งานออกแบบที่ไม่เป็นมิตร แต่สร้างปฏิสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เรามาดู Brand Experience ผ่านงานออกแบบแสบๆคันๆกัน งานออกแบบ คนส่วนใหญ่แล้ว จุดประสงค์ก็เพื่อ ออกแบบให้ใช้แล้วเกิดความสะดวกสบาย เพื่อตอบ Insight และมีเรื่องของความสวยงามเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อตอบทั้งเหตุผลและอารมณ์ แต่ตัวอย่างงานออกแบบต่อไปนี้จะทำให้คุณมองตรงข้ามไปเลย
Sensory Experiences หรือการสร้างแบรนด์ด้วย กลิ่น คุณเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า แล้วจมูกของคุณบังเอิญไปสัมผัสกับกลิ่นจากร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่ง ซึ่งสมองคุณรับรู้ได้ทันทีเลยว่า นั่นคือร้าน CC Double O โดยที่ตาของคุณยังไม่ชำเลืองมองด้วยซ้ำไปไหมครับ หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเดินเข้า Apple Concept
Brand Experience บน Customer Journey มีอะไรสนุกๆครับ อย่างเช่นเรื่องนี้ คุณอาจจะเอาไปใช้กับร้านกาแฟ หรือธุรกิจของคุณได้ เคยสังเกตุมั้ยครับ เวลาเราไปเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมัน จะเจอร้านกาแฟใกล้ๆห้องน้ำ? แล้วเคยสังเกตุมั้ยครับ เวลาเราไปร้านกาแฟแบรนด์ยอดนิยม ทำไมชั้นวางขายแก้วกาแฟ
![[Brand Experience] กาลเวลาพิสูจน์แบรนด์](https://www.everydaymarketing.co/wp-content/uploads/2019/09/70486575_574275926647714_704187706682376192_n-720x500.png)
Brand Experience เท่ากับอยากให้คนจำเราว่าอะไร เป็นประโยคที่ผมใช้สอนนักศึกษา เวลาที่เอา Portfolio มาปรึกษา จุดเริ่มต้นของประโยคนี้มาจากสมัยเป็นทำงานเกี่ยวกับแบรนด์ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งภาษาของคนทำโฆษณาจะเรียกว่า ไปเป็นลูกค้า เพราะจะมีทั้งเอเจนซี่ โปรดักชั่นเฮ้าส์เอา Portfolio มาเสนอ วิธีการดูงานของผมก็จะไม่ซับซ้อนมาก
Retail experience driven branding in digital eara หน้าที่ของหน้าร้าน ในการสร้างประสบการณ์หลังการขาย ที่จะส่งผลถึงการสร้างแบรนด์ในท้ายที่สุด Brand come from Experience นักสร้างแบรนด์มืออาชีพจะรู้ว่า
Doritos ขนมขบเคี้ยวที่ดังในต่างประเทศ แต่ไม่ค่อยดังในบ้านเรา เพราะยังไม่มีการผลิตและขายโดยตรง ต้องซื้อแบบนำเข้าซึ่งราคาก็แพงเสียเหลือเกิน ได้สร้างแคมเปญรับสมัครงานผู้ที่จะมาเป็นตัวแทนตัวจริงของแบรนด์ตลอดชีพ โดยมีเงินตอบแทนค่าตำแหน่งให้สูงถึง 18,00…0 ปอนด์ และได้ขนมไปกินไม่อั้นตลอดหนึ่งปีเต็ม โอ้โห ฟังแค่นี้ถ้าผมเป็นแฟนขนมโดริโทส หรือซื้อกินเองเป็นประจำนี่ต้องลงสมัครแน่ๆ โดยการสมัครและคัดเลือกก็ไม่ได้ทำกันเล่นๆแบบโฆษณาเพื่อสร้างกิมมิก แต่เป็นการรับสมัครแบบจริงๆ
