เพราะบ้านในฝันอาจไม่พอดีกับชีวิตจริง โฆษณาบ้านดีๆจาก LPN ที่อยากให้คุณดู แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมผมถึงรักโฆษณานี้

วันนี้ผมจะมาเล่าถึงโฆษณาบ้านชิ้นนี้จาก LPN ไม่ใช่ในฐานะนักการตลาดหรือคนโฆษณาแต่อย่างไร แต่จะมาเล่าในฐานะคนมีบ้าน คนที่เคยซื้อบ้าน และก็เป็นอีกหนึ่งคนที่หลงไปกับคำว่า “บ้านในฝัน” แบบที่ใครหลายคนเป็นเมื่อตอนจะซื้อบ้านครับ

แน่นอนว่าการจะมีบ้านซักหนึ่งหลังสำหรับคนธรรมดาไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการคิดแล้วคิดอีก แล้วก็ต้องคิดอีกคิดแล้วว่าบ้านแบบไหนที่เราชอบ บ้านแบบไหนที่เราอยากอยู่ หรือบ้านแบบไหนที่เราคิดว่าเราอยู่แล้วจะมีความสุขครับ (คำว่าบ้านในที่นี้ผมขอหมายรวมถึงที่อยู่อาศัยทุกประเภท ตั้งแต่คฤหาสน์ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ จนไปถึงคอนโดเลยนะครับ)

จากประสบการณ์ตรงคนที่เคยผ่านการดูบ้านมาหลายโครงการ ตอนนั้นผมจำได้ว่ากว่าจะเลือกโครงการที่อยู่นั้นผ่านการเยี่ยมชมแทบจะทุกแบรนด์มาแล้ว ผมจำได้เลยว่าโครงการไหนพนักงานต้อนรับดี โครงการไหนพนักงานดูไม่ใส่ใจ โครงการไหนพนักงานดูนอบน้อมเหมือนกำลังบินอยู่ที่ชั้น Business Class หรือโครงการไหนเหมือนกำลังอยู่บนรถสองแถวอย่างไงอย่างงั้น บอกเลยว่ากว่าผมจะเลือกบ้านหลังนี้ผมผ่านการดูบ้านมาเยอะมาก และกว่าจะเลือกโครงการปัจจุบันได้ผมเข้ามาดูที่นี่ถึง 3 ครั้งถึงจะตัดสินใจในที่สุด

แน่นอนว่าตอนนั้นในฐานะคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์มีบ้านเป็นของตัวเองและไม่เคยมีประสบการณ์ซื้อบ้านมาก่อน เราได้แต่เลือกจากความประทับใจก่อนจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้าน เราเลือกจากความสวยงามภายนอกของบ้าน การต้อนรับของพนักงานตั้งแต่ป้อมยาม แม่บ้าน ไปจนถึงพนักงานขาย

จากนั้นเราก็เลือกจากการตกแต่งภายในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เช่น มีกระเบื้องบิ่นมั้ย ชักโครกกดลงมั้ย มีเศษสีเปรอะเปื้อนอยู่ตามบ้านมั้ย พื้นลามิเนตตรงไหนไม่แน่น หน้าต่างบานประตูปิดล็อคได้เรียบร้อยดีมั้ย รั้วหน้าบ้านสมบูรณ์มั้ย ปลั๊กไฟใช้งานได้ดีทุกจุดมั้ย แน่นอนครับว่ามือใหม่อย่างผมก็เลือกได้จากแค่ความสวยงามสมบูรณ์ก่อนการอยู่ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าหลังการอยู่แล้วบ้านหลังนี้จะพอดีกับเรามั้ย

อ้อ แล้วก็บวกกับการจัดบ้านตัวอย่างที่สำนักงานขาย เพื่อให้เราพอจะจินตนาการภาพออกได้ว่าบ้านเปล่าๆที่เรากำลังจะซื้อไป ถ้าแต่งดีๆก็สวยได้ไม่แพ้กันนี่แหละนะ

ครับ แต่ทั้งหมดนั้นคือเรื่องที่เราคิดทั้งนั้น เราคิดว่าเราน่าจะชอบเพดานที่สูงโปร่ง เพราะมันดูหรูมาก เราคิดว่าเราน่าจะชอบห้องเพนเฮ้าส์ที่ยาวๆ เพราะเราคิดว่ามันโอ่อ่าดี เราคิดว่าเราชอบบ้านที่ไม่มีราวบันได เพราะมันให้ความรู้สึกเรียบหรู เราคิดว่าเราชอบบ้านที่มีกระจกเยอะๆ เพราะเราคิดว่ามันจะทำให้เรารู้สึกโปร่งสบายไม่อึดอัด แต่ก็นั่นแหละครับ นั่นคือสิ่งที่เราคิดเท่านั้น เพราะคุณจะรู้ว่าบ้านในฝันของคุณจะพอดีกับการใช้ชีวิตของคุณมั้ยก็ต่อเมื่อคุณย้ายเข้ามาอยู่แล้วเท่านั้น

