หลังจากที่ผมเห็นแอดในหน้า Timeline ของ Line มาซักระยะ ด้วยความสงสัยเลยแอบหลังไมค์ไปถามคนรู้จักใน Line ว่าขอรายละเอียดหน่อย พบว่าแอดตัวนี้สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก นอกจาก Demographic แล้วยังสามารถเลือกตาม Interest ต่างๆที่น่าจะมาจากการเก็บข้อมูลของ Line
ผู้บริหารหรือเจ้าของบริษัทบางคนอาจมองว่า “เก้าอี้” ก็เป็นแค่ “เก้าอี้” มีไว้เพื่อ “นั่ง” แล้วทำงาน ก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายนัก ก็ไปหยิบหาเก้าอี้ถูกๆซักตัวที่นั่งนุ่มๆ เอนหลังได้บ้างไม่ได้บ้าง เอามาใส่ออฟฟิศให้พนักงานนั่งเพื่อทำงานไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เก้าอี้” นั่นสำคัญกว่าที่คิดเยอะนะครับ เพราะถ้าเก้าอี้นั่งไม่สบาย
ที่ผ่านมาผมเห็นหลายแบรนด์ที่เข้ามาปรึกษาและพูดคล้ายๆกันว่า อยากให้ลูกค้าตัวเองพิเศษ หรืออยากสร้างความพิเศษให้กับลูกค้าบางกลุ่ม แต่ถึงเวลาจริงกลับทำอะไรที่ “พิเศษเหมือนกัน” ที่ลูกค้าทุกคนก็พิเศษเท่ากันจนกลายเป็นว่าไม่มีใครที่พิเศษกว่าใครจริงเลย นี่คงเป็นปัญหาสุดคลาสสิคที่ไม่มีวันจบของบรรดานักการตลาดไปอีกนานว่าด้วยความ “เข้าใจผิด” หรือ “…ไม่เข้าใจ” ว่าอะไรคือความพิเศษจริงๆกันแน่ วันนี้ผมมีเรื่องนึงอยากมาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนมาแล้ว แต่เอามาเล่าวันนี้ก็ยังรู้สึกว่าใหม่อยู่เพราะไม่ค่อยมีแบรนด์ไหนกล้าทำอะไรให้ “พิเศษ”
หลังจาก Instagram เปิดตัว IGTV ขึ้นมาเพื่อให้บรรดาแบรนด์และ Creator หรือนักสร้างสรรค์วีดีโอทั้งหลายได้มีพื้นที่ปล่อยของมากขึ้น โดยฟีเจอร์ยอดนิยมใน IG ตอนนี้ก็คือ Stories และ Vote โดย Bacadi
Nyden แบรนด์แฟชั่นน้องใหม่ในเครือ H&M ใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Instagram ในการสร้างแบรนด์และสร้างชุดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็น millennials ได้อย่างน่าสนใจเลยอยากเอามาแชร์ให้ศึกษากัน การสร้างแบรนด์สมัยนี้โดยเฉพาะกับแบรนด์ที่อยากจะจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนยุคใหม่อย่าง millennials ให้ได้ แค่การพูดปาวๆผ่านโฆษณาจับใจไม่เพียงพอเหมือนวันวานอีกต่อไป แต่ต้องหาทางดึงให้เค้าเข้ามามีส่วนร่วมจริงๆให้ได้ ไม่ใช่แค่ผ่านการสร้างกิจกรรมสนุกๆ ที่ไม่ได้สาระแบบที่เคยทำๆกันมาเท่านั้น
