ถอด 3 กลยุทธ์ Development Product ปรับสินค้าให้โดนใจผู้บริโภค ของ Samsung TV
ถอด 3 กลยุทธ์ Development Product ปรับสินค้าให้โดนใจผู้บริโภค ของ Samsung TV
ต้องยอมรับจริง ๆ ค่ะ ว่าในยุคนี้ เทรนด์การเสพสื่อของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก จากเมื่อก่อนดูทีวีช่อง 3 5 7 9 เปลี่ยนมาดู Youtube Netflix Tiktok และสำหรับการโฆษณาแล้วก็ต้องปรับ Channel ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคเหมือนกัน ผู้ผลิตทีวีหลายเจ้าต้องปรับตัว เพราะยอดขายทีวีลดลงเนื่องจาก Demand ในการเสพสื่อเปลี่ยน ฉะนั้นแบรนด์ก็ต้องปรับตัว เพื่อให้สามารถอยู่ในท้องตลาดได้
และในครั้งนี้ผู้เขียนขอนำกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าเพื่อให้อยู่ในท้องตลาดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคของแบรนด์จอทีวีแบรนด์หนึ่ง จากเดิมที่เป็นแบรนด์ทีวีค่ายหลัก และในปัจจุบันหันมาปรับสินค้าเพื่อให้อยู่ในท้องตลาดได้นั่นก็คือจอภาพโฆษณานั่นเองค่ะ
Samsung คือแบรนด์ทีวี ที่หันมาพัฒนาสินค้าสู่การเป็นป้ายโฆษณา ที่ทุกท่านคุ้นตาไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ป้ายโฆษณาที่สนามบิน หรือตามแหล่งชอปปิงต่าง ๆ ลองสังเกตุดูได้ค่ะว่าป้ายโฆษณาที่คุณเห็นนั้นเป็นเเบรนด์อะไร ในบทความนี้เราจะขอนำกลยุทธ์การ Develop Product ทั้ง 3 ด้านที่ซัมซุงทำเพื่อพัฒนาสู่การเป็นมากกว่าจอที่วีกันค่ะ
กลยุทธ์ 3 การ Development Product ของ TV Samsung เพื่อปรับสินค้าให้โดนใจผู้บริโภค
1.ผนึกกำลังพาร์ทเนอร์เติมเต็มอีโคซิสเต็มจอภาพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ซัมซุงมีการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่น ตลอดจนผู้ผสานระบบไอทีและระบบภาพและเสียง เพื่อเปิดจินตนาการและสร้างสรรค์ประสบการณ์จอภาพระดับพรีเมียมแห่งอนาคต ทั้งเพื่อการใช้งานในสำนักงาน ในบ้าน ในร้านค้าปลีก ในพื้นที่กลางแจ้งขนาดใหญ่ ในโรงพยาบาล และในสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย
ซัมซุงได้ลงทุนสร้าง Executive Briefing Center (EBCs) ไว้ถึง 6 แห่งทั่วภูมิภาค
- ออสเตรเลีย
- อินโดนีเซีย
- มาเลเซีย
- สิงคโปร์
- ไทย
- เวียดนาม
เพื่อจัดแสดงโซลูชั่นจอภาพที่หลากหลาย ลูกค้าสามารถชมป้ายโฆษณาดิจิทัลเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวเอง ตลอดจนพบปะพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ
ส่วนในเวียดนาม ซัมซุงได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการโซลูชั่น Pro AV ชั้นนำของเวียดนาม EV Group เพื่อติดตั้งจอภาพ The Wall IWA ในตลาดเป็นครั้งแรกให้กับห้องประชุมวีไอพีของบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำอย่าง Viettel Group ในกรุงฮานอยอีกด้วยค่ะ
2.ยกระดับสินค้าด้วยจอภาพ The Wall IWA เพิ่มประสบการณ์ในการประชุม ให้กับห้องประชุมวีไอพีของ Viettel Group
ด้วยขนาดที่ใหญ่ที่สุดถึง 146 นิ้ว The Wall จึงเป็นหัวใจสำคัญในห้องประชุมของ Viettel Group ให้ประสบการณ์ระดับพรีเมียมและดื่มด่ำสมจริงที่สุดในการแสดงคอนเทนต์ UHD เช่น วีดีโอของแบรนด์และภาพวาด 3 มิติ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสื่อสาร