เพราะธุรกิจอสังหาเป็นอะไรที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ด้วยราคาที่สูงและโอกาสในการจะซื้อบ้านของแต่ละคนก็มีน้อยเหลือเกิน เอาเป็นว่าซื้อกันได้คนละครั้งในชีวิตก็หรูแล้ว ดังนั้นอัตราการซื้อซ้ำของธุรกิจประเภทนี้ถือว่าต่ำมาก เพราะส่วนใหญ่ถ้าไม่ชอบก็ต้องทนอยู่ทนผ่อนไปอีก 30 ปี เพราะบ้านไม่ใช่ห้องเช่าที่ถ้าไม่พอเข้าเมื่อย้ายเข้าแล้วจะย้ายออกเลยไม่ได้ครับ

ทั้งหมดนี้ที่เล่ามานี้ก็เพื่อจะบอกว่า เมื่อมีคนๆหนึ่งส่งโฆษณาชิ้นนี้มาให้ผมดู เป็นโฆษณาชิ้นล่าสุดจาก LPN บริษัทอสังหาที่อยู่ในบ้านเรามานาน แต่มักจะไม่ค่อยพูดจาหวือหวา ไม่ค่อยออกโฆษณาชิ้นใหญ่ ไม่ค่อยทำอะไรที่แฟนซีมากมายนอกจากก้มหน้าก้มตาทำบ้านให้กับลูกค้า และทำงานดูแลลูกบ้านให้อยู่ดีมีสุขครับ

โฆษณาชิ้นนี้ไม่พูดจาคุยโตโอ่อ่าเหมือนโฆษณาบ้านทั่วไป โฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้บอกว่าตัวเองมีอะไรเหนือกว่าคู่แข่งมากมาย โฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้บอกว่าชีวิตที่ LPN จะเป็นชีวิตที่แฟนซีสนุกสนาน คุณจะได้ใช้ชีวิตเหมือนปาร์ตี้ทุกวัน ใช้ชีวิตเหมือนพักในรีสอร์ทหรูตลอด 365 วัน โฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้บอกว่าคุณจะมาพบรักกับคนแปลกหน้าห้องตรงข้ามที่ LPN สิ่งเดียวที่โฆษณาชิ้นนี้บอกคือการถ่อมตัวที่จะพูด

พูดว่าตัวเองไม่ใช่บ้านในฝันของคนส่วนใหญ่ พูดว่าตัวเองมีแค่ไหนก็บอกแค่ไหน พูดว่าตัวเองไม่มีเทคโนโลยีล้ำที่คุณต้องว้าวแบบที่อื่น เพราะ LPN บอกว่าเค้าไม่ได้ทำบ้านในฝัน เพราะเค้าทำบ้านที่พอดีกับการใช้ชีวิตจริงๆ

ทำไมบ้านของ LPN ถึงเป็นบ้านที่พอดีกับการใช้ชีวิต

ถ้าคุณดูคุณโฆษณาชิ้นนี้คุณจะเห็นว่า LPN ออกแบบบ้านมาพอดีกับการใช้งานในทุกวัน โดยไมได้ออกแบบมาให้หวือหวาแต่กลับไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตจริง

ถ้าคุณดูโฆษณาชิ้นนี้คุณจะเห็นว่า ความปลอดภัยของโครงการ LPN ไม่ได้มาจากเทคโนโลยีล้ำสมัยแต่อย่างไร แต่มาจากความใส่ใจของพนักงานที่จำลูกบ้านแต่ละคนได้ว่าใครเป็นใคร

ถ้าคุณดูโฆษณาคุณจะเห็นว่าที่พนักงานของ LPN ดูแลลูกบ้านดีไม่ใช่เพราะถูกสั่งมาให้ทำ หรือถูกกำชับบังคับด้วย KPI แต่เพราะ LPN ใส่ใจให้พนักงานมีความสุข เมื่อพนักงานมีความสุขก็จะส่งต่อความสุขนั้นให้ลูกบ้าน แนวคิดเดียวกับ Richard Branson ที่ให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นอันดับหนึ่ง ลูกค้าเป็นอันดับสอง และผู้ถือหุ้นเป็นอันดับสาม (เจ้าของสายการบิน Virgin และธุรกิจในชื่อเดียวกันอีกมากมายทั่วโลก)

