Burger King 50/50 กับแคมเปญท้าให้ทาย ที่กินอยู่นั่นเนื้อสัตว์หรือเนื้อจากผักนะ

Burger King 50/50 กับแคมเปญการตลาดเพื่อเปิดตัวเมนูใหม่ Rebel Whopper และ Rebel Chicken King ที่ใช้เนื้อที่ทำจากพืช ด้วยการให้ลูกค้าทายว่า ที่กินอยู่นั่นเนื้อแท้หรือเนื้อจากพืชนะ
Burger King ที่ประเทศสวีดเดนออกเมนูใหม่เอาใจสายมัง(สวิรัติ) ด้วยเบอร์เกอร์เนื้อผัก(เนื้อที่ทำจากผัก)ที่ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสทดแทนเนื้อไก่และเนื้อวัว แล้วทำเป็น challenge ให้ลูกค้าคนกินได้ลองทาย
เพราะอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ในวันนี้นั้นเป็นหนึ่งตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน เราคงคิดไม่ถึงกันว่าวันหนึ่งตัวนั้นก่อคาร์บอน หรือที่เรียกว่า carbon footprint มากมายขนาดไหน เพราะไม่ใช่แค่อากาศที่วัวหายใจ แต่อาหารที่เอามาป้อนวัวส่วนใหญ่เป็นธัญพืชที่ต้องปลูกและขนส่งมาจากแดนไกล ไหนจะต้องใช้น้ำรด ไหนจะต้องขนส่งด้วยรถมาป้อนวัว ยังไม่นับว่าวัวแต่ละตัวตดกันมากมายในแต่ละวัน ฟังดูเหมือนขำแต่ปัญหาตดวัวกับภาวะโลกร้อนนี่เกี่ยวพันกันนะครับ เพราะการเลี้ยงวัวเพื่อให้พอเลี้ยงปากท้องความต้องการของชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ลองคิดดูแล้วกันว่าวัวร้อยล้านตัวเมื่อเอาตดมารวมกันจะกลายเป็นก๊าซมีเทนได้มหาศาลขนาดไหน
กลับมาที่เบอร์เกอร์เนื้อผักที่ Burger King ทำขึ้นมาเพื่อต้องการให้คนรู้ว่าการใช้พืชทดแทนเนื้อวัวนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริงแล้ว และยังดีต่อโลกเราด้วย (ผมเคยเขียนเรื่องนี้ลงนิตยสาร Rabbit Today ถ้าสนใจกดอ่านต่อได้ที่นี่เลยครับ) ดังนั้นทาง Burger King เลยต้องการทำให้คนได้มาลองพิสูจน์สองเมนูเนื้อผัก The Rebel Whopper และ Rebel Chicken King ด้วยลิ้นตัวเองว่าเหมือนเนื้อจริงมากจนยากจะแยกออกได้ ที่สำคัญยังกระตุ้นให้เกิดยอดขายตามไปด้วยจากการ challenge นี้อีกด้วยครับด้วยแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า Burger King 50/50
แคมเปญ Burger King 50/50 นี้ถ้าลูกค้าคนไหนสนใจร่วมกิจกรรมก็แค่สั่ง 2 เมนูเดิมไม่ว่าจะ Whopper หรือ Crispy Chicken แล้วทางพนักงานจะสุ่มหยิบเบอร์เกอร์ชิ้นที่เนื้อทำมาจากพืช หรือชิ้นที่เนื้อทำมาจากเนื้อเดิมจริงๆให้โดยไม่บอก โดยทั้งสองอันจะมีรูปร่างทั้งภายในและภายในเหมือนกันจนแยกไม่ออก เพื่อป้องกันการเกิดอคติหรือเดาได้ก่อนกิน ดังนั้นมีวิธีเดียวที่จะรู้ได้คือต้องกิน กินดูแล้วเข้าไปตอบคำถามผ่านการสแกนที่กล่องเบอร์เกอร์ว่าชิ้นที่กินอยู่นี้เป็นเนื้อจริงหรือเนื้อผัก

ผู้บริหารของ Burger King ออกมาให้คำตอบว่ามีลูกค้าถึง 40% ที่ทายไม่ถูกเพราะแยกไม่ออกระหว่างเนื้อผักและเนื้อจริง จะเห็นว่าแม้แคมเปญ 50/50 ของ Burger King นี้จะไม่มีรางวัลใดๆให้ แต่คนส่วนใหญ่ก็เต็มใจที่จะซื้อเพื่อร่วมกิจกรรมทายด้วยตัวเอง
ถ้าวิเคราะห์ให้ลึกลงไปที่ Strategy จะพบว่าในแง่แคมเปญการตลาด การออกสินค้าใหม่ให้คนลองไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การจะทำอย่างไรให้คนอยากลองต่างหากที่คือความท้าทายของแคมเปญนี้ ดังนั้นการทำให้คนอยากลองเลยต้องทำให้กลายเป็นเรื่องสนุกที่ท้าทายของ consumer
และพอวิเคราะห์ไปที่ Marketing ก็จะพบว่าทุกวันนี้มีกลุ่มคนที่เป็นสายมังสวิรัติ หรือ Vegetarian หรือ Vegan เพิ่มมากขึ้นทุกที ดังนั้นธุรกิจที่ขายเนื้อเป็นหลักถ้าไม่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆที่เกิดขึ้นก็เท่าเป็นการเสียโอกาสทางการเงินที่จะทำกำไรไปอย่างน่าเสียดาย
และเมื่อสำรวจลงไปจะพบว่า แม้แต่คนที่กินเนื้อเป็นปกติหรือไม่ใช่สาย Vegan เองก็ใช่ว่าจะอยากกินเนื้อสัตว์ทุกมื้อ ดังนั้นเมนูใหม่จากเบอร์เกอร์คิงที่ใช้เนื้อผักแทนเนื้อสัตว์ก็จะสามารถตอบช่องว่างทางการตลาดที่จะกลายเป็นโอกาสงามทางธุรกิจได้
สุดท้ายนี้ผมอยากจะ challenge คุณว่า ลองทำสินค้าใหม่ของคุณให้กลายเป็นการ challenge ที่จะซื้อหรือได้ครอบครองดูซิครับ บางครั้งรางวัลที่จูงใจผู้บริโภคได้ดีที่สุด ก็คือการได้ลองเท่านั้นเอง
อ่านแคมเปญอื่นของ Burger King เพิ่มเติม https://www.everydaymarketing.co/?s=burger+king
