แค่ใส่ใจกับการถูพื้นอีกนิด แล้วใส่ไอเดียควาทสนุกเข้าไปอีกหน่อย ก็ทำให้คนที่ผ่านไปมาอยากหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายแชร์ออกไปเป็น Instagrammable ได้ หลายครั้งที่หลายแบรนด์อาจทำงานที่เรียกว่า “ไวรัล” หรือทำอย่างไรให้คนอยากแชร์ content ของตัวเองออกไปนั้น กลับไม่เคยคิดถึงมุมของ “คน” หรือ “ตัวเอง” เลยว่า
ผม ในฐานะเจ้าของบ้านคนหนึ่ง เวลาบ้านมีปัญหา หรือต้องการติดตั้งอะไรเพิ่ม ไอ้การเดินไปซื้อของตามร้าน Hardware อย่าง Home Pro หรือ Home Work ไม่ใช่เรื่องยากหรอกครับ แถมเรื่องราคาถ้าแพงกว่านิดหน่อยก็ไม่ค่อยเป็นปัญหาด้วย เพราะลูกค้าที่ไม่มีความรู้เรื่องช่างอย่างเรา
ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าหลายวันก่อน (ความจริงต้องบอกว่าน่าจะร่วมเดือนแล้ว) ผมบังเอิญได้นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีราชดำริ จากปกติที่ไม่เคยแวะสถานีนี้เลย บังเอิญตอนกำลังจะออกจากสถานีนี้ ก็สังเกตุเห็นว่ามีการใช้พื้นที่แบบแปลกๆที่ไม่คุ้นตา อย่างที่เราเคยคุ้นกัน ถ้านึกถึงพื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้าก่อนจะขึ้นบันไดไปสู่เข้ารถไฟฟ้า ส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ชั้นออกตั๋วนั้นก็จะเป็นพวกร้านขายของบ้าง ขายอาหารบ้าง ขายหนังสือปากกาบ้าง หรือไม่ก็โซนตู้ atm กันไปตามปกติ แต่ที่สถานีราชดำรินี้ไม่ปกติเหมือนสถานีไหนๆที่ผมเคยเจอมา
สำหรับผมคิดว่าข่าวนี้น่าสนใจเพราะการที่แบรนด์ๆนึงจะลงมาทำอะไรแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จากประสบการณ์ที่ผ่านมาต้องใช้ทั้งแรงภายนอกและกำลังภายใน ในการช่วยขับดันให้เป็นจริง ต้องบอกว่าชื่นชมและดีใจกับฮอนด้าและเอเจนซี่ที่ทำแคมเปญนี้ให้เกิดขึ้นจริงครับ กับHonda X Greyhound กับการก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ แม้จะเป็นเพียงก้าวเล็กๆในสายคาคนนอกว่าจะมีซักกี่สาขา จะทำได้จริงนานแค่ไหน จะวัดผลยังไง แล้วจะมีคนเข้ามาจนคุ้มทุนมั้ย ถ้ามองอีกมุมนึงนี่คือการ “ลองลงทุน” เพื่อ
Monoprix ซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังมากสาขาที่ฝรั่งเศส ออกแคมเปญกระตุ้นให้คนออกมาซื้อของออฟไลน์มากขึ้น เพราะตอนนี้กระแสการซื้อของใช้ในบ้านแบบออนไลน์โตมากขึ้นทุกวัน จึงต้องหาทางให้คนออกมาช็อปที่ห้างตัวเองมากขึ้น เลยหยิบเอากระแสวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักที่ผ่านมา ด้วยการเปลี่ยนแพคเกจจิ้งใหม่ให้กลายเป็นสื่อรักแลกเบอร์โทร… ดูจากภาพและคลิปที่ลิงก์ด้านล่างจะเห็นว่า ที่ตัวกล่องใส่ซีเรียลอาหารและอื่นๆนั้น มีที่ว่างสำหรับให้เขียนเบอร์ลงไป ทีนี้ถ้าเจอหนุ่มหรือสาวคนไหนที่ปิ๊งในซุปเปอร์มาร์เก็ตนี้ ก็แอบหย่อนกล่องที่เขียนเบอร์ไว้แล้วใส่ตะกร้าเค้าได้เลย แคมเปญนี้เรียกความสนใจจากหนุ่มสาวชาวฝรั่งเศษได้มากมาย ทั้งหมดนี้จะเห็นว่าใจความสำคัญคือ
ตั้งสติก่อนช็อป ใครเคยมีปัญหาการเผลอมือลั่นกดช็อปออนไลน์เป็นประจำแบบไม่รู้ตัวเชิญอ่านทางนี้ เพราะคุณไม่ใช่คนส่วนน้อยบนโลกนี้ แต่กลับเป็นคนส่วนใหญ่ตามหลักประชาธิปไตยด้วยซ้ำ เพราะคนส่วนใหญ่กว่า 88.6% มักจะเผลอช็อปไปโดยไม่รู้ตัว และแต่ละครั้งที่เผลอก็เป็นเงินกว่า 81.75 ดอลลาร์ หรือราวๆสองพันห้าโดยประมาณ (แต่คิดว่าบ้านเรายอดช็อปคงน้อยกว่านั้น แต่อัตราการเผลอกดช็อปน่าจะไม่น้อยไปกว่ากัน) ทั้งหมดนี้มีคนถึง 64%
Uber อาจจะมีหนักใจกันบ้าง เพราะ Taxi ที่ลอนดอนกำลังปรับตัวเพื่อสู้กับ Uber ตั้งแต่ Uber ถือกำเนิดขึ้นมาก็ทำเอาแท็กซี่ทั่วโลกร้อนๆหนาวๆกันไปหมด ไม่ต้องมองไปไหนไกลเอาบ้านเราก็เห็นภาพแล้ว ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษเองก็กระทบไม่น้อยจนทำให้อัตราการต่อใบอนุญาติขับแท็กซี่ลดลงอย่างมาก ทางแท็กซี่อังกฤษก็เลยต้องหาทางปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด ด้วยการออกแบบ MyTaxi