The Wall ยังมีคุณสมบัติ Multi View สามารถเปิดคอนเทนต์จากแหล่งสัญญาณต่างๆ ได้ถึง 4 แหล่งพร้อมๆ กันบนหน้าจอเพียงจอเดียวโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์แยกสัญญาณเพิ่มเติม ช่วยให้ดำเนินการประชุมอย่างทั่วถึงในทุกๆ ส่วน คอนเทนต์ต่างๆ ได้รับการนำเสนอและปรึกษาหารือไปพร้อมๆ กันได้ในคราวเดียว
3.สร้าง Word of mouth ตอกย้ำความสำเร็จในการนำเสนอประสบการณ์จอภาพที่งาน InfoComm Asia 2023
ในงาน InfoComm Asia 2023 ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อไม่นานนี้ จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ซัมซุงและพันธมิตรในภูมิภาคร่วมกันจัดแสดงระบบภาพและเสียงเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความจำเป็นในช่วงการกลับเข้าทำงานในออฟฟิต รวมถึงผู้บริโภคที่ต้องการให้ปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจต่างๆ เป็นไปอย่างมีคุณค่ายิ่งขึ้นกว่าเดิม
บูธจัดแสดงของ Audio-Technica นำเสนอโซลูชั่นเพื่อการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอในหลากหลายรูปแบบร่วมกับซัมซุง
Audio-Technica ได้จัดแสดงการประชุมในพื้นที่สำนักงานที่สมจริง โดยการใช้โซลูชั่นภาพของซัมซุงที่มีขนาดให้เลือกได้ตั้งแต่ 40 ถึง 49 นิ้ว ร่วมกับโซลูชั่นเพื่อการประชุมทางไกลผ่านวีดีโอของบริษัทภาพและเสียงสัญชาติญี่ปุ่น
Creston ผู้นำระดับโลกในด้านระบบควบคุมเพื่อจัดการสภาพแวดล้อมด้านภาพและเสียง ทั้งในสำนักงาน ห้องประชุม ห้องพักโรงแรม และในบ้าน ได้สาธิตความยืดหยุ่นในการจัดประชุมในองค์กรที่จัดขึ้นที่ใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการจับกลุ่มพูดคุย การประชุมในห้องประชุม หรือการประชุมในพื้นที่เปิดโล่งภายในสำนักงาน
โดยใช้ Video Wall รุ่น VH55R-R จอภาพ 4 จอที่มีขอบจอบางเฉียบเพื่อให้ภาพที่สวยงามไร้รอยต่อสำหรับการรับชมในพื้นที่เปิดโล่งภายในสำนักงาน มุมมองภาพที่กว้างทำให้มองเห็นเนื้อหาได้อย่างชัดเจนสำหรับผู้ร่วมชมจำนวนมากๆ ในพื้นที่ขนาดใหญ่
และใช้จอภาพแบบป้ายโฆษณาดิจิทัลในซีรีส์ QMB และ QMR ของซัมซุง โดยหน้าจอเหล่านี้มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Quantum ความละเอียด 4K ในดีไซน์ที่เพรียวบาง ได้สัดส่วนสวยงาม ตลอดจนการปรับสีแบบไดนามิกเพื่อให้ภาพที่สมจริงดุจมีชีวิต ทำให้ผู้ใช้เห็นความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างครบถ้วน และทำให้การประชุมและการนำเสนอเนื้อหาต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
จุดศูนย์กลางความสนใจในบูธก็คือ The Wall All-In-One ที่ใช้แสดงคอนเทนต์วีดีโอผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ JBL ของ HARMAN เทคโนโลยี Ultra Chroma ขนาด 146 นิ้วสามารถถ่ายทอดภาพที่สวยจับใจบนพื้นหลังสีดำสนิทและยังติดตั้งยังง่ายขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก โดยใช้เวลาในการติดตั้งเพียง 2 ชั่วโมง นอกจากนี้การปรับตั้งค่าแบบอัตโนมัติของ The Wall All-In-One ยังช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการปรับตั้งค่าให้พร้อมใช้งาน
