IBM ชี้ CEO ไทย เร่งโมเดิร์นไนซ์ระบบไอที เตรียมพร้อมยุค Generative AI
IBM เผยว่าในช่วงที่กำลังเข้าสู่ยุค Generative AI หลายธุรกิจเริ่มตื่นตัว เร่งปรับระบบเทคโนโลยีของธุรกิจ เพื่อรองรับการนำ generative AI เข้ามาใช้ในองค์กรให้ทันในอนาคตอันใกล้
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 สถาบันการศึกษาคุณค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็ม (IBV) เผยผลการศึกษาซีอีโอทั่วโลกล่าสุด พบครึ่งหนึ่งของซีอีโอในอาเซียน-ไทยที่สำรวจ มองการโมเดิร์นไนซ์ระบบไอที (tech modernization)เป็นภารกิจที่มีความสำคัญสูงสุด เนื่องจากเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านการเพิ่มผลิตภาพขององค์กร
รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า แต่ก็ยังมีอุปสรรคสำคัญที่ซีอีโอต้องเผชิญในก้าวย่างการโมเดิร์นไนซ์ระบบ และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง generative AI เข้ามาใช้ในองค์กร
IBM : ผลวิจัยเผยว่าเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเร็วอย่างเดียวไม่พอ ต้องโปร่งใสและน่าเชื่อถือ
จากการศึกษาประจำปีนี้* ภายใต้หัวข้อ CEO decision-making in the age of AI, Act with intention ได้ทำการศึกษาซีอีโอทั่วโลก 3,000 คน รวมถึงได้สำรวจซีอีโอจากบริษัทข้ามชาติในสหรัฐอเมริกาในประเด็น generative AI เพิ่มเติมอีก 200 คน
3 ใน 4 ซีอีโอที่สำรวจเชื่อว่าความได้เปรียบในการแข่งขัน จะเป็นของผู้ที่มีระบบ generative AI ที่ก้าวล้ำที่สุด โดย ผู้บริหาร ทั้งในแง่อคติเอนเอียง จริยธรรม หรือความปลอดภัย
- 57% ของซีอีโอในอเมริการที่สำรวจ มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล
- 48% กังวลเกี่ยวกับอคติหรือความถูกต้องของข้อมูล
วันนี้ gererative AI คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับใช้ AI ให้เข้ากับความต้องการได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงพัฒนาและขยายการใช้งานบนคลาวด์ต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่นคล่องตัว
และสิ่งสำคัญที่ซีอีโอควรใช้เป็นตัววัดความสำเร็จคือความน่าเชื่อถือ ความสามารถในการแสดงที่มาของผลลัพธ์อย่างโปร่งใส ความถูกต้องเที่ยงตรงของข้อมูลที่ AI แสดงผล และที่มองข้ามไม่ได้คือการที่ข้อมูล และความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคต้องได้รับการปกป้องและคุ้มครอง
นาย สวัสดิ์ อัศดารณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ IBM ประเทศไทย กล่าวว่า ในวันนี้ที่ซีอีโอต่างเร่งเครื่องนำ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน รวมถึงการดูแลลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น โมเดล AI ต่างๆ ที่ใช้ต้องมีความปลอดภัย ให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ และมีการควบคุมดูแลให้เป็นไปตามข้อพิจารณาด้านกฎระเบียบ และจริยธรรมต่าง ๆ ผลการศึกษายังสะท้อนมุมมองของซีอีโอในอาเซียน ซึ่งรวมถึงในประเทศไทย อาทิ เทคโนโลยี คือเรื่องสำคัญเร่งด่วนและเป็นกุญแจหลักที่ขับเคลื่อนองค์กร
- 50% ของซีอีโอที่สำรวจในอาเซียน รวมถึงในไทย มองการโมเดิร์นไนซ์ระบบ แอพพลิเคชันไอทีเป็นภารกิจที่มีความสำคัญสูงสุด โดยที่การเพิ่มผลิตภาพขององค์กร
- 48% และการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า
- 48% เป็นสองเรื่องที่มีความสำคัญสูงสุดรองลงมา
เมื่อถามว่าผู้บริหารระดับ C-Suite ตำแหน่งใดที่จะมีส่วนต่อการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดในอีกสามปีข้างหน้าซีอีโอในอาเซียนและในไทยระบุว่า คือ
- COO 62%
- CFO 54%
ผู้บริหารด้านเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของซีอีโอเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดย 41% ของซีอีโอมอง CIO, CTO และ Chief Digital Officer หรือ CDO ในฐานะผู้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดขององค์กร ซีอีโอระบุว่าพร้อมที่จะนำ generative AI มาใช้ แต่ผู้บริหารอื่น ๆ ยังมีข้อกังขา
