Brand collaboration ระหว่าง Marriott International และ Hungry Hub สู่ยอดกว่าล้านบาทภายในครึ่งปี

Brand collaboration ระหว่าง Marriott International และ Hungry Hub สู่ยอดกว่าล้านบาทภายในครึ่งปี

เมื่อพูดถึงร้านอาหารในเครือโรงแรม Marriott International ภาพจำในหัวของเราแน่นอนว่า ต้องเป็นอะไรที่คนธรรมดาเข้าไม่ถึง มันดูหรูหราไฮโซ แต่ถ้าถามว่าอยากไปลอง ไปชิมไหม คำตอบก็ชัด เพราะใครๆ ก็ต้องอยากไปลองชิมอาหารมื้อพิเศษกันทั้งนั้นใช่ไหมคะ แต่สิ่งที่ยังกังวลเราคือ เรามี Limit ในการจ่าย และเราไม่รู้เลยว่าถ้าเราเข้าไปสั่งอะไรพลาดไป ราคาจะพุ่งไปอยู่ที่กี่บาทกันแน่ แต่ตอนนี้ Marriott เค้าได้ทำ brand collaboration ร่วมกับ Hungry Hub แพลตฟอร์มจองร้านอาหารในราคาเน็ต ทำให้คนสามารถสบายใจที่จะจอง และเดินเข้าร้านอาหารหรูๆ นี้ได้อย่างสบายใจค่ะ

Hungry Hub เป็นอีกหนึ่ง Revenue Channel ดีๆ สำหรับร้านอาหาร

หากใครยังไม่รู้จัก Hungry Hub เพลินจะขอเกริ่นสั้นๆ ว่า Hungry Hub คือแพลตฟอร์มบริการที่ให้คนสามารถเข้ามาจองร้านอาหารด้วยดีลสุดคุ้ม คุมงบได้ เพราะจ่ายในราคาเน็ต ไม่ต้องกังวลว่าถ้าเผลอสั่งเมนูไหนที่เป็นเมนูงอกจากที่แพลนมา จะทำให้งบเกินมากไปเท่าไร 

ซึ่ง Hungry Hub นั้นต้องบอกว่า เหมาะมากกับคนที่อยากไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ หรูๆ หรือจัดงานวันเกิด จัดเลี้ยง ทานข้าวกับที่บ้าน เพราะเราสามารถรู้ราคาเน็ตเลยค่ะ ว่าถ้าไป 6 คนจะต้องจ่ายกี่บาท ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครสั่งอาหารเกินงบเจ้ามือเลย แถมจุดเด่นของแบรนด์ก็คือ เค้ามีร้านอาหารตั้งแต่ระดับกลาง-สูง ที่เข้ามา Join กัน ทำให้แพลตฟอร์มนี้กลายเป็นอีกหนึ่ง Revenue Stream Channel ดีๆ สำหรับร้านอาหารระดับเดียวกับ ที่ไม่อยากลด Positioning ของตัวเองลงมา โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด19 แบบนี้ด้วยค่ะ

Marriott International x Hungry Hub 

แน่นอนว่า COVID19 กระทบทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเครือโรงแรม ที่มีลูกค้าต่างชาติเป็น Based หลักอย่างโรงแรมและร้านอาหารในเครือ Marriott International ที่ก็โดนผลกระทบด้วยเช่นกัน ผลที่ตามมาก็หนีไม่พ้นเรื่องของรายได้และกำไรที่หายไป ทำให้แบรนด์ต้องมองหาโอกาสหรือ Opportunity ใหม่ๆ จนเกิดเป็น Brand Collaboration ระหว่าง Marriott International และ Hungry Hub ค่ะ