เลสลี่ โกห์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจจอภาพของซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียนเนีย กล่าวว่า “จอภาพคือส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ซึ่งองค์กรต่างๆ กำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์ลูกค้าในโลกดิจิทัลยุคใหม่”
“หัวใจสำคัญของการสร้างประสบการณ์ในยุคใหม่ก็คือคอนเทนต์ และบริการที่นำเสนอบนจอภาพคุณภาพสูง และมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เช่น ที่บูธชานมไข่มุกแบบบริการตัวเอง การใช้เมนูในรูปแบบป้ายโฆษณาดิจิทัลจะสามารถให้ข้อมูลที่น่าสนใจในแบบเรียลไทม์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้ ส่วนในที่ทำงาน จอภาพ interactive ที่ให้ความดื่มด่ำสมจริงจะมอบประสบการณ์ที่เท่าเทียมกัน ทั้งแก่ผู้ที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ ด้วยตัวเองและผู้ที่เข้าร่วมในแบบเสมือนจริง นี่คือสาเหตุที่ตลาดระบบภาพและเสียงเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ (Pro AV) ในภูมิภาคนี้ยังเต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจอย่างต่อเนื่อง โดยที่องค์กรต่างๆ มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องพลิกโฉมกลยุทธ์เกี่ยวกับจอภาพของตนเอง”
ซัมซุงมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันสร้างสรรค์โซลูชั่นจอภาพที่ล้ำสมัย เพื่อตอบสนองความคาดหวังและความต้องการใหม่ๆ ของการใช้ชีวิตในยุคของชาวดิจิทัล ไม่ว่าในด้านของการทำงานหรือความสนุกสนานเพลิดเพลิน โซลูชั่นจอภาพของซัมซุงก็กำลังส่งอิทธิพลในทางบวกต่อประสบการณ์ที่มีคุณค่าระหว่างผู้คนอย่างต่อเนื่อง ทุกๆ วัน
จากการพัฒนาสินค้าของ Samsung ที่เราได้อ่านในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าไม่ว่าแบรนด์สินค้าน้อยหรือใหญ่ต่างก็ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สามารถอยู่ในตลาดและอยู่ในพฤติกรรมของผู้บริโภคกันทั้งนั้นสำหรับใครที่กำลังทำธุรกิจก็ไม่ควรมองข้ามสิ่งนี้เพราะจะทำให้แบรนด์สินค้าของเราไม่ตกเทรนด์และยังสามารถดำรงอยู่ได้ในท้องตลาด
เช่นกันค่ะ ถ้าหากว่าคุณประสบปัญหากับการทำธุรกิจที่กำลังรู้สึกว่าธุรกิจกำลังมีปัญหาลูกค้าหายไปจากร้านหรือสินค้ามีกระแสตอบรับได้ไม่ดีเท่าเดิมอาจจะลองกลับมาสำรวจความต้องการของลูกค้าก่อนว่าสินค้าของเราเป็นที่ต้องการของลูกค้าหรือไม่เพื่อพัฒนาสินค้าของเราให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าก็จะสามารถทำให้ธุรกิจของเราดำเนินต่อไปในท้องตลาด ได้อีกยาวนาน
สำหรับบทความนี้ต้องขอตัวลาไปก่อนนะคะและในบทความต่อไปหากผู้เขียนไปเจอแคมเปญหรือแบรนด์ที่ทำการตลาดได้น่าสนใจ จะนำมาฝากกับท่านผู้อ่านอีกเช่นเคยค่ะสำหรับครั้งนี้ สวัสดีค่ะ
อ่านข้อมูลการทำการตลาดอื่น ๆ เพิ่มเติม คลิกที่นี่ได้เลยค่ะ
อัพเดทข่าวสาร เพื่อติดปีกให้คุณเป็นนักการตลาดที่ไม่ OUT !!! อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม คลิกที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ เพจการตลาดวันละตอน เว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนค่ะ