- 75% ของซีอีโอในสหรัฐฯ ที่สำรวจเชื่อว่าองค์กรที่มี generative AI ที่ก้าวล้ำมากที่สุดจะมีความได้เปรียบในการแข่งขัน
- 50% ของซีอีโอระบุว่าได้เริ่มนำ generative AI มาใช้กับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ แล้ว โดย 43% ระบุว่ากำลังใช้ generative AI เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
- 36% ใช้เทคโนโลยีในการตัดสินใจดำเนินงานต่างๆ
- 69% ของซีอีโอในสหรัฐฯ มองเห็นถึงประโยชน์ของการนำ generative AI มาใช้ทั่วทั้งองค์กร
- 29% ที่มองว่าองค์กรมีความเชี่ยวชาญภายในมากพอสำหรับการเริ่มใช้ generative AIมีผู้บริหารอาวุโส (ที่ไม่ใช่ซีอีโอ)
- 30% เท่านั้น ที่มองว่าองค์กรของตนพร้อมนำ generative AIมาใช้อย่างมีความรับผิดชอบ Generative AI กำลังทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงด้านบุคลากร แต่ยังขาดการประเมินผลกระทบในภาพกว้าง
- 43% ของซีอีโอในสหรัฐฯ ที่สำรวจ ระบุว่าได้ปรับลดหรือปรับตำแหน่งงานของพนักงาน อันเป็นผลพวงมาจาก generative AI
- 28% วางแผนที่จะดำเนินการดังกล่าวในอีก 12 เดือนข้างหน้า
- 46% ของซีอีโอที่สำรวจระบุว่า generative AI นำสู่การจ้างพนักงานเพิ่ม
- 26% มีแผนจ้างงานเพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ดี มีซีอีโอในสหรัฐฯ เ
- 28% ที่ได้ประเมินผลกระทบที่ generative AI อาจมีต่อบุคลากรของตนแล้ว
- 36% วางแผนที่จะทำในอีก 12 เดือนข้างหน้า
IBM เป็นผู้ให้บริการไฮบริดคลาวด์และ AI รวมถึงบริการคอนซัลติ้งที่มีความเชี่ยวชาญชั้นนำของโลก ที่ช่วยให้ลูกค้าในกว่า 175 ประเทศสามารถใช้ประโยชน์จากมุมมองเชิงลึกจากข้อมูลของตน รวมถึงปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ ลดต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมของตน หน่วยงานภาครัฐและบริษัทที่ให้บริการระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญต่างๆ กว่า 4,000 แห่ง ไม่ว่าจะในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน การสื่อสารและโทรคมนาคม หรือการดูแลสุขภาพ เลือกใช้แพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์แบบของไอบีเอ็มและ Red Hat OpenShift เพื่อรองรับการเร่งเครื่องดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย
นวัตกรรมก้าวล้ำของไอบีเอ็ม ทั้ง AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, โซลูชันคลาวด์เฉพาะอุตสาหกรรม รวมถึงบริการคอนซัลติ้ง ช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกแบบเปิดและยืดหยุ่น บนพื้นฐานของความมุ่งมั่นด้านความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส ความรับผิดชอบ การบริการ และการเปิดโอกาสให้กับปัจเจกบุคคลทุกกลุ่มที่เป็นที่ยอมรับมาอย่างยาวนานของไอบีเอ็ม
ผลวิจัย ของ IBM ชี้กลุ่มธุรกิจเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ยุค Generative AI
สัญญานการปรับเทคโนโลยีของกลุ่มธุรกิจ กำลังบ่งบอกว่าโลกธุรกิจในอนาคตที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และการปรับตัวให้ทัน สำหรับนักธุรกิจนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการอยู่ในตลาดได้ ถึงแม้จะต้องทุ่มงบมหาศาลแต่เพื่อรักษาการเป็นกลุ่มที่ผู้บริโภคเลือกใช้ ก็ถือว่าคุ้มค่า สำหรับเบนซ์ในฐานะผู้บริโภค ก็จะเฝ้ารอและหวังว่าจะได้รับความสะดวก รวดเร็วและมีความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไอบีเอ็มได้ที่ www.ibm.com
อัพเดทข่าวสาร เพื่อติดปีกให้คุณเป็นนักการตลาดที่ไม่ OUT !!! อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ เพจการตลาดวันละตอน เว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนค่ะ