ประโยคด้านบนไม่มีใครเคยกล่าว แต่ผมด้นสดขึ้นมาเองเมื่อเห็นข่าวนี้เมื่อวันก่อน ที่ว่าสองกลุ่มบริษัทเอเจนซี่โฆษณายักษ์ใหญ่ระดับโลก กำลังแย่งกันซื้อ Acxiom ที่อเมริกา Acxiom คือหนึ่งในบริษัทที่เก็บข้อมูลของประชากรชาวอเมริกามานานมาก และผมไม่รู้ว่าขยายไปยังประเทศไหนแล้วบ้างในตอนนี้ โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญคือข้อมูลการซื้อขาย รายได้ของครอบครัว จนสามารถเอามาสกัดเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้คาดการณ์พฤติกรรมการซื้อล่วงหน้าได้… ใครที่ใช้เข้าไปเล่นเครื่องมืออย่าง Audience Insight
การหาลูกค้าใหม่ในวันนี้ว่ายากแล้ว แต่การจะหาลูกค้าใหม่ที่เป็นระดับอาวุโสขึ้นไปนั้นยากกว่า โดยเฉพาะระดับผู้บริหารหรือ CEO นี่ไม่ต้องพูดถึง เพราะโอกาสในการจะเข้าถึงตัวคนเหล่านั้นช่างน้อยนิด แล้วไหนจะต้องผ่านด่านทั้งหลายที่คอยสกรีนธุระที่ไม่จำเป็นออกไปมากมาย ดังนั้นตอนนี้ที่จะเล่า เลยเป็นเรื่องของการตลาดแบบ personalized marketing ขั้นสุดสำหรับธุรกิจแบบ B2B โดยเฉพาะที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริหารระดับสูงอย่าง CEO
Maserati รถหรูชื่อดังจากอิตาลี ที่ใครๆก็รู้แต่ไม่ค่อยมีใครเลือก เพราะต่างคิดกันว่า “แพงเกินไป” ทั้งที่ความจริงแล้วราคาพอๆกับ Benz, BMW หรือ Audi เลยสำหรับนักธุรกิจ Masarati เลยร่วมมือกับเอเจนซี่ในการหาช่องทางใหม่ว่า ทำอย่างไรดีให้คนมาลองขับรถเราก่อนจะไปลองคู่แข่งที่ว่า เพราะราคาเท่าๆกันคุณสามารถได้รถที่ดีกว่า
ผมเห็นข่าวนี้จากเวปที่ผมเข้าเป็นประจำเมื่อวันก่อนแล้วเห็นว่าน่าสนใจเลยอยากเอามาแชร์ให้ฟังกัน เมื่อ Toyota ปรับโชว์รูมขายรถเดิมๆให้กลายเป็นพื้นที่ๆใครๆจะเข้ามาใช้งานก็ได้ เพื่อสร้างโอกาสที่คนจะเข้ามาถึงแบรนด์ตัวเองง่ายขึ้น… ต้องบอกว่าในยุคที่ joureny หรือพฤติกรรมการซื้อรถของคนในทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก จากไม่กี่ปีก่อนที่กว่าจะซื้อรถแต่ละคันต้องไปเทสไดรฟ์หรือลองขับมากกว่า 4-5 ครั้ง แต่จากข้อมูลล่าสุดพบว่าคนทุกวันนี้เข้าไปทดลองขับจริงก่อนจะตัดสินใจซื้อแค่ 1.6 ครั้งโดยเฉลี่ย นั่นหมายความว่าคุณจะพลาดการเทสไดรฟ์ไม่ได้เลย
เมื่อ 4 ปีที่แล้วครับ ที่ประเทศบราซิล Volkswagen หรือ โฟล์ค นั้นเปลี่ยนสื่อสิ่งพิมพ์ธรรมดาๆ ให้กลายเป็น Router Wifi เพื่อให้คนดูโฆษณาบนหน้านั้น สามารถดูข้อมูลเต็มๆเพิ่มเติมของรถคันนั้นได้ เทคนิคไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ ก็แค่ลงทุนเอาแผงวงจร
