เมื่อต้นปีผมเคยถูกสัมภาษณ์จากนิตยสารฉบับหนึ่งว่าคิดอย่างไรกับยุค 5G ที่กำลังจะมา ตอนนั้นผมตอบไปแบบภาพกว้างว่าเปรียบได้กับถนนทางหลวง 5 เลน ที่ทุกครั้งพอถนนใหญ่ขึ้นสองข้างทางก็จะเกิดการพัฒนาในหลายๆ ด้านตามมา ไม่ว่าจะเกิดปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่คู่กับอาคารร้านค้าก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า 5G ที่กำลังจะมาเมื่อต้นปีนั้นจะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่มาวันนี้ผมได้เห็นโฆษณาจาก True 5G
Category: Telco
เมื่อสินค้าหรือบริการไม่ได้ต่างจากคู่แข่ง หรือไม่ได้แต่แม้กระทั่งจะดีกว่า นักการตลาดบางอาจปวดหัวว่าแล้วเราจะขายมันได้อย่างไรกัน แน่นอนครับนั่นคือโจทย์ที่คุณต้องแก้ในฐานะนักการตลาด ที่ต้องรู้จักหา New Value Proposition ให้เจอหรือจะเรียกว่า Distinctive Value Proposition ก็ได้ครับ แพคเกจอินเทอร์เน็ตของค่ายโทรศัพท์มือถือที่ชื่อว่า Fi
เป็นเหมือนกันไหมคะ ที่หมดไปแล้วไม่รู้เท่าไรกับอะไรก็ตามที่เพื่อน คนในครอบครัว หรือคนที่รู้จักบอกว่าดี? Skinny แบรนด์เครือข่ายโทรศัพท์ในประเทศ New Zealand เค้าก็รู้ถึงความ Effective ของ ‘Friend Recommendation’ เช่นกันค่ะ ก็เลยทำหนังโฆษณาออกมาทั้งหมด 46 ชิ้น โดยเทคนิคก็คือการเปลี่ยน Happy Customers มาเป็น > Happy Promoters หรือการให้ลูกค้าของเครือข่ายที่ใช้แล้วแฮปปี้
ว่ากันว่าการตลาดที่ดีคือการสร้างความประทับใจให้คนไม่รู้ลืม โดยเฉพาะในยุค Attention economy ที่ทุกแบรนด์ต่างก็พยายามแย่งชิงความสนใจจากผู้บริโภคมากที่สุด ดังนั้นแบรนด์ไหนที่สามารถทำให้คนประทับใจได้ขั้นสุดก็ย่อมจะกลายเป็นแบรนด์ที่ฝังไปในใจคนๆ นั้นไปอีกนาน และยิ่งทุกครั้งที่ได้กลับมาเห็นภาพความประทับใจนั้นก็ยิ่งเป็นการสะกิดต่อมความจำให้ความรู้สึกที่เรียกว่า Brand love กลับมาอีกครั้งครับ ก็เหมือนกับที่ True ทำ Memorable
คุณจำโฆษณาชิ้นล่าสุดที่เห็นก่อนเข้า YouTube ได้มั้ยครับ? ถ้าคุณจำไม่ได้ไม่ต้องรู้สึกผิดแปลกแต่อย่างไร เพราะคนส่วนใหญ่หรือแม้แต่ผมก็จำไม่ได้เหมือนกับคุณแหละ ถ้าจะผิดก็ต้องเป็นนักการตลาด ที่ยังทำโฆษณาแบบหนึ่งชิ้นเพื่อให้ล้านคนเห็น ยังเอาวิธีคิดการทำโฆษณาแบบยุคเก่า ที่ไม่ใช่ Personailzed Communication เหมือนเอา TVC มาฉายลงจอ YouTube