โดยจุดเริ่มต้นของการ Collaboration ระหว่าง 2 แบรนด์ในครั้งนี้นั้น เริ่มจากการ Co กันแบบจำนวนน้อยก่อน เหมือนเป็นการ Trial เบื้องต้นก็เลยทำการ Collab ไปแค่ 3 ร้านอาหาร นั้นก็คือที่ร้านอาหาร Yao Rooftop Bar Bangkok Marriott Hotel / Kisso at The Westin Grande Sukhumvit / และ BarSu @ Sheraton Grande Sukhumvit 

ซึ่งหลังจาก Collab ไปได้ 3 ร้าน Marriott ก็ทยอยดันร้านอาหารในเครือเข้าแพลตฟอร์มมากขึ้นเรื่อยๆ จนแตะ 20 กว่าร้านในเดือนกรกฎาคม 2020 ที่ผ่านมา ด้วยจำนวนร้านที่เพิ่มขึ้นก็สามารถเพิ่มยอด Conversion ให้กับ Marriott ได้เพิ่มขึ้น กว่า 267.02% ภายในเดือนกรกฎาคมเดือนเดียว ทำให้ Hungry Hub เป็นเหมือน Revenue Stream Channel ใหม่ให้กับ Marriott International เลยค่ะ

ปัจจุบันตอนนี้มีร้านอาหารในเครือ Marriott ทั้งหมด 28 ร้านที่จับมือ Co-brand กับแพลตฟอร์มบริการจองร้านอาหารอย่าง Hungry Hub โดยเป็น ร้านอาหารนานาชาติ 10 ร้านอาหารไทย 4 ร้าน รูฟท็อป 3 ร้านอาหารจีน 3 และร้านอื่นๆ อีกมากมาย

ซึ่งหลังจากจับมือร่วมกันมา ผลก็คือ รายได้ของ Marriott International นั้นเพิ่มขึ้น 60.45% และที่น่าสนใจคือ ยอดการ Maintain ของรายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอด 4 เดือนหลังจากการ Co กันในครั้งนี้ค่ะ

Insight ลูกค้าร้านอาหาร Marriott International ที่จองผ่าน Hungry Hub

จากวันแรกที่ Marriott ได้เริ่มจอยกับ Hungry Hub ในวันนี้ก็ร่วมๆ 6 เดือนหรือครึ่งปีแล้วค่ะ ปัจจุบันโรงแรมมียอดลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเป็นลูกค้าที่จองผ่าน Hungry Hub กว่า 11.3 หมื่นคน เรียกรายได้ไปแล้วกว่า 13.5 ล้านบาท ด้วย Average Spending ต่อหัวอยู่ที่ 1,200 บาท โดยประเภทร้านอาหารที่นิยมมากที่สุดก็คือ ร้านอาหารไทยและร้านอาหารแบบ Roof Top ที่ได้บรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ เปิด Experience ดีๆ ให้กับลูกค้า และควรค่าแก่การชักภาพ ถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆ แถมบอกต่อด้วย โดย Top 3 ร้านอาหารในเครือ Marriott ก็คือ

  • The House of Smooth Curry – The Athenee Hotel
  • Paii @ The House on Sathorn (W Bangkok)
  • Octave Rooftop Lounge and Bar Bangkok Marriott

ทั้งหมดนี้ก็คือกรณีศึกษาในการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ ไม่ปิดกั้นตัวเองในการจับมือร่วมกับแบรนด์อื่นๆ หรือหาทางออกเพียงแค่การยิงโฆษณา ยิง Ads อยู่เรื่อยๆ ไม่มีลูกค้าก็ยิงๆ ไป เพราะ Facebook หรือ Social Media อื่นๆ นั้นเป็นเพียงแค่เครื่องมือ Tools ในการขายของเราเพียแค่ 1 ช่องทางแต่ไม่ใช่ทั้งหมดค่ะ ใครที่กำลังทำธุรกิจร้านอาหารหรือโรงแรมที่มีห้องอาหารก็ลองพิจารณาช่องทางทำเงินใหม่ๆ แบบอื่นบ้างดูนะคะ