Bourjois แบรนด์เครื่องสำอางความงามในปารีส นำเอาเทคโนโลยี AR มาผสมผสานกับหน้าร้าน เพื่อให้การลองสินค้าอย่างลิปสติกนั้นเป็นไปได้ทันใจในสไตล์ดิจิทัล จากการวิจัยพบว่าเครื่องสำอางที่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเลือกลองเป็นลำดับแรกคือลิปสติก ก็เลยสร้างกระจกวิเศษที่ไม่ต้องเสียเวลาลอง แต่ “แค่หยิบ” ลิปสติกขึ้นมา ก็จะเห็นภาพของคุณที่ทาลิปสติกนั้นบนกระจกตรงหน้าได้ทันที เมื่อลดเวลาในการลองสินค้าแต่ละชิ้นได้ ก็ทำให้สาวๆที่สนใจสามารถลองลิปกี่สีก็ได้โดยไม่ต้องเสียเวลา แถมทางร้านเองลิปสติกแท่งนั้นก็ไม่ลดลงแม้แต่นิดเดียว
Marine Layer แบรนด์แฟชั่นที่มีสาขาทั่วอเมริกา ต้องการให้คนที่สนใจและลูกค้าได้รู้จักและมีประสบการณ์กับแบรนด์มากขึ้น ก็เลยสร้างห้องพักให้คนได้เข้ามานอนค้างคืนผ่าน Airbnb ด้วยการเปลี่ยนพื้นที่ชั้นบนๆร้านในบางสาขา จากเดิมที่เป็นแค่ที่พักพนักงานหรือพื้นที่เก็บของๆร้าน ให้กลายเป็นที่พักสุดเริ่ดที่เปิดให้เช่าค้างคืนได้จริงๆผ่าน Airbnb บอกตรงๆถ้าผมอยู่อเมริกาผมจะจองไปลองนอนเล่นซักคืนสองคืนแล้วนะเนี่ย จากแนวโน้มที่ร้านค้าปิดตัวมากขึ้นทุกวันและเพิ่มขึ้นทุกปีนั้น บอกให้รู้ว่า “ร้านค้า” ที่มีหน้าที่เพื่อโชว์และขายสินค้านั้นไม่ตอบโจทย์ทุกวันนี้อีกต่อไป
Bodyform แบรนด์ผ้าอนามัยชื่อดัง พยายามทำการตลาดโดยปรับการสื่อสารใหม่ เพื่อจะบอกกลุ่มเป้าหมายว่าการเป็นประจำเดือนไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไป เมื่อสินค้าอย่างผ้าอนามัยไม่มีสินค้าตัวไหนที่มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าใครอย่างจริงจัง แต่มีแบรนด์หนึ่งเลือกจะแตกต่างด้วยการโชว์ “เลือดจริง” แทนน้ำสีฟ้าในงานโฆษณาชิ้นล่าสุด แบรนด์นั้นคือ Bodyform ปรับการสื่อสารเพื่อเปลี่ยนภาพจำของผู้บริโภค เป็นเรื่องปกติอย่างที่เราคุ้นกันกับโฆษณาผ้าอนามัยว่า ในฉากสาธิตการซึมซับก็จะเป็นของเหลวสีฟ้าๆ ที่มาทำหน้าที่แทนเลือดจริงๆ ทาง
Test Life การทดลองรถยนต์ ที่คุณจะได้ใช้ชีวิตกับรถจริงๆ จนคุณจะลืมการ Test Drive ธรรมดาไปตลอดกาล เมื่อปกติเวลาคนเราจะซื้อรถยนต์ซักคน สิ่งนึงที่ต้องทำจะมากจะน้อยก็ต้องทำก่อนจะซื้อก็คือการ Test Drive (ยกเว้นตลาดรถสุดหรูที่สั่งจองล่วงหน้าโดยไม่ได้ลองขับนะ) โดยเฉพาะทุกวันนี้การ Test