ในทุกๆ Media ไลก์ คอมเมนท์ แชร์ หรือ ไวรัล คงเป็นประโยคสุดคลาสสิกที่นักการตลาด และนักโฆษณา คงได้ยินกันมาเป็นโจทย์ไม่ต่ำกว่าล้านครั้งในแต่ละปี ไม่ว่าจะหัวหน้า หรือลูกค้าที่สั่งว่า “ทำอะไรก็ได้ที่ได้ไวรัล” หรือ “ทำยังไงก็ได้ให้คนอยากสนุกกับเรา”
คุณจะเข้าถึงคนที่ไม่มีโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่ถนน ให้คิดถึงแบรนด์คุณทุกวันได้ยังไง? คงฟังดูยากจนไม่น่าจะทำมาค้าขายกับคนกลุ่มนี้ เพราะคงมีต้นทุนด้านการตลาดที่สูงใช่มั้ยครับ? แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่จะไม่เข้าถึงก็ไม่ได้ แม้จะเข้าถึงยากขนาดไหนก็จำเป็นต้องเข้าให้ถึง เพราะคนกลุ่มนี้คือผู้หญิงในประเทศบราซิล ที่อาศัยอยู่ตามแนวแม่น้ำอเมซอน ที่มีอัตราเป็นมะเร็งปากมดลูกสูงกว่าผู้หญิงในโซนอื่นถึง 3 เท่า… เมื่อไม่มีสื่อที่สามารถเข้าถึงผู้หญิงกลุ่มนี้ได้เหมือนที่อื่นๆในประเทศ เพราะไม่มีทั้งอินเทอร์เน็ต
Apex Flex GTX คือแจ็คเก็ตกันฝนรุ่นใหม่คุณภาพเยี่ยมจาก North Face ที่ผ่านการคิดค้น วิจัย และทดสอบมาอย่างดีว่านอกจากจะกันฝนกันน้ำได้แทบจะ 100% แล้ว ยังบางเบาสวมใส่ได้สบายอีกด้วย แต่ปัญหาคือถ้ามองเผินๆจากภายนอก Apex Flex
อย่างที่เรารู้กันครับว่าผู้พิการทางสายตา หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่าคนตาบอดนั้น ไม่สามารถมองเห็นได้ดีเหมือนคนปกติ หรือถ้าหนักสุดคือมองไม่เห็นเลยโดยสิ้นเชิง Ford Feel the view จึงเกิดขึ้น ซึ่งการมองของเค้ามักจะมาจากการสัมผัส สิ่งหนึ่งที่ช่วยเค้าได้มากคือ อักษรเบล แต่นั่นก็ได้แค่ในส่วนของ “ข้อความ” หาใช่ภาพที่สวยงามไม่
Mini Cooper จะเอาจุดขายความซิกแซกคล่องตัว ที่ทำให้ถึงที่หมายเร็วขึ้น มาอยู่ในรูปแบบสื่อนอกบ้านที่คนทั่วไปก็เข้าถึง และเข้าใจได้อย่างไร มาดูกัน พูดถึงรถมินิที่ทุกคนรู้จักดี หนึ่งในจุดขายสำคัญของมินิก็คือความคล่องตัวแบบมินิ ทำให้การขับซิกแซกหลบหลีกในเมืองเป็นเรื่องง่าย และทำให้ถึงจุดหมายได้เร็วกว่ารถไซส์ใหญ่ในราคาเท่าๆกัน คำถามสำคัญคือ ถ้าต้องเอาจุดขายนี้ถ่ายทอดให้คนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นเจ้าของรถมินิเข้าใจนั้น จะทำออกมาเป็นยังไง? ก็เลยออกมาเป็นบิลบอร์ดทางลัด