อย่างการ Co-brand กับ Hungry Hub ก็เป็นไอเดียการต่อยอดธุรกิจที่ดีมากๆ เพราะสิ่งที่ Hungry Hub แตกต่างจากแบรนด์แพลตฟอร์มอื่นๆ ก็คือ เค้าไม่ได้ทำการตลาดในรูปแบบของ Discount ที่ลดราคาอาหาร หรือทานอาหารจานเดียวก็ลดราคา แต่สิ่งที่เค้าทำคือการเพิ่มรายได้ให้กับร้านอาหาร หรือโรงแรมให้มีกำไรที่มากขึ้นแบบยั่งยืน

นอกเหนือจากนี้ Hungry Hub ยังเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถหาลูกค้าที่มี Spending Power ที่สูงให้กับทางร้านอาหารและโรงแรมได้ ทำให้ร้านอาหารและโรงแรมหรูๆ ไม่ต้องลด Positioning ของตัวเองให้ “ดูถูกลง” จากการที่ทำ Discount เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ และต้องการ Minimum spent นั่นเองค่ะ

brand collaboration

โดยในอนาคต Hungry Hub จะมีทำแพ็คเกจ Staycation หรือ Stay + Vacation เพิ่มขึ้น สิ่งที่ลูกค้าจะได้จากการจองแพ็คเกจ คือที่พักโรงแรมหรู พร้อมมื้ออาหารสุดพิเศษ และเป็นดีลที่สามารถจองผ่าน Hungry Hub เท่านั้น บอกตรงๆ ว่าเพื่อนเพลินคนนึงแหละที่จะมาเป็นลูกค้า เพราะตอนนี้หลายๆ โรงแรมก็เริ่มทำ Staycation ในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นในราคาที่ต้องบอกว่าเสียดาย Brand Positioning จริงๆ ค่ะ และแน่นอนว่า Staycation ผ่าน Hungry Hub นั้นเป็นโมเดลการตลาดที่อยากจะช่วยธุรกิจโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากสถานะการณ์ โควิด-19 ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ จับห้องว่างสุดหรูคู่ดีลอาหารพิเศษ รวมเป็นแพ็คเกจให้กับลูกค้าคนไทยได้มาลองสัมผัสประสบการณ์ที่พิเศษ และการพักผ่อนอีกระดับนั้นเองค่ะ

เอาละสาวๆ หนุ่มๆ ที่อยากสร้าง Content เตรียมรับมือเลยนะคะ เดี๋ยวคริสมาส เดี๋ยวปีใหม่ เดี่ยว Valentine’s Day และอีกมาก ก็อย่าลืมจอง Experience ดีๆ โรแมนติก หรูหราแบบMarriott International นี้ ในราคาที่จับต้องได้ ผ่าน Hungry Hub กันนะคะ เพลินก็ใช้บริการนี้เหมือนกันนะขอบอกว่าคุ้มมากค่ะ

อ่านบทความเกี่ยวกับการ Collab แบรนด์อื่นๆ เพิ่มขึ้น Click Here

Plearn Wisetwongchai

Marketing Strategic Planner ในเครือการตลาดวันละตอน | A Creator สาวพลัสไซส์ @Fabfatkid | A Travel Lover ที่หมดเงินเกือบ 80% ไปกับการเดินทางแบบแมสๆ | An Instagrammer @theplearn ที่ชอบเล่น Story เป็นชีวิตจิตใจ | สุดท้ายคือ Data Researcher ทั้ง Social และ Search Data etc. ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

คุณคิดว่าปัญหา PM 2.5 ที่เชียงใหม่วิกฤตหรือยัง ?

#การตลาดวันละโพล ขอหนึ่งคำถามก่อนอ่านการตลาดวันละตอน แล้วเราจะเอาไปทำเป็น Infographic โชว์หน้าเพจให้รู้ด้วยกัน