และช่วงที่ผมชอบมากที่สุดในโฆษณานี้คือ ช่วงนาทีที่ 1.23 ช่วงที่ LPN กล้าที่จะพูดว่า “อาจจะไม่มีใครฝันถึงบ้านแบบ LPN” เพราะประโยคในหนังโฆษณาบ้านถ้าคุณไล่ดูจะพบว่า ทุกชิ้นพยายามจะบอกว่าพวกเขาคือบ้านในฝันของคุณ แต่นั่นแหละครับ บ้านในฝันนั้นอาจไม่เหมาะกับชีวิตจริง เพราะเหมือนที่คนบอกว่าชีวิตจริงนั้นไม่เหมือนในฝัน

ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนธรรมดาเหมือนผม คนที่ยังทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ คนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความจริงเป็นส่วนใหญ่ การได้อยู่ในบ้านที่พอดีกับชีวิตจริงน่าจะดีกว่าคุณกว่าบ้านในฝันครับ

แต่แน่นอนว่าผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีบ้านในฝัน ผมมีแบบบ้านในฝันไว้มากมาย ผมมีภาพบ้านในฝันที่เมื่อวันหนึ่งผมอยากจะมีบ้านแบบนั้น ได้อยู่ในบ้านแบบนั้น และผมก็คิดว่าผมคงจะมีความสุขมากถ้าผมได้อยู่ที่บ้านในฝันหลังนั้น แต่ยังไม่ใช่วันนี้ หรือเร็วๆนี้ (เร็วที่ว่านี้คือสิบยี่สิบปีเป็นอย่างน้อยครับ) ถ้าผมไม่บังเอิญถูกหวยรวยหลายสิบหรือร้อยล้าน เมื่อนั้นผมคงจะเหมาะกับบ้านในฝันของผมจริงๆก็ได้

สุดท้ายนี้เมื่อดูโฆษณาชิ้นนี้จบคุณรู้มั้ยครับว่าผมคิดว่าอะไร ผมคิดว่าน่าเสียดายที่ตอนนั้นผมไม่ได้เข้าไปดูโครงการของ LPN เลย เพราะด้วย Location ที่ผมต้องการอยู่นั้นไม่มี บอกตรงๆว่าถ้าตอนนั้นทำเลที่ผมจะอยู่มี LPN ให้เลือก รับรองว่าผมต้องไม่พลาดที่จะเข้าไปเลือกแน่ๆ

เพราะรู้มั้ยครับว่าเวลาผมได้ยินคนพูดถึง LPN ทีไร สิ่งหนึ่งที่ผมได้ยินคือทีมงานนิติบุคคลนั้นบริหารจัดการดีมาก มากจนผมยังรู้สึกอิจฉาเลยทีเดียว ดังนั้นสิ่งที่ LPN ทำถือเป็นโฆษณาชั้นดี ถือเป็น Marketing ชั้นดี ยิ่งกว่าการทำแคมเปญโฆษณาที่หรูหราอลังการ หรือลดแลกแจกแถมมากกว่าเป็นไหนๆ

เพราะเมื่อคุณทำธุรกิจด้วยใจเหมือน LPN ที่คิดอยากให้ทุกคนมีบ้านที่ดีในราคาที่เอื้อมถึงได้ และยังคงทำต่อเนื่องมานานหลายสิบปีโดยไม่เปลี่ยนแปลง นั่นแหละครับคือโฆษณาที่ดีที่สุดที่ไม่มีคู่แข่งจะก๊อปได้ง่ายๆแน่นอนครับ

ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ LPN ไม่เคยบอกถึงการสร้างบ้านที่อาจไม่ใช่บ้านในฝัน แต่เป็นบ้านที่เหมาะกับการใช้ชีวิตจริง ไว้โอกาสหน้าผมจะขอเอามาเล่าให้ฟังกันอีกรอบครับ แล้วคุณจะรัก LPN เหมือนที่ผมรักครับ

ขอบคุณ LPN สำหรับเรื่องราวมากมายที่เล่าให้การตลาดวันละตอนฟัง และขอบคุณที่ส่งโฆษณาชิ้น บ้านในฝัน ที่ไม่มีใน LPN มาให้ครับ