เทรนด์สายบิวตี้ ผิว VS หุ่น 2022 โดยใช้ Social Listening

วันนี้มาเอาใจสายบิวตี้ หรือธุรกิจประเภทความสวยความงาม หลังจากที่มีทั้งพวกคอลลาเจนผิว โลชั่น อาหารเสริมลดน้ำหนัก ดีท็อกซ์ต่างๆ ออกมาวางขายมากมายหลายยี่ห้อหลายแบรนด์เหลือเกิน ปลื้มก็เลยมีความสนใจอยากรู้ถึงการพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้บนโซเชียลและ เทรนด์สายบิวตี้ ในตอนนี้ เลยจะพามาสำรวจบนโซเชียลกันว่าคนไทยอยากดูแล ‘ผิว’ หรือ ‘หุ่น’ มากกว่ากัน

สำหรับเครื่องมือที่ปลื้มใช้ในการสำรวจบนโซเชียลก็คือ Mandala Analytics ค่ะ ปลื้มได้กวาดคำที่คิดว่าเกี่ยวข้อง อาทิ หุ่นดี / อยากผอม / ผอม+สวย / หุ่นสวย / ผิวสวย /ผิวขาว และ ผิวดี เป็นต้น โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2022 เป็นระยะทั้งหมดเวลา 3 เดือนค่ะ

ซึ่งพอเราได้ข้อมูลมา เราก็เข้าไปดูคีย์เวิร์ดที่ถูกพูดถึงกันจากนั้นก็แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ก็คือกลุ่มผิว และ อีกกลุ่มก็จะเป็นกลุ่มหุ่น ค่ะ โดยเราก็แบ่งตาม keywords ที่เกี่ยวข้อง จากคำที่กวาดมาอย่างที่ที่บอกไปข้างต้น

พบว่า By Mention กลุ่ม ‘ผิว’ มีการพูดถึงมากกว่าค่ะ แม้คีย์เวิร์ดที่ถูกเมนชันมากที่สุดจะเป็นคำว่า ‘หุ่นดี’ แต่พอมารวมกับคำอื่นๆ แล้ว สำหรับ By Engagement  กลุ่ม ‘ผิว’ ก็ได้รับเอ็นเก็จ 55% ซึ่งมากกว่าเช่นกันค่ะ แต่ตัวเลขไม่ได้ห่างกันมากเลยค่ะ ถือว่าเทรนด์เกี่ยวกับผิวกำลังมา แต่เรื่องหุ่นคนก็ยังให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ

นอกจากนี้ปลื้มได้สำรวจผลิตภัณฑ์ที่ถูกพูดถึงด้วยว่ามีประเภทไหนบ้างในแต่กลุ่ม ต้องบอกว่ากลุ่ม ‘ผิว’ พวกครีมบำรุงหรือสกินแคร์ มีการ Mention มากถึง 55% เมื่อเทียบกับโปรดักส์อื่นๆ ส่วนกลุ่ม ‘หุ่น’ นั้น ไฟเบอร์ เป็นสิ่งที่ คน Mention ถึง 51% และอีก 32% เป็นดีท็อกซ์ ดังนั้นนักการตลาดที่กำลังจะทำสินค้าที่เกี่ยวกับ 2 กลุ่มนี้สามารถนำข้อมูล เทรนด์สายบิวตี้ เหล่านี้ไปวิเคราะห์เพิ่มเติมได้นะคะ

เมื่อเราดู Engagement ในแต่ละแพลตฟอร์ม จะเห็นว่า IG เป็นแพลตฟอร์มที่ทำเอ็นเก็จเมนต์ได้ดีเลยค่ะ อาจจะเป็นเพราะเหล่า Influencer และ KOL อยู่ในนั้นค่อยข้างเยอะ ทำให้การรีวิว หรือ บอกต่อได้รับความสนใจมากที่สุด เดี๋ยวเรามาไล่ดู Top Post ของ 4 แพลตฟอร์มนี้กันค่ะ

Facebook : หมีหวาน Gummy Bear

สำหรับโพสต์นี้ของเพจหมีหวาน Gummy Bear เขามารีวิวอาหารเสริม REEN ที่ดูแลเรื่องผิว ซึ่งในเพจนี้ปกติเขาจแชร์ประสบการณ์การออกกำลังกาย การลดน้ำหนัก เป็นหลัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหุ่นกับผิวมักมาคู่กัน และไม่แปลกที่คนหุ่นดีแล้วจะหันไปดูแลผิวพรรณต่อ 

นี่ปลื้มมองว่าเป็นวิธีที่ดีและน่าสนใจเหมือนกันนะ เพราะคนที่ลดหุ่นได้แล้วอาจจะอยากดูแลตัวเองในเรื่องอื่นๆ ต่อแบบนี้นั่นเองค่ะ 

Twitter : @puypuyreview

สำหรับบนทวิตเตอร์ Top Engagement ค่อยข้างจะเรียลๆ ค่ะ เนื่องจากกลุ่มใช้จับพิรุธเก่ง ทำให้อะไรที่เป็นโนสปอนเซอร์มักได้รับความสนใจเป็นพิเศษ อย่างโพสต์นี้เขารีวิวการดูแลผิวจากการใช้โลชั่น ครีม เครื่องประทินผิวต่างๆ มากกว่า 1 แบรนด์ และได้รับเอ็นเก็จดีทุกแบรนด์ที่ทวิตเลยค่ะ

