บทความวันนี้นุ่นจะมาตาม Tracking ในเรื่องที่นักการตลาดบางคนน่าจะสงสัยว่า ถ้าแบรนด์เกาะกระแส Viral Meme ไว้ ยังไงก็ปังไม่แป้กจริงหรือ แล้วแบรนด์ใหญ่หรือแบรนด์เล็ก แบรนด์แบบไหนคนมา Engage มากกว่ากัน Viral เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นในเรื่องไหน เวลาใด
จริงๆ ถ้าใครติดตามบทความของการตลาดวันละตอน จะเห็นว่าเรามีเขียนบทความด้วยการใช้เครื่องมือ Social Listening Tools อยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระแสปีโป้สีม่วง / กระแส MK กับเสือพ่นไฟ / กระแส Save Ralph และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเราจะเน้นไปในการแกะ Social Data และวิธีการใช้งานเครื่องมือ Listening เป็นหลัก วันนี้สิ่งที่เพลินอยากโชว์ให้นักการตลาดได้ดูคือ หน้าตาข้อมูลจาก Social Listening
นักการตลาดหลายคนอาจจะยังเข้าใจผิดระหว่าง Social Monitoring vs Social Listening อยู่จนทำให้ใช้สลับกันอยู่บ่อยครั้ง และถึงแม้จะมีความคล้ายกัน แต่จริง ๆ ไม่เหมือนกันนะคะ หลายแบรนด์ให้ความสำคัญกับลูกค้า และมักหาช่องทางมอนิเตอร์ลูกค้าและแบรนด์อยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาสินค้า แต่ไม่รู้ว่าควรจะใช้เครื่องมืออะไรถึงจะตรงจุดประสงค์การใช้งาน
ในบทความนี้นุ่นจะพานักการตลาด และเจ้าของธุรกิจส่องเทรนด์ #เที่ยวทิพย์ ว่าคนเที่ยวแบบไหน จุดเช็กอินทิพย์สุดฮอตคือที่ไหน เชื่อว่าเดือนเมษายนของหลาย ๆ คนต้องเคยเป็นช่วงเวลาของทริปซัมเมอร์กับครอบครัว เช็กอินตามสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เรารู้กันอยู่ทำให้ทุกคนต้องปรับตัวค่ะ หลังจากมีกระแส #เที่ยวทิพย์ ที่เลื่อนไทม์ไลน์กี่ทีก็ต้องเจอในช่วงหยุดยาวต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้นนุ่นจะใช้ Mandala ซึ่งเป็น
จากกระแส Krystal Club เลาจน์หรูย่านทองหล่อที่โด่งดังที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่จนถูกนิยามให้เป็นระลอกหนัก แน่นอนว่าเกิดกระแสการพูดถึงมากมายบนโลกออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้วจะมีสักกี่คนที่รู้ว่าบนออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียนั้นมีการพูดถึง Krystal Club ในแง่มุมไหนบ้าง และแง่มุมใดบ้างที่ถูกพูดถึงมากกว่ากัน ใช่น้องฟ้าใสคนดังหรือไม่? แต่แอบบใบ้เบาๆ ว่ากลายเป็นคุณชูวิทย์ที่มีการถูกพูดถึงมากเป็นอันดับที่สอง แล้วแง่มุมใดของ Krystal
ต้องบอกว่าที่การตลาดวันละตอนของเรามีบริการทำ Research ให้กับลูกค้าด้วย ซึ่ง Part นึงของ Research ที่ว่าจะมาจากการเจาะหา Social Insights จากข้อมูล Social Data บนสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งเครื่องมือหลักๆ ในการหาข้อมูลบนโซเชียลนั้นเราใช้ เครื่องมือ Social Listening Tools และหลายครั้งเราก็พยายามผลักดันให้ลูกค้าเอง ให้เริ่มใช้เครื่องมือตัวนี้เพิ่มในระยะยาวด้วย แต่ก็มักจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า Social Listening เอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง หรือเคยลองใช้แล้ว แต่ไม่เจอ Data อะไรสำคัญเลย.. วันนี้เพลินจะมาแชร์ความสำคัญและประโยชน์ของเครื่องมือในแง่ของการทำการตลาดให้ฟังกันค่ะ
วันนี้เราจะมาแชร์เรื่องการใช้ Social listening tool เพื่อทำ Consumer Research เพื่อหา Insight ว่าคนไทยคิดอย่างไรกับประเด็นเรื่อง ผมร่วง ผมบาง และหัวล้าน กันครับ บทความนี้นุ่นจะใช้
จากกระแส Surf Skate Board หรือเซิร์ฟสเก็ตบอร์ดที่กำลังมาแรงในบ้านเราก็ทำให้ผมเกิดความคัน(อีกแล้ว) อยากรู้เหลือเกินว่าใครกันนะที่ทำให้เจ้าเซิร์ฟสเก็ตบอร์ดดังขึ้นมาจนห้างสรรพสินค้าต่างๆ ต้องจัดหาพื้นที่สำหรับคนกลุ่มนี้แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มาดูกันครับ ผมจะใช้ Social listening tool เจาะดูกันว่าตั้งแต่ต้นปี 2021 หรือ
ถึงเวลาที่นักการตลาดยุคดิจิทัลจะอัพ skill ทำความรู้จักกับ Social Listening Tools อย่างจริงจังกันได้แล้วนะคะ เหตุผลก็เพราะว่านอกจากจะสามารถพัฒนาความสามารถของนักการตลาดเองให้ทันโลกได้แล้ว ยังติดตัวไว้คอมเมนต์งานเอเจนซี่ได้ด้วยนะคะ แน่นอนว่าหลายคนคงเคยผ่านหรือยังต้องทำ Social media marketing report ส่งหัวหน้าเป็นรายวัน
วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าในช่วงโควิด19 ที่ผ่านมาใครกันนะที่ทำให้หม้อทอดไร้น้ำมันเป็นไอเท็มที่ต้องมีทุกบ้าน ด้วยการใช้ Google Trends + Social listening tool เพื่อขุดหาต้นตอของกระแสนี้ไปพร้อมกัน บอกไว้ก่อนนะครับว่าคอนเทนต์วันนี้จะยาวมาก ถ้าพร้อมแล้วไปลุยอ่านต่อกันได้เลยครับ ในหนังสือเล่มที่สอง Data-Driven Marketing