เมื่อ Paypal ยักษ์ใหญ่ด้านการจ่ายเงินออนไลน์ที่อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในบ้านเรา แต่เป็นที่นิยมมานานในอเมริกาแล้วครับ ต้องการจะขยับขยายกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ ให้ใช้ Paypal มากขึ้น และในทางเดียวกันก็ต้องการเข้าถึงกลุ่มพ่อค้าแม่ขายที่เน้นหน้าร้านไม่ได้ออนไลน์ควบคู่กัน กับแคมเปญ Local Selects ที่ Paypal จะส่ง
Pedigree ทำแคมเปญด้วยการใช้น้องหมาที่เป็นเซเลปบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะ Facebook, Instagram, Twitter หรืออีกหลายช่องทางตามแต่จะเป็นที่นิยมกัน ในการชวนแฟนๆที่ติดตามให้มารับเลี้ยงน้องหมาที่คล้ายกัน เราจะสังเกตเห็นว่าทุกวันนี้บรรดาคนดังบนออนไลน์นั้นมีหมาที่เป็นเซเลปบนออนไลน์ที่มีคนติดตามมากหมายหลายหมื่นหลายแสนคนด้วย เอาเป็นว่าหมาบางตัวมีคนติดตามมากกว่าคนด้วยซ้ำ… Pedigree เห็นจุดนี้เลยเอามาต่อยอดด้วยการที่ร่วมมือกับองค์กรรับเลี้ยงสัตว์ในต่างประเทศ ด้วยการให้น้องหมาซุปตาร์ตัวนั้นช่วยโปรโมตหาเจ้าของให้กับน้องหมาที่หน้าตาคล้ายกัน เมื่อความคล้ายทำให้คนคุ้นเคย และหลงรักได้ง่ายขึ้น
ในช่วงเทศกาลบอลโลกที่เพิ่งผ่านมาแบบนี้ ที่ประเทศอังกฤษแต่ไม่เกี่ยวกับบอลโลก ทีมฟุตบอลอาเซนอลได้ติดตั้งระบบ AI และ IoT ที่ประกอบด้วยกล้องนับพันๆตัว เพื่อคอยตรวจจับและวัดอารมณ์ของคนในสนามหลายหมื่นถึงเกือบแสนคนไปพร้อมๆกัน ลองคิดดูซิว่าความสนุกในการออกไปดูทีมโปรดที่สนามนั้นคือการได้มีอารมณ์ร่วมไปกับแฟนทีมเดียวกัน ไม่ว่าจะได้ประตู หรือเสียจุดโทษ หรือนักบอลคนสำคัญของทีมต้องโดนใบแดงไปซะอย่างนั้น… โดยระบบจากบริษัทสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Snaptivity ที่จะคอยประมวลผลอารมณ์ของคนทั้งสนามไปพร้อมกัน
Follow the Money แคมเปญการตลาดที่สุดแปลกและแหวกแนวไม่เหมือนใครจะเบียร์ Newcasltle ที่อยากได้ผู้ติดตามหรือ Follower เพิ่ม แต่แทนที่จะเสียเงินให้เจ้าของแพลตฟอร์มอย่าง Twitter เหมือนเดิมที่ใครๆ ก็ทำกัน แต่เขาเลือกที่จะทำใหม่ด้วยการให้เงินกับคนที่มากดติดตามตรงๆ คนละ 1
Commondization คือชื่อเรียกของสถานการณ์ที่สินค้าประเภทเดียวกันแทบไม่ได้มีความแตกต่างที่แท้จริงหลงเหลืออีกต่อไปแล้ว ตลาดทิชชู่ก็เหมือนกัน แม้แต่ละเจ้าจะอ้างว่าแต่ ด้วยการเพิ่มนั่นนิด เติมกลิ่นนี่หน่อย แต่แท้จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีอะไรทำให้ตัวเองแตกต่างจนโดดเด่นได้อีกต่อไป คำถามสำคัญคือ ถ้าคุณเป็นเจ้าของแบรนด์หรือมาร์เก็ตติ้งของทิชชู่แบรนด์หนึ่ง คุณจะทำยังไงให้ตัวเองต่างจากคู่แข่งที่ขายทิชชู่ขาวๆดูสะอาดตาเหมือนกัน ความเชื่อครับ Zilk จาก Cellox ใส่ความเชื่อลงไปบนกล่องทิชชู่