส่วนปั๊มเหล็กทั้งหมด 28 ชิ้น
  • ไม่มีของเสียจากกระบวนการประกอบ
  • พลังงานหมุนเวียน 100% ในโรงงานประกอบและโรงงานผลิตอะลูมิเนียมรีไซเคิล
  •  ได้รับการรับรอง FSC MIX (The Forest Stewardship Council) บรรจุภัณฑ์ปลอดพลาสติกที่มีเส้นใยรีไซเคิลมากกว่า 60%

Phone (2) มีให้เลือกทั้งสีขาวและสีเทาเข้ม โดยมีสองรุ่นให้เลือก: 12GB/256GB (24,990THB) และ 12GB/512GB (27,990THB) ผู้ใช้งานในประเทศไทยจะมีโอกาสเป็นกลุ่มคนแรกในโลกที่จะได้ซื้อ รวมทั้งได้รับสิทธิพิเศษและข้อเสนอพิเศษก่อนใครที่ Carnival Siam Square เวลา 11:00 น. ในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม

สามารถสั่งซื้อล่วงหน้า ได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคมที่ dotlife Website และ Shopee Nothing Official Store. Phone (2) จะวางขายทั่วประเทศตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคมที่ร้าน dotlife

ถือได้ว่า Nothing Phone เป็นสมาร์ตโฟนที่พัฒนาจาก Insight เพื่อขายให้กับคนเหล่านี้ค่ะ

  1. คนที่ชอบเทคโนโลยี ต้องการความเก๋
  2. คนรักษ์โลก
  3. User Friendly

ความใส่ใจรายละเอียดกับผู้ใช้ในฟีเจอร์ต่างๆ ที่ได้บอกมาทั้งหมดนี้ เบนซ์เห็นถึงความใส่ใจ และพร้อมที่จะตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งาน ต้องการจะเป็นแบรนด์ของคนที่ชอบเทคโนโลยี แต่รักษ์โลก และต้องการจะสร้างฐานแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ ที่พร้อมจะเป็นทางเลือกใหม่ ๆ ในท้องตลาด ถือเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่น่าจับตามองซึ่งผู้ใช้งานในประเทศไทยจะมีโอกาสเป็นกลุ่มคนแรกในโลกเลยค่ะ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Nothing.tech

อัพเดทข่าวสาร เพื่อติดปีกให้คุณเป็นนักการตลาดที่ไม่ OUT !!!  อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ เพจการตลาดวันละตอน เว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนค่ะ

Chulee.

นักพัฒนาผลิตภัณฑ์และสื่อสารการตลาด / นักเขียนบทความการตลาด ชอบงานศิลปะ งานครีเอท ไอเดีย เจ๋ง ๆ จึ้ง ๆ! น้องใหม่ทีมการตลาดวันละตอน ฝากผลงานด้วยนะคะ :) ♥รักเวลา... เวลามีค่ามากที่สุด⏰

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *