หลังจากที่โครงการการคนละครึ่งต้องถูกย้ายออกจากแพลตฟอร์ม วันนี้ LINE MAN เค้าก็กลับมาพร้อมกับแคมเปญ CSR ใหม่ช่วง Lockdown ที่เรียกได้ว่าเป็น Win-Win Strategy ระหว่างแพลตฟอร์มและคนขายของจริงๆ เพราะวันนี้ LINE MAN
Category: Application
มาถึงฤดูกาลของการแข่งขัน กีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020 กันแล้วนะคะ ถึงแม้จะถูกเลื่อนมาเป็นอีกปี แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนที่รอติดตาม หนีหายไปเลยค่ะ และต้องบอกว่าการจัดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนเดิม เนื่องด้วยข้อจำกัดเรื่องโรคระบาดที่เกิดขึ้น จึงไม่สามารถเข้าไปชมในสนามได้ ทำให้ผู้ชมหันไป ดาวน์โหลด Streaming Apps
อีกหนึ่งแคมเปญเมาไม่ขับที่อ่านแล้วอยากจะเอามาเขียนสรุปให้นักการตลาดฟังกันก็คือ Case Study ของแบรนด์ Heineken USA ที่เค้าจับมือร่วมกับแอป Navigation อย่าง Waze App เพื่อทำ Destination-based marketing กระตุ้นคนที่กำลังจะไปเมา ให้เมาไม่ขับ ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ ช่วงเดือนพฤษภาคม 2021 ที่ผ่านมา หลายคนในอเมริกาหลังได้ฉีดวัคซีนอะไรกันแล้ว ก็เริ่มที่จะกลับออกมาใช้ชีวิตอิสระเสรีตามเดิมเสมือนวันเก่าๆ ก่อนที่โรคระบาดจะทำพิษ ดังนั้นแบรนด์เครื่องดื่ม Alcohol ชื่อดังอย่าง Heineken จึงเริ่มปล่อยแคมเปญเก๋ๆ ที่สนับสนุนคนอเมริกาให้เมาไม่ขับใน California ค่ะ แคมเปญนี้เริ่มจาก Branded Ads บนแอป Waze ที่เป็นแอปบอกเส้นทางหรือ Navigation คล้ายๆ Google
ใครที่เคยลิ้มรสซอสขวดแก้วของ Heinz ต้องเคยหงุดหงิดกับการเทและทุบขวดแก้วของมัน และเฝ้ารอว่าเมื่อไรซอสมะเขือเทศจะไหลออกมาเสียที บางคนถึงกับเผลอเขย่าขวดซะจนซอสกระเด็นไปทั่วแถมเจ็บมือสุดชีวิต จนเป็นปัญหาอันน่าเหนื่อยหน่ายใจ และถึงแม้ว่าแบรนด์ Heinz จะออกซอสบีบๆ มาแล้ว แต่ก็ยังมีคนที่ชอบซอสขวดแก้ว แต่หนักใจกับการเทซะเหลือเกิน ล่าสุด Heinz เค้าเลยออก แคมเปญปัญหารถติด เพื่อแก้จุดอ่อนเรื่องซอสไหล่ช้าให้เป็นเรื่องที่คนยอมรับได้ดีขึ้นค่ะ หลังจากที่คนไม่ได้ออกจากบ้านมานานเพราะวิกฤตโรคระบาดในปี 2020 ผลสำรวจเลยเจอว่าช่วง Summer ปี 2021 นี้นั้น 80% ของคนในประเทศ Canada ต่างก็วางแผนจะออกข้างนอกเที่ยวให้หนำใจ ซึ่งแน่นอนว่าการเที่ยวในครั้งนี้ยังเป็นการเที่ยวเชิง Domestics หรือภายในประเทศ ทำให้เมืองรถติดอย่าง Canada ต้องติดยิ่งกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวช่วงวันหยุดแน่นอน และเมื่อมีรถติด
เพราะ COVID-19 ทำให้หลายคนต้องอยู่แต่บ้าน พวกทริปไปเที่ยวอะไรก็ต้องเป็นอันพับเก็บไปก่อน อย่างเพลินเองออกไปข้างนอกไกลสุดก็คงแค่ Supermarket แถวบ้าน เพื่อซื้อของกลับมาเติมเวลาของกิน-ของใช้หมด ซึ่งพูดกันตามตรงว่า เนื่องจากเราต้องอยู่บ้านทั้งวันไม่พอ ยังต้องอยู่ในระยะเวลานานเป็นเดือน กิจกรรมอะไรที่เคยทำนอกบ้าน ก็ย้ายมาทำในบ้านหมด เรื่องเที่ยวก็ทำได้แค่ #เที่ยวทิพย์ เท่านั้น ทำให้แบรนด์เฟอร์นิเจอร์อย่าง IKEA จับโอกาสนี้ ชวนคนแต่งบ้านผ่านแคมเปญ IKEA Renocations ผ่าน Quiz บนแอปโซเชียล Pinterest ค่ะ
ข่าว Disney+ จะเข้าไทยนี่ทำให้อดใจรอไม่ไหวเลย ล่าสุดมีคนข้างตัวถามเพลินว่าดิสนีย์พลัสจะรอดไหม จะมีคน Subscribe ไหม เพราะตอนนี้ตลาดคนไทยส่วนใหญ่ก็พูดถึงแต่ Netflix กันทั้งนั้น แถมช่วงกักตัวอยู่บ้านตั้งแต่ปี 2020 จนถึงตอนนี้ก็มีแต่ Netflix ที่เป็นกระแสในหลายๆ ซีรีส์ จากคำถามคนข้างตัว วันนี้ก็เลยลองหาข้อมูลเพิ่มแล้วแกะบทเรียนการตลาดที่น่าสนใจของดิสนีย์พลัสที่เปิดตัวไปแล้วในต่างประเทศ ที่ ‘อาจ’ ทำให้แพลตฟอร์มนี้ไม่เป็นรองใคร แม้กระทั่งเจ้าใหญ่ตอนนี้อย่าง Netflix ด้วย ต้องบอกว่า Disney นี่ถือว่ามาช้ากว่า Streaming Platform อื่นไปประมาณนึงเหมือนกัน เพราะกว่าจะเปิดตัวแบบจริงจังก็ปาไปปลายปี 2019 แล้ว ในขณะที่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่นๆ อย่าง Netflix เริ่มเปิดตัวในปี 2015 / Amazon
จากสองบทความแรกที่พาไปรู้จักและทำความเข้าใจถึงกลยุทธ์ Super App ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และมีแอปไหนบ้างที่เราอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อน มาถึงตอนนี้เราจะมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในฝั่งโลกตะวันตกกันดูบ้าง แม้ Super App จะเป็นนวัตกรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากฝั่งโลกตะวันตกเป็นที่แรก แต่ถ้าสำรวจไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่าบางแอปหรือบางแพลตฟอร์มนั้นก็มีความพร้อม หรืออาจจะเริ่มเป็นไปแล้วโดยไม่รู้ตัว ตัวอย่างที่ใกล้เคียงกับนิยามของ Super
ในบทแรกถึงการวิเคราะห์กลยุทธ์ Super App Strategy ว่าการจะเป็น Super App ได้ไม่ได้เริ่มจากการปักธงว่าฉันจะเป็น Super App แต่เดย์วัน แต่เริ่มจากการทำ App ที่มีอยู่ให้ดีและตอบ Insight
Super App คำนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ช่วงนี้ผมถูกถามเรื่องนี้จากคนใกล้ตัวเลยทำให้อยากเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาสักครั้ง เพราะบางแบรนด์เข้าใจผิดว่าแค่ใส่ Feature มากมายเข้าไปให้เหมือนกับ Super App ในปัจจุบันก็สามารถเรียกตัวเองว่าเป็น Super App ได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อเราถอดรหัสวิเคราะห์ Super
ก่อนหน้านี้ธนาคารตามความเข้าใจของเราก็คือสถานที่สำหรับฝาก ถอน หรือทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ แต่เมื่อเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น ธนาคารเองก็ต้องมีการปรับตัวให้ก้าวทันยุคทันสมัยเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนปัจจุบันมากขึ้นเช่นกัน วันนี้เราจะพามาดูการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยและพฤติกรรมผู้ใช้งาน ของธนาคารที่อยู่คู่กับคนไทยมานานอย่างธนาคารกรุงเทพ ที่หลายคนอาจจะยังติดภาพว่าเป็นธนาคารหัวโบราณ เหมาะสำหรับคนแก่เท่านั้น เชย และไม่เคยมีอะไรแปลกใหม่ แต่ใครจะรู้ว่าวันนี้ธนาคารกรุงเทพเขาได้พัฒนาแอปพลิเคชัน โมบายแบงก์กิ้ง เวอร์ชันใหม่ ซึ่งปรับปรุงขึ้นจาก