นักการตลาดที่จะเข้าไปอยู่ในทวิตเตอร์ ต้องใส่ความจริงใจและเข้าใจพฤติกรรมของชาวทวิตให้เป็นอย่างดี จะได้มีเอ็นเก็จสูงๆ และโดดเด่นในแพลตฟอร์มนี้ค่ะ

Instagram : supassra_sp

บน IG คงหนีไม่พ้นดาราดัง เพราะแค่โพสต์รูปเฉยๆ ก็ได้ Engagement หลายแสนแล้ว ซึ่งโพสต์นี้เป็นของไอจีคุณเก้า สุภัสสรา รีวิวแป้งพับ AiryMatte ของแบรนด์ Cute Press เป็นผลิตภัณฑ์งานผิวอีกแล้ว แต่นี่ทำให้เห็นว่าทางเลือกของผิวมีมากกว่าการดูแลหุ่นด้วย การแข่งขันก็สูงตามไปด้วย

นอกจากนี้ต้องบอกว่า Instagram เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสายบิวตี้สุดๆ อย่างที่ปลื้มบอกค่ะว่า Influencer หรือ KOL ส่วนใหญ่มักอยู่ในนั้น คนเหล่านี้จะช่วยสร้างการรับรู้ที่มากขึ้น และมีผลให้เกิดการซื้อด้วยเหมือนกันหากเลือกคนได้ตรงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์

Youtube : แต่งหน้าสวยฉ่ำ เหมือนคนผิวดีตั้งแต่เกิด ! | Soundtiss

มาถึงช่องทาง Youtube เรื่องผิวก็ยังมาแรงอีกเหมือนเคย โดยคลิปนี้เป็นของช่อง Soundtiss ST เขารีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์เบอร์รี่พลัส ให้ผิวดีจากภายในแบบนี้ แถมบอกวิธีการแต่งหน้าสวยฉ่ำ เป็นลุคที่หลายคนชื่นชอบอีกด้วย ทำให้กวาดยอดวิวไปสูงอยู่เหมือนกันค่ะ

จาก 4 แพลตฟอร์มนี้จะเห็นว่างานผิวถือเป็นเทนด์ในตอนนี้ ซึ่งปลื้มมองว่าผิวดีไม่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์เกิดขึ้นมาอย่างหลากหลาย แต่การที่จะผอมหรือลดหุ่น มันสามารถออกกำลังกาย หรือ เลือกกินอาหารแทนการซื้ออาหารเสริม และความเสี่ยงหลายๆ อย่างที่ทำให้คนไม่เลี่ยงอาหารเสริม แต่ใช่ว่าจะคนจะหันมาทางนี้น้อย เพียงแต่การสำรวจครั้งนี้กลุ่มดูแลผิวมีกระแสมากกว่าเท่านั้นเองค่ะ

สำรวจกลุ่มแฮชแท็ก

ทั้งนี้ปลื้มได้สำรวจกลุ่มแฮชแท็กที่ถูกงานบ่อยๆ มาฝากด้วยกันด้วยค่ะ เพื่อให้เห็นถึงประโยชน์ในการใช้งานต่อไป อย่าง #howtoperfect หรือ #ดีบอกต่อ รวมถึงร้านความสวยความงามอย่างวัตสันที่ได้รับความนิยม นั่นเท่ากับเหมาะแก่การวางจำหน่ายไหม แบบนี้เป็นต้นค่ะ

ถ้าใครอยากเรียนรู้การใช้ Social Listening ด้วยตัวเอง หรืออยากให้ทีมของตัวเองใช้เป็น สามารถสมัครเรียนสดทางออนไลน์กับการตลาดวันละตอนด้วยตัวเองได้

คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening Analytics

คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening เน้น Workshop ลงมือทำจริงด้วยตัวเอง รุ่นล่าสุด ศุกร์สุดท้ายของเดือน เปิดแล้ว
เรียนสดทางออนไลน์ ผ่าน Zoom เต็มวัน 9:00 – 15:00
ค่าเรียนคนละ 9,900 บาท รับจำกัดรุ่นละ 20 คน (ถ้าเต็มรุ่นนี้ต้องขอให้รอรุ่นหน้า)
อ่านรายละเอียดและสมัครก่อนเต็มได้ที่ลิงก์นี้

https://bit.ly/sociallisteningclass

ขอแค่คุณใช้ Social Listening เป็นด้วยตัวเองก็จะพบว่ามี Data มากมายรอให้ใช้งาน และยังมี Consumer Insights ล่องลอยอยู่อีกมาก เหลือแค่ว่าใครจะหยิบมาใช้โอกาสได้ก่อนกัน

ปล. สามารถนำบทความนี้ไปแชร์หรือต่อยอดได้ เว็บหรือสำนักพิมพ์ไหนต้องการ แค่ส่ง Backlink กลับมาให้เรา แล้วส่งลิงก์บทความที่คุณนำไปต่อยอดมาบอกเราที่ [email protected] ก